Skip to main content
sharethis

แม่ทัพภาคที่ 4 เปิดไทม์ไลน์ แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติประเด็นความมั่นคงและแผนปฏิบัติการด้านการบริหารและพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ระยะที่ 2 ตั้งแต่ปี 2566-2570 ด้วยการทยอยปรับลดกำลังทหารพรานจากกองทัพภาคที่ 1-3 กลับที่ตั้งปกติทั้งหมด ควบคู่ไปกับการปรับลดพื้นที่ประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ให้หมดสิ้นไปภายในปี 2570 - สถิติ ณ ปัจจุบัน เหลืออัตรากำลังพลเรือน ตำรวจ ทหาร 49,995 อัตราในพื้นที่


พล.ท.ศานติ ศกุลตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 (แฟ้มภาพกองทัพภาคที่ 4)

1 ก.ค. 2566 มติชนออนไลน์ และ The Standard รายงานตรงกันว่าพล.ท.ศานติ ศกุลตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 ระบุถึงสถานการณ์ปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ผ่านมาแล้วกว่า 19 ปี เกิดจากการกระทำของผู้ก่อเหตุรุนแรงในรูปแบบต่างๆส่งผลกระทบต่อชีวิต เศรษฐกิจและสังคมอย่างกว้างขวาง จากปัญหาดังกล่าว รัฐบาลจึงได้ส่งกำลังเจ้าหน้าที่ เข้าระงับยับยั้งและคลี่คลายสถานการณ์เพื่อสร้างความมั่นคงปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินและสร้างความสงบสุขให้เกิดขึ้นในพื้นที่

ทั้งนี้ในช่วงแรกของสถานการณ์ตั้งแต่ปี 2547-2553 มุ่งเน้นใช้กำลังทหารเป็นกำลังหลักรวมทั้งได้เพิ่มเติมกำลังทหารจากกองทัพภาคที่ 1-3 เข้าควบคุมสถานการณ์และยุติสภาพปัญหา โดยได้จัดชุดพัฒนาสันติเข้าปฏิบัติงานในหมู่บ้านที่ตรวจพบการเคลื่อนไหวอย่างรุนแรง 217 หมู่บ้านมุ่งเน้นการเสริมสร้างความเข้าใจ ปรับทุกข์ผูกมิตรและช่วยเหลือประชาชนในรูปแบบต่างๆ จนสามารถสร้างความเชื่อมั่นและไว้วางใจต่อเจ้าหน้าที่รัฐ ส่งผลให้สถานการณ์เริ่มคลี่คลายลงและมีแนวโน้มพัฒนาไปในทิศทางที่ดีขึ้นโดยลำดับ

จนกระทั่งเข้าสู่ระยะที่ 2 ของการแก้ปัญหาตั้งแต่ปี 2554-ปัจจุบัน โดยได้มุ่งเน้นเสริมสร้างประสิทธิภาพให้กำลังฝ่ายพลเรือนและกำลังตำรวจ ด้วยการเพิ่มอัตรากำลังตำรวจ 1,700 นาย จัดตั้งเป็นหมวดปฏิบัติการพิเศษ ทำหน้าที่ดูแลความปลอดภัยในเขตพื้นที่เมืองทั้ง 37 อำเภอและการเพิ่มอัตรากำลังสมาชิกกองอาสารักษาดินแดนกว่า 7,000 นายจัดตั้งเป็นชุดคุ้มครองตำบล 164 ชุด ทำหน้าที่ดูแลความปลอดภัยในหมู่บ้าน/ชุมชนโดยปฏิบัติงานร่วมกับกำลังภาคประชาชน ภายใต้แผนเพิ่มประสิทธิภาพเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครประจำพื้นที่เพื่อช่วยดูแลพื้นที่แทนกำลังทหารที่ได้ทยอยถอนกำลังกลับที่ตั้งปกติโดยเฉพาะทหารจากกองทัพภาคที่ 1-3 ได้ถอนกำลังกลับทั้งหมดตั้งแต่ปี 2559 -2560 รวมทั้งได้ทะยอยปรับลดอัตรากำลังจากหน่วยต่างๆ ในโครงสร้างของ กอ.รมน.ภาค 4 สน. ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในทุกๆ ปี ส่งผลให้สามารถปรับลดอัตรากำลังเจ้าหน้าที่ลงได้แล้ว กว่า 20,000 นาย คงเหลืออัตรากำลังทั้งพลเรือน ตำรวจ ทหาร ในปัจจุบัน 49,995 อัตรา

นอกจากนี้ยังได้เตรียมแผนการปรับลดอัตรากำลังให้สอดคล้องกับแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติประเด็นความมั่นคงและแผนปฏิบัติการด้านการบริหารและพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ระยะที่ 2 ตั้งแต่ปี 2566-2570 ด้วยการทยอยปรับลดกำลังทหารพรานจากกองทัพภาคที่ 1-3 กลับที่ตั้งปกติทั้งหมดควบคู่ไปกับการปรับลดพื้นที่ประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินให้หมดสิ้นไปภายในปี 2570 สำหรับกำลังของกองทัพภาคที่ 4 และกำลังในส่วนอื่นๆ ก็จะทะยอยปรับลดหรือปรับเปลี่ยนภารกิจให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในพื้นที่ตามห้วงระยะเวลา ทั้งนี้ หากสถานการณ์พัฒนาเข้าสู่สภาวะปกติ เกิดความมั่นคงปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน สามารถส่งผ่านการแก้ปัญหาไปสู่ระยะสุดท้าย "การเสริมสร้างสันติสุขและการพัฒนาอย่างยั่งยืน” ได้ ความจำเป็นในการใช้กำลังทหารก็จะค่อยๆ หมดสิ้นไปในที่สุด

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net