Skip to main content
sharethis

อัยการฟ้องม.112 “ยุกติ” คดีถูกกล่าวหาถูกกล่าวหาโพสต์ทวิตเตอร์ที่มีข้อความเชื่อมโยงกับข่าวลือ ที่สมศักดิ์ เจียมธีรสกุลโพสต์เมื่อปี 2564 โดยศาลให้ประกัน 2 แสนพร้อมเงื่อนไข เจ้าตัวสะท้อนแม้คดีจะเกิดยุคประยุทธ์แต่เนื้อหาคดีนี้ไม่พอให้ฟ้อง ชี้รัฐบาลใหม่ก็ยังไม่ได้จริงจังที่จะแก้ปัญหาที่เกิดจากการใช้กฎหมายมาตรานี้หรือปัญหาผู้ต้องขังคดีการเมือง

20 ก.พ. 2567 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานว่า วันนี้อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ 3 ส่งฟ้องคดีของ ยุกติ มุกดาวิจิตร อาจารย์ประจำคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ ในข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (3) จากกรณีที่ถูกกล่าวหาว่าโพสต์ทวิตเตอร์ที่มีข้อความเชื่อมโยงกับข่าวลือ ร.10 ประชวร ที่สมศักดิ์ เจียมธีรสกุลโพสต์เมื่อปี 2564

คดีนี้ มีผู้กล่าวหาคือ อภิวัฒน์ ขันทอง ทนายความของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.)  โดยเขากล่าวหายุกติว่าได้ทวีตข้อความผ่านทางทวิตเตอร์ส่วนตัวว่า “ข่าวลือ ถ้าไม่จริง ก็แปลงเป็นคำสาปแช่งแล้วกันครับ” ซึ่งเห็นว่าเป็นการหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายต่อพระมหากษัตริย์

ศูนย์ทนายความฯ ระบุว่า เอกนวินต์ ปานดำ พนักงานอัยการ ในคดีบรรยายฟ้องโดยสรุปว่า เมื่อวันที่ 12 พ.ค. 2564 ซึ่งเป็นช่วงวันและเวลาที่มีข่าวลือแพร่ไปทั่วในสื่อโซเชียลมีเดียว่าในหลวงรัชกาลที่ 10 ทรงเช้ารับการถวายการรักษาพระอาการประชวรด้วยโรคโควิด-19 ซึ่งจำเลยทราบข่าวลือดังกล่าวอยู่แล้วนั้น จำเลยได้บังอาจหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายต่อพระมหากษัตริย์ด้วยการโพสต์ข้อความว่า “ข่าวลือ ถ้าไม่จริง ก็แปลงเป็นคำสาปแช่งแล้วกันครับ” ผ่านทางบัญชีทวิตเตอร์ของตน ที่ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ เพื่อให้ประชาชนหรือบุคคลทั่วไปที่พบเห็นข้อความดังกล่าวเข้าใจได้ว่าจำเลยมีเจตนาพาดพิงค์องค์พระมหากษัตริย์

คำฟ้องระบุว่า ข้อความดังกล่าวของจำเลย เป็นการกล่าวที่มุ่งร้ายให้องค์พระมหากษัตริย์ เป็นอันตรายอย่างร้ายแรง อันเป็นการแสดงออกถึงความอาฆาตมาดร้าย และแสดงถึงเจตนาของจำเลยได้ว่า จำเลยมีความประสงค์ที่จะให้ผู้อ่านข้อความนั้นช่วยกันสาปแช่งพระมหากษัตริย์

อัยการยังบรรยายว่า คำกล่าวเช่นนี้เป็นการแสดงความไม่ปรารถนาดีและมุ่งร้ายต่อองค์พระมหากษัตริย์ เป็นการกระทำที่ย่ำยี เหยียบย่ำหัวใจของคนไทยที่รักและเทิดทูนต่อองค์พระมหากษัตริย์เป็นอย่างยิ่ง แสดงออกถึงความเกลียดชัง ความอาฆาตมาดร้าย และเป็นการใส่ความองค์พระมหากษัตริย์ โดยประการที่น่าจะทำให้พระองค์เสื่อมเสียพระเกียรติยศ เสื่อมเสียงชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชังอย่างร้ายแรง

อย่างไรก็ตาม อัยการไม่ได้คัดค้านการปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นพิจารณา โดยระบุว่า หากจำเลยยื่นขอปล่อยตัวชั่วคราว ขอให้อยู่ในดุลยพินิจของศาล

ต่อมา หลังศาลรับฟ้อง และนายประกันจากกองทุนราษฎรประสงค์ยื่นประกัน ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ประกันตัวจำเลย โดยให้วางหลักทรัพย์เป็นจำนวน 200,000 บาท พร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล

ศาลกำหนดวันนัดตรวจพยานหลักฐานในวันที่ 1 เม.ย. 2567 เวลา 09.00 น.

ศูนย์ทนายความฯ รายงานถึงความเห็นของยุกติต่อคดีของเขาว่า ตนไม่ผิดคาดที่จะมีการฟ้องดำเนินคดีในวันนี้ จริง ๆ แล้วการแจ้งความดำเนินคดี ม.112 กับประชาชนเป็นนโยบายในยุคสมัยของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ ซึ่งจากรูปคดีของตน ไม่ควรที่จะมีการดำเนินคดีแต่แรกด้วยซ้ำ แต่พอเปลี่ยนรัฐบาลมาก็ยังมีการดำเนินคดีอยู่ สะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลนี้ก็ไม่ได้มีความจริงจังในการแก้ปัญหาเกี่ยวกับกฎหมายนี้หรือไม่ได้มีความจริงจังเกี่ยวกับผู้ต้องขังทางการเมืองที่ถูกคุมขังอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งทำให้กระบวนการยุติธรรมมันผิดปกติ

อย่างไรก็ตาม ยุกติกล่าวเสริมว่า การที่บรรยากาศทางการเมืองเป็นไปในลักษณะเช่นนี้ จะยิ่งทำให้สถานการณ์แย่ลงไปเรื่อย ๆ ดังนั้นตนจึงหวังว่าจะมีการนิรโทษกรรมเกิดขึ้น ซึ่งครอบคลุมคดีการเมืองในทุกลักษณะ เพื่อเป็นการคลี่คลายปมปัญหาที่เกิดขึ้นในสังคมมาอย่างยาวนาน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net