พ่อทานตะวัน ยื่นคำร้องขอประกันตัว 2 นักกิจกรรม 'ทานตะวัน - ณัฐนนท์'-หวังรักษาชีวิตลูก หากได้ปล่อยตัว จะไม่ให้ทานตะวันยุ่งเกี่ยวกับการเมืองอีกต่อไป ด้านศาลขอฟังความเห็นพนักงานสอบสวน พิจารณาปล่อยตัววันพรุ่งนี้

24 ก.พ. 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานที่ศาลอาญา รัชดาฯ กรุงเทพฯ เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. สมหมาย ตัวตุลานนท์ พ่อของทานตะวัน และนักกิจกรรมการเมือง และนภสินธุ์ ตรีรยาภิวัฒน์ หรือ สายน้ำ นักกิจกรรมอิสระ เข้ายื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ นักกิจกรรมอิสระ และ ณัฐนนท์ ไชยมหาบุตร นักกิจกรรมอิสระ คดี พ.ร.บ.คอมฯ และมาตรา 116 จากกรณีโพสต์คลิปบีบแตรรถตำรวจรักษาความปลอดภัยขบวนเสด็จ เมื่อ 4 ก.พ.ที่ผ่านมา

พ่อของทานตะวัน ให้สัมภาษณ์กับสื่อก่อนเข้าไปยื่นคำร้องขอประกันตัว เปิดเผยว่า วันนี้มายื่นประกันตัว ทานตะวัน และณัฐนนท์ ทั้ง 2 คน และทั้งสองคนอดอาหารและน้ำประท้วงมากว่า 11 วัน ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม 

สมหมาย ตัวตุลานนท์

พ่อของทานตะวัน กล่าวว่า อาการของณัฐนนท์ แย่มาก แย่สุดๆ เลย เพราะเขาผอมอยู่แล้ว และร่างกายขาดน้ำและอาหาร เบลอไปหมด พูดไม่ไหว ส่วนอาการของทานตะวัน ตอนนี้เหลือแต่หนังหุ้มกระดูก พูดไม่ไหว เหมือนต้องกระซิบคุยกัน แทบไม่ได้ยินเลย 

พ่อของทานตะวัน กล่าวว่า ทานตะวันยังคงยืนยันไม่รักษาตัว หากไม่ได้รับการประกันตัววันนี้ ไม่ทราบว่าทางทนายความสามารถที่จะกล่อมเขา ให้รักษาชีวิตไว้ก่อนได้ไหม และหากไม่ได้ในวันนี้ เขาจะคุยกับแพทย์ให้รักษาชีวิตไว้ก่อนได้ไหม และค่อยๆ คิดต่อไป

ไม่มีทางไปป่วนขบวนเสด็จแน่นอน 

พ่อของทานตะวัน ได้ชี้แจงถึงเหตุการณ์ในคลิปเมื่อ 4 ก.พ.ที่ผ่านมาว่า ทั้งสองนักกิจกรรมไม่มีการป่วนขบวนเสด็จอย่างแน่นอน แต่เป็นการบีบแตรใส่รถตำรวจรักษาความปลอดภัยขบวนเสด็จเท่านั้น

พ่อของทานตะวัน กล่าวว่า ปกติ ทานตะวัน และณัฐนนท์ ไปร่วมงานฌาปนกิจ 'ลุงกฤต' ธนกฤต สุขสมวงศ์ อายุ 68 ปี ชาวจังหวัดสุพรรณบุรี เป็นนักกิจกรรมที่เคลื่อนไหวกับกลุ่มทะลุฟ้า หลังเสร็จสิ้นงาน ทานตะวัน และณัฐนนท์ ได้ขับรถขึ้นทางด่วน และไปเจอขบวนเสด็จ การเจอขบวนเป็นเรื่องปกติของผู้ขับรถอยู่แล้ว

สมหมาย มองว่า ที่มีการกล่าวหาว่า ทานตะวัน และณัฐนนท์ ตั้งใจจะไปป่วนขบวนเสด็จ เพื่อเป็นคอนเทนต์ ไม่สามารถทำได้ เพราะกรมสมเด็จพระเทพฯ จะมีหมายกำหนดการ แต่เราไม่ทราบว่า เขาจะออกจากวังเมื่อไร เวลาใด อาจจะตามกำหนดหรือก่อนกำหนด ไม่มีใครทราบเวลาที่แน่นอน ดังนั้น การตั้งใจไปป่วนขบวนเสด็จทำได้ยากมาก

ไม่ได้บีบแตรขบวนเสด็จ แต่เป็นการบีบแตรตำรวจรักษาความปลอดภัยขบวนเสด็จ

พ่อทานตะวัน มองว่า ในคลิปวิดีโอหลักฐานจากกล้องวงจรปิด รถของกรมสมเด็จพระเทพฯ สมมติว่าวิ่งอยู่ 100-120 กม. ต่อ ชม. ซึ่งรถกรมสมเด็จพระเทพฯ ได้ผ่านไปนานแล้ว ก่อนที่รถของทานตะวันจะบีบแตร ดังนั้น เขาขอตั้งคำถามว่า มันเป็นการป่วนขบวนเสด็จกรมสมเด็จพระเทพฯ ได้อย่างไร เพราะเขามองว่ามันเป็นการบีบแตรตำรวจรักษาความปลอดภัยของขบวนเสด็จเท่านั้น หรือบีบแตรตำรวจที่คอยกันขบวนรถ ซึ่งมีอยู่ในคลิปด้วย

สำหรับกรณีที่มีความเห็นบนโลกออนไลน์ระบุว่า รถของทานตะวันไปปั่น ไปเบียด ไปแทรกขบวนเสด็จฯ พ่อทานตะวัน มองว่า ถ้าลูกสาวทำแบบนั้นจริง ตำรวจใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดอย่างการยิงสกัด ลูกสาวอาจจะตายไปแล้ว ถ้าทำผิดจริง ตำรวจจับ ณ สถานที่เกิดเหตุไปแล้ว เพราะไม่งั้นเจ้าหน้าที่ถูกดำเนินคดีมาตรา 157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ 

พ่อทานตะวัน ระบุว่า วันแรกที่เขากลับมา เราว่าและด่าไปแล้ว แต่ไม่คิดว่าเหตุการณ์ที่รุนแรงขนาดนี้ 

พ่อของทานตะวัน ระบุว่า ในคลิปวิดีโอเด็กอาจมีน้ำเสียงไม่น่าฟัง หรือมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมออกไป แต่ถ้าตัดตรงนี้ออกไป และดูที่คำพูดอย่างเดียว อยากถามว่า เข้าข่ายยุงยงปลุกปั่นตรงไหน (มาตรา 116) ทำไมถึงเป็นเรื่องรุนแรง และเรื่องมันใหญ่โต ทำไมเอาเด็กไปยุ่งเกี่ยวกับการเมือง  

ถ้าออกมาจะไม่ให้ยุ่งกับการเมือง

สมหมาย กล่าวว่า อยากให้ศาลเมตตา และให้ 2 นักกิจกรรมออกมารักษาตัว และก็ให้พวกเขาได้สู้คดี ผิดก็ว่าไปตามผิด แต่ตอนนี้ยังไม่เกิดการตัดสินคดีเลย แต่สังคมก็ตัดสินไปแล้วว่าผิด พ่อทานตะวัน ระบุด้วยว่า ถ้าเขาออกมาได้ จะไม่ให้เขายุ่งเกี่ยวกับการเมืองอีกเลย

"ถ้าเขาออกมาได้ ผมจะไม่ให้เขายุ่งเกี่ยวกับการเมืองอีกเลย ให้เขาใช้ชีวิตวัยเด็กวัยรุ่นของเขา ให้เขาเรียนหนังสือให้จบ ผมจะบังคับเขาไม่ให้ยุ่งกับการเมือง" พ่อทานตะวัน ทิ้งท้าย

'สายน้ำ' นภสินธุ์ กล่าวว่า สำหรับการยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 และใกล้จะครบกำหนดฝากขังชั้นสอบสวน 12 วันแล้ว ต้องดูอีกครั้งว่า พนักงานาอบสวนจะฝากขังผัดที่ 2 อีก 12 วันหรือไม่

'สายน้ำ' นภสินธุ์ ตรีรยาภิวัฒน์

นภสินธุ์ ยืนยันว่า ทั้งทานตะวัน และณัฐนนท์ ไม่มีพฤติการณ์หลบหนี หรือยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานแน่นอน เพราะพวกเขาเป็นแค่เยาวชนเท่านั้น ขณะนี้ทั้ง 2 คนเจ็บป่วยอย่างมาก และเมื่อเปรียบเทียบกับ ทักษิณ ชินวัตร ที่ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวในคดีมาตรา 112 เนื่องจากอาการเจ็บป่วย นภสินธุ์ มองว่า เพื่อนนักกิจกรรมของเขาเจ็บป่วยไม่แพ้กัน

นภสินธุ์ กล่าวว่า ทานตะวัน และณัฐนนท์ ยังคงเป็นผู้บริสุทธิอยู่จนกว่าศาลจะตัดสินเด็ดขาด จึงอยากเรียกร้องให้ศาลคืนความยุติธรรมโดยการให้สิทธิประกันตัวพวกเขาทั้ง 2 คน

"อยากจะฝากเรื่องสุดท้ายว่า สิทธิที่ทุกคนควรได้รับ คือสิทธิในการประกันตัว ต้องบอกว่าทั้งตะวัน (ทานตะวัน) และ'แฟรงค์' (ณัฐนนท์) ยังเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ จนกว่าศาลจะตัดสิน และอยากจะฝากทุกคนว่า เพื่อนของเราทั้งสองคนใกล้จะตายแล้ว เพราะอดน้ำ และอาหาร อย่างยาวนานมากๆ แล้ว อยากจะฝากถึงศาลว่า ให้ความยุติธรรมกับเขา ในการคืนสิทธิประกันตัว" นภสินธุ์ กล่าว

หลังจากนั้น สมหมาย ได้เดินเข้าไปยื่นคำร้องขอประกันตัวในอาคารศาลอาญา รัชดาฯ

ศาลขอฟังความเห็นพนักงานสอบสวน

ต่อมา เมื่อเวลา 14.00 น. ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่า ที่ศาลอาญารัชดาฯ นภสินธุ์ ตรีรยาภิวัฒน์ เพื่อนสนิทของทานตะวัน และณัฐนนท์ ให้สัมภาษณ์ความคืบหน้าว่า วันนี้ศาลได้มีคำสั่งว่า เนื่องจากวันที่ 25 ก.พ. 2567 เป็นวันครบกำหนดฝากขังผู้ต้องหาทั้งสอง ครั้งที่ 2 เพื่อให้การสั่งปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหาทั้ง 2 เป็นไปด้วยรอบคอบ สมควรฟังความเห็นของพนักงานสอบสวนประกอบด้วย และให้ผู้ร้องนำเอกสารใบรับรองแพทย์มาแสดงเพิ่มเติม (ถ้ามี) นัดฟังคำสั่งวันที่ 25 ก.พ. 2567 เวลา 13.30 น. ลงชื่อ ธีรวิชช์ ควรเสรี ผู้พิพากษา 

นภสินธุ์ กล่าวว่า สำหรับใบรับรองแพทย์ที่จะยื่นให้ต่อศาลนั้น เป็นแบบฟอร์มส่งตัว ทานตะวัน ไปอยู่ภายใต้การดูแลของโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ จ.ปทุมธานี โดย แพทย์ รพ.ราชทัณฑ์ ให้ความเห็นถึงสาเหตุที่ต้องส่งต่อ เพราะ "เกินศักยภาพ" 

นภสินธุ์ กล่าวทิ้งท้ายว่าหากตำรวจฝากขังต่อ ซึ่งเพื่อนทั้ง 2 คนอาการจะแย่มากๆ ก็หวังว่าศาลจะให้ประกันตัว และก็ต้องมารอฟังคำสั่งในวันพรุ่งนี้ (25 ก.พ.)

เตรียมยื่นเอกสารเพิ่มพรุ่งนี้

นภสินธุ์ โพสต์โซเชียลมีเดีย วันนี้ ระบุเพิ่มว่า พรุ่งนี้ (25 ก.พ.) เวลา 13.30 น. ตัวเขากับพ่อแม่ของทานตะวัน จะไปยื่นเอกสารเพิ่มเติมตามที่ศาลสั่ง เอกสารเหล่านี้ พ่อกับแม่ขอร้องเอามาจากรพ.ธรรมศาสตร์ฯ ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (23 ก.พ.) และพวกเขาก็ได้ไปเอาของณัฐนนท์ มาตั้งแต่วันศุกร์ (23 ก.พ.) เป็นเอกสารที่พอจะหาได้ เช่นเดียวกัน

สายน้ำ ระบุว่า เพื่อนๆ ทานตะวัน และณัฐนนท์ จะไปเป็นกำลังใจให้พ่อแม่ทานตะวัน และพวกเขาจะไปฟังคำสั่งด้วยกัน ไม่ว่าผลจะเป็นยังไงพวกเขาจะไม่ทิ้งกัน  

ทั้งนี้ คดีความของทานตะวัน ตัวตุลานนท์ และณัฐนนท์ ไชยมหาบุตร สองนักกิจกรรมอิสระ ถูกตำรวจออกหมายจับข้อหา พ.ร.บ.คอมฯ และมาตรา 116 เมื่อ 13 ก.พ. ที่ผ่านมา จากกรณีที่ตะวัน โพสต์คลิปบีบแตรรถตำรวจอารักขาขบวนเสด็จ เมื่อวันที่ 4 ก.พ. 2567 

โดยตำรวจได้แสดงหมายจับ และควบคุมตัว ทานตะวัน และ ณัฐนนท์ ที่หน้าศาลอาญา รัชดาภิเษก และนำตัวไปที่ สน.ดินแดง และฝากขังที่ สน.ฉลองกรุง เป็นเวลา 1 คืน โดย 2 นักกิจกรรมได้ทำการอดอาหารและน้ำประท้วงโดยทันที โดยมีข้อเรียกร้อง 3 ข้อ ดังนี้

1. ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม 

2. ยุติการดำเนินคดีและคุมขังกับผู้เห็นต่าง 

3. เรียกร้องให้ไทยไม่ได้เป็นสมาชิกคณะมนตรีแห่ง องค์การสหประชาชาติ

ต่อมา วันที่ 14 ก.พ. 2567 สน.ดินแดง ได้นำตัว ทานตะวัน และณัฐนนท์ มาฝากขังที่ศาลอาญา เป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่ 14-25 ก.พ. 2567 โดยศาลได้อนุญาตฝากขัง และปฏิเสธคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว โดยณัฐนนท์ ถูกควบคุมตัวที่ เรือนจำกลาง ขณะที่ทานตะวัน ถูกควบคุมตัวที่ทัณฑสถานหญิงกลาง 

19 ก.พ.ที่ผ่านมา ทานตะวัน และณัฐนนท์ ถูกนำตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ และเมื่อวันที่ 22 ก.พ. 2567 ทานตะวัน ถูกนำตัวส่งจากโรงพยาบาลราชทัณฑ์ สู่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ หลังเธออดอาหารและน้ำ (Dry - fasting) รวม 9 วัน ขณะที่ณัฐนนท์ ยังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ โดยทั้งคู่ยังอดอาหารและน้ำประท้วงเพื่อยืนยัน 3 ข้อเรียกร้อง และปฏิเสธรับการรักษา และไม่รับยาบรรเทาใดๆ ทำให้ทั้งสองนักกิจกรรมมีความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตได้ทุกเมื่อ

ก่อนหน้านี้ เมื่อ 22 ก.พ. 2567 ทางทนายความได้ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว ทานตะวัน และณัฐนนท์ แต่ศาลมีคำสั่ง ยกคำร้อง โดยให้เหตุผลว่าไม่มีเหตุให้เปลี่ยนแปลงคำสั่ง