Skip to main content
sharethis

เครือข่ายรักษ์พะโต๊ จ.ชุมพร ร้อง กสม.สอบโครงการแลนด์บริดจ์ ทั้งระบบ และ ร้อง สผ. สอบการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมโครงการก่อสร้างทางรถไฟ ช่วงระนอง – ชุมพร   

29 พ.ย.2566 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า วานนี้ (28 พ.ย.) เครือข่ายรักษ์พะโต๊ะ จาก จ.ชุมพร เดินทางเข้ายื่นหนังสือ 2 ฉบับ ประกอบด้วย คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ คือ ปรีดา คงแป้น และศยามล ไกยูรวงศ์ เพื่อขอให้ตรวจสอบโครงการแลนด์บริดจ์ระนอง – ชุมพร (ทั้งระบบ)  รวมทั้งยื่นสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อขอให้ตรวจสอบการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมโครงการก่อสร้างทางรถไฟ ช่วงระนอง – ชุมพร         

โดยมีรายละเอียดหนังสือทั้ง 2 ฉบับดังนี้ 

เรื่อง ขอให้ตรวจสอบโครงการแลนด์บริดจ์ระนอง – ชุมพร (ทั้งระบบ)

เรียน คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (คุณปรีดา คงแป้น และคุณศยามล ไกรยูรวงศ์)

ตามที่รัฐบาลมีนโยบายที่จะดำเนินโครงการแลนด์บริดจ์ระนอง - ชุมพร และได้มีการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นประชาชนด้านผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (EIA และ EHIA) ทั้งจากโครงการท่าเรือน้ำลึกและเส้นทางรถไฟที่จะพาดผ่านพื้นที่อำเภอพะโต๊ะ ซึ่งที่ผ่านมาพวกเราทราบว่ามีการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นทั้งในระดับจังหวัด และระดับอำเภอไปแล้วหลายครั้ง และกำลังจะมีการจัดเวทีเหล่านี้อีกหลายเวที ยังให้เกิดความสับสนและความไม่เข้าใจกับประชาชนชาวระนอง – ชุมพรจำนวนมาก เพราะชาวบ้านแทบจะไม่ได้รับรู้เลยว่ากระบวนการจัดเวทีที่ผ่านไปแล้ว และที่กำลังเกิดขึ้นในอนาคตนั้น จะส่งผลอะไรตามมากับพวกเราที่อยู่ในพื้นที่ ในขณะที่รัฐบาลปัจจุบัน โดยนายกรัฐมนตรีมีการประกาศไปแล้วว่าจะดำเนินการก่อสร้างโครงการนี้ พร้อมกับการเดินสายเชิญชวนผู้ประกอบการจากต่างประเทศมาลงทุนเพื่อให้เริ่มก่อสร้างได้ทันภายในช่วงที่รัฐบาลชุดนี้ยังมีอำนาจบริหารประเทศ จึงยี่งสร้างความไม่มั่นใจว่าการจัดเวทีทั้งหลายเหล่านั้นจะดำเนินต่อไปเพื่ออะไร หากรัฐบาลตัดสินใจที่จะเดินหน้าโครงการไปแล้วทั้งที่ผลการศึกษายังไม่แล้วเสร็จ

เครือข่ายรักษ์พะโต๊ะ ถือเป็นตัวแทนของกลุ่มที่จะได้รับผลกระทบจากโครงการนี้โดยตรง ขอร้องเรียนมายังคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ให้ทำการตรวจสอบโครงการแลนด์บริดจ์ระนอง - ชุมพร ทั้งระบบ ทั้งกับกับรัฐบาล และหน่วยงานราชการที่มีส่วนเกี่ยวกับทุกโครงการที่กำลังดำเนินการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นทั้งหมด โดยมีประเด็นสำคัญให้ตรวจสอบเบื้องต้น ดังนี้

  1. ขณะนี้รัฐบาลได้อนุมัติให้มีการดำเนินการอะไรบ้างภายใต้โครงการแลนด์บริดจ์ระนอง - ชุมพร อย่างเช่นมีการจัดการศึกษาเรื่องอะไรบ้าง (มีการจัดทำ EIA และ EHIA หรืออื่นๆจำนวนกี่โครงการ) และมีแผนการดำเนินการในเรื่องเหล่านั้นอย่างไรบ้าง และแต่ละเวทีนั้นอยู่ในกระบวนการศึกษาของโครงการอะไรบ้าง และทั้งหมดนั้นอยู่ในขั้นตอนไหน อย่างไร
  2. เมื่อโครงการแลนด์บริดจ์ ระนอง - ชุมพร เป็นโครงการขนาดใหญ่ ที่ต้องใช้งบประมาณจำนวนมหาศาลและจะเกิดผลกระทบในวงกว้างกับประชาชนในพื้นที่ทั้ง 2 จังหวัด ทำไมรัฐบาลถึงไม่ทำการศึกษาผลกระทบในเชิงยุทธศาสตร์ หรือ SEA. เพื่อที่จะทำให้เห็นภาพรวมการดำเนินโครงการทั้งระบบ เพราะแม้แต่โครงการเล็กกว่านี้อย่างโครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะ จังหวัดสงขลา รัฐบาลประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังเห็นชอบให้จัดทำ SEA ก่อนการอนุมัติโครงการ
  3. ในขณะที่การศึกษาต่างๆภายใต้โครงการนี้ยังไม่แล้วเสร็จ แต่รัฐบาลกลับไม่สนใจและเดินหน้าขายโครงการให้ผู้ประกอบการต่างชาติมาร่วมลงทุนแล้วนั้น เท่ากับเป็นการสร้างแรงกดดันให้กับฝ่ายศึกษาที่จะต้องดำเนินการตามที่รัฐบาลต้องการ โดยไม่สนใจข้อเท็จจริงและความคิดความเห็นของประชาชนที่กำลังอยู่ระหว่างการจัดเวทีต่างๆในพื้นที่แม้แต่น้อย และเมื่อเป็นเช่นนี้ กระบวนการศึกษาด้งกล่าวจะดำเนินไปอย่างตรงไปตรงมาและถูกต้องตามหลักวิชาการหรือไม่ อย่างไร

พวกเราในนามเครือข่ายรักษ์พะโต๊ะ ขอเป็นตัวแทนของพี่น้องชาวจังหวัดระนองและชุมพรร้องเรียนให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ดำเนินการตรวจสอบการดำเนินงานของรัฐบาลและหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องกับโครงการแลนด์บริดจ์ระนอง – ชุมพร ทุกหน่วยงาน ตามข้อเสนอและข้อสังเกตที่ได้กล่าวไว้เบื้องต้น

 

 

เรื่อง ขอให้ตรวจสอบการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมโครงการก่อสร้างทางรถไฟ ช่วงระนอง – ชุมพร

เรียน สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

ตามที่การรถไฟแห่งประเทศไทย อนุมัติว่าจ้างกลุ่มบริษัทที่ปรึกษาแห่งหนึ่งให้ทำการศึกษา สำรวจ ออกแบบรายละเอียด และจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม(อีไอเอ) โครงการก่อสร้างทางรถไฟ ช่วงชุมพร-ท่าเรือน้ำลึกระนอง โดยจะศึกษาต่อยอดจากผลการศึกษาความเหมาะสมด้านเศรษฐกิจ วิศวกรรม และสิ่งแวดล้อมของสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร(สนข.) ที่เคยศึกษาไว้เมื่อปี 61 ให้สอดคล้องกับการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ เพื่อเชื่อมโยงการขนส่งระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน(แลนด์บริดจ์) และการพัฒนาโครงข่ายทางพิเศษระหว่างเมือง(มอเตอร์เวย์)และระบบราง (MR-MAP ) ทั้งนี้ รฟท. ตั้งเป้าว่าจะดำเนินการศึกษาทั้งหมดให้แล้วเสร็จตามกระบวนการในช่วงปลายปี พ.ศ. 2566 

เครือข่ายรักษ์พะโต๊ะ ซึ่งเป็นองค์กรชุมชนที่อยู่ในพื้นที่อำเภอพะโต๊ะ จังหวัดชุดพร ได้เฝ้าติดตามการดำเนินงานของบริษัทที่ปรึกษาที่ดำเนินงานในโครงการดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง มีข้อค้นพบว่า งานศึกษาดังกล่าวมีข้อบกพร่องในกระบวนการและเนื้อหาของการศึกษาที่ยังไม่ครบถ้วน ดังนี้

  1. กระบวนการจัดเวทีไม่ได้เชิญและเปิดพื้นที่ให้ประชาชนที่จะได้รับผลกระทบโดยตรงจากโครงการเข้าร่วมอย่างทั่วถึง และบางเวทีเป็นการเชิญประชาชนทั่วไปที่ไม่เข้าใจสภาพพื้นที่ อีกทั้งในการจัดเวทียังไม่ได้อธิบายรายละเอียดการดำเนินงานอย่างครบถ้วน จึงทำให้บริษัทที่ปรึกษาไม่สามารถได้รับข้อมูลที่ถูกต้องครบถ้วนเพียงพอที่จะนำไปประกอบการจัดทำรายงานอย่างมีคุณภาพได้
  2. โครงการก่อสร้างทางระไฟระหว่างจังหวัดชุมพร และระนอง ตั้งแต่จุดเริ่มต้นของท่าเรือทั้งสองฝั่งทะเล และระหว่างทางที่จะพาดผ่านอำเภอพะโต๊ะนั้น มีฐานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่หลากหลายและมีความละเอียดอ่อนที่จะได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงได้ ทั้งกับชายหาด ทะเลชายฝั่ง อันเป็นแหล่งทำการประมงของชาวประมงพื้นบ้านทั้งที่อ่าวอ่าง จังหวัดระนอง และที่แหลมริ่ว จังหวัดชุมพร ซึ่งจะต้องศึกษาผลกระทบการทำกินของคนในพื้นที่อย่างละเอียดและรอบครอบ
  3. พบว่าป่าชายเลนจังหวัดระนองตั้งแต่อุทยานแห่งชาติแหลมสน ปากคลองกะเปอร์ ไปจนถึงปากน้ำกระบุรี ถูกประกาศให้เป็นพื้นที่แรมซาไซต์ หรือพื้นที่ชุ่มน้ำระดับโลก ที่ประกาศตามภาคีอนุสัญญาแรมซาร์ ลำดับที่ 1183 เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2545 ซึ่งถือเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำในเขตป่าชายเลนแห่งแรกของโลก และบางส่วนของป่าชายเลนผืนนี้ได้ถูกประกาศให้เป็น “เขตสงวนชีวมณฑล” ภายใต้สาขาวิทยาศาสตร์ขององค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือองค์การยูเนสโก้ ด้วยเหตุผลเพราะป่าชายเลนแห่งนี้มีความสำคัญทางด้านการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพของโลก ซึ่งพบว่าบริษัทที่ปรึกษาโครงการก่อสร้างทางรถไฟเส้นนี้ ยังไม่มีการนำข้อมูลที่อยู่ในข้อที่ 2 และข้อที่ 3 เข้ามาพิจารณาและวิเคราะห์เพื่อให้เห็นถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างครบถ้วน
  4. การเจาะอุโมงค์ที่ลอดผ่านภูเขาที่อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาว ได้ศึกษาเรื่องการย้ายของสัตว์ป่าที่มีอยู่ในพื้นที่อย่างครบถ้วนหรือไม่
  5. ด้วยเพราะลักษณะภูมิประเทศของเส้นทางรถไฟในโครงการที่เป็นภูเขาและเป็นลำห้วยสาขานับร้อยสายตลอดเส้นทาง แม้จะมีการออกแบบด้วยการยกระดับบางส่วน แต่จะมีพื้นที่ไม่น้อยต้องถมดินและรองหินเพื่อเป็นทางรถไฟจะทำให้เกิดการปิดทางน้ำเหล่านั้นจำนวนมาก ซึ่งเชื่อว่าจะกระทบต่อระบบนิเวศทั้งระบบ

พวกเราในนามเครือข่ายรักษ์พะโต๊ะ ขอเป็นตัวแทนของพี่น้องชาวจังหวัดระนองและชุมพรร้องเรียนให้สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะเป็นหน่วยงานที่จะต้องตรวจสอบและให้ความเห็นชอบการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม หรือ อีไอเอ ที่บริษัทที่ปรึกษากำลังทำการศึกษาในโครงการก่อสร้างทางรถไฟ ช่วงระนอง – ชุมพร กำลังดำเนินการอยู่นี้ ได้ทำการตรวจสอบข้อสังเกตดังกล่าวอย่างละเอียดถี่ถ้วน ทั้งนี้เพื่อให้มีกระบวนการรับฟังอย่างถี่ถ้วน และเพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นจากข้อบกพร่องจากการศึกษาดังกล่าวได้ เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายกับฐานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอันคงคุณค่าของประเทศนี้ต่อไป 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net