Skip to main content
sharethis

'พ่อตะวัน-ทนาย' ยื่นคำแถลงขอศาล หลังไม่ให้ประกัน 'ตะวัน-แฟรงค์' ยืนยันพวกเขายังเป็นผู้บริสุทธิ์ ถามศาลหากทั้งสองถึงแก่ชีวิต ใครจะรับผิดชอบจากการที่ไม่ให้ประกันตัว


ภาพโดยแมวส้ม

เมื่อวันที่ 26 ก.พ.2567 เวลา 10.00 น. ที่ ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน พร้อมด้วย นายสมหมาย ตัวตุลานนท์ บิดาของนางสาวทานตะวัน ตัวตุลานนท์ ผู้ต้องหาในคดี ม.116 เดินทางมายื่นคำแถลงต่อศาล ภายหลังจากที่ศาลมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยตัว

นายกฤษฎางค์ กล่าวว่า ปัจจุบัน น.ส. ทานตะวันถูกส่งตัว รพ.ธรรมศาสตร์ ซึ่งแพทย์ รพ.ราชทัณฑ์ ระบุว่าอาการของ น.ส.ทานตะวันเกินศักยภาพของ รพ.ราชทัณฑ์แล้ว ส่วนกรณีนายณัฐนนท์ ทาง รพ.ราชทัณฑ์ จะย้ายตัวออกไป แต่ตอนนี้ รพ.ภายนอก ยังไม่มีใครตอบรับ โดยอาการของทั้งคู่ค่อนข้างหนัก

นายกฤษฎางค์ กล่าวว่า สำหรับสาเหตุที่มาแถลงในวันนี้เพราะเนื่องจากวานนี้ศาลมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว วันนี้จึงได้ปรึกษากับทางพ่อและมีข้อสรุปตรงกันว่า จะยื่นประกันตัวใหม่หรืออุทธรณ์คำสั่งก็คงไม่ได้ วันนี้จึงมาแถลงให้ศาลอาญาทราบถึงความจำเป็นที่จะต้องปล่อยตัวชั่วคราวกรณีของน้องทั้งสองคน ซึ่งอยู่ระหว่างการฝากขังในชั้นสอบสวน ซึ่งตอนนี้พนักงานสอบสวนได้สอบสวนพยานไปหมดแล้ว เหลืออีก 5 ปาก ซึ่งเป็นตำรวจผู้จับกุม และชาวบ้านที่ยังไม่รู้ว่าเป็นใคร รวมไปถึงการตรวจสอบลายนิ้วมือ ซึ่งโดยหลักควรจะให้สิทธิ์ในการประกันตัวแก่ผู้ต้องหา และผู้ต้องหาไม่ได้มีพฤติการณ์หลบหนี อีกมั้งผู้ต้องหายังเป็นนักศึกษาซึ่งไม่มีอิทธิพลใดๆ ที่จะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานได้

นายกฤษฎางค์ กล่าวว่า วันนี้พ่อสมหมายจึงได้มายื่นคำแถลงต่ออธิบดีศาลอาญา โดยเนื้อหาระบุว่า “ตามที่ศาลอาญามีคำสั่งไม่ให้ปล่อยตัวชั่วคราว น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ บุตรสาวของข้าพเจ้า และ นายณัฐนนท์ ไชยมหาบุตร ข้าพเจ้าไม่ประสงค์โต้แย้งคัดค้านใดๆ แต่ขอให้ศาลอาญาดูแลรับผิดชอบชีวิตผู้ต้องหาทั้งสองที่ท่านไม่ให้ปล่อยตัวชั่วคราวในระหว่างสอบสวนด้วย เขาทั้งสองเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา อัยการยังไม่มีคำสั่งฟ้องคดีแต่อย่างใด ดังนั้นยังถือว่าเขาทั้งสองเป็นผู้บริสุทธิ์ตามกฏหมาย หากเขาทั้งสองถึงแก่ความตายไปในระหว่างที่ถูกสอบสวนโดยคำสั่งของศาลอาญา ก็ขอให้ท่านได้โปรดพิจารณาให้ความเป็นธรรมแก่ดวงวิญญาณของเขาทั้งสองด้วยว่า ใครจะต้องรับผิดชอบต่อการตายของเขาทั้งสองคนจากการที่ท่านมีคำสั่งไม่ให้ประกันตัวชั่วคราว ขอท่านได้โปรดพิจารณาและหาทางออกด้วย ควรมิควรแล้วแต่จะโปรด”

นายกฤษฎางค์ กล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า “เราไม่อยากให้เกิดการสูญเสียเพราะว่ามันจะเกิดการมองหน้ากันไม่ติด และกระบวนการยุติธรรมไม่ว่าจะถูกหรือผิด ถ้ามีคนตายอยู่ในระหว่างทำงานมันก็ไม่เหมาะสม”

ด้านนายสมหมาย กล่าวว่า วันนี้มันตื้อไปหมด สิ่งที่ตนเองทำคือเอาลูกสาวกับแฟรงค์ออกมารักษา ขณะนี้กระบวนการทางคดียังอยู่ในระหว่างการสอบสวนไม่ใช่การสั่งฟ้อง หากว่าจะเป็นคดีร้ายแรงและโทษจำคุกสูง ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีการสั่งฟ้องศาลจะตัดสินได้อย่างไร ตนยืนยันว่าเด็กทั้งสองไม่ได้หลบหนี มีที่อยู่หลักเป็นแหล่งแน่นอน หรือไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานไม่ได้ ถ้าหากไม่ให้เอาเด็กสองคนนี้ไปรักษา ถ้าเกิดอะไรขึ้น ทางคุณต้องรับผิดชอบ ไม่ใช่เฉพาะร่างกายของน้องที่แย่ไปหมด

“หากท่านกลัวว่าน้องจะหนี คุณเอาตำรวจไปตามเลย ซึ่งถ้าหากน้องหนี หนีไปนานแล้ว ไม่ต้องรอถึงตอนนี้หรอก แม้วันนี้ตนเบาใจว่าน้องอยู่ รพ.ธรรมศาสตร์ ซึ่งตอนนี้ยังไม่ได้คุยกัน เพราะยังไม่สามารถเยี่ยมได้เนื่องจากติดวันหยุด ตนคาดว่าอาการน้องทั้งสองคงหนักขึ้นเรื่อยๆ ถ้าเป็นไปได้ขอให้แฟรงค์ย้ายออกมาก่อนและเข้า รพ. ที่สามารถรักษาได้” นายสมหมาย กล่าวทิ้งท้าย

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net