Skip to main content
sharethis

'หมอเหวง-หมอสันต์-อาจารย์ธเนศ' ยื่นคำแถลงคัดค้านฝากขัง 'ตะวัน-แฟรงค์' คดี ม.116 หวังศาลใช้ความเมตตากรุณา ให้ประกันตัวผู้ต้องหาทั้งสอง ก่อนศาลยันไม่ได้ประกัน ตามคำสั่งเดิม 

16 มี.ค. 2567  เวลา 9.30 น. ที่ ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก นพ.เหวง โตจิราการ อดีตแกนนำ นปช. ศ.นพ.สันต์ หัตถีรัตน์ อดีตรองประธานสมาพันธ์ประชาธิปไตย ศ.ธเนศ อาภรณ์สุวรรณ อดีตคณบดีคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พร้อมด้วย นภสินธุ์ ตรีรยาภิวัฒน์ หรือ สายน้ำ อรวรรณ ภู่พงษ์ หรือ แบม และประชาชน เดินทางมายื่นคำแถลงขอให้ศาลพิจารณาไม่รับฝากขังเพื่อผดุงความยุติธรรมของประเทศ ให้กับทานตะวัน ตัวตุลานนท์และณัฐนนท์ ไชยมหาบุตร หรือ แฟรงค์ ผู้ต้องขังในคดีมาตรา 116 จากกรณีที่ถูกกล่าวหาว่า “บีบแตร” ใส่ขบวนเสด็จและโต้เถียงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สั่งให้จอดรถ

นพ.เหวง กล่าวว่า วันนี้ที่ตนมายื่นคำแถลงเพราะรู้สึกเห็นอกเห็นใจและเป็นห่วง ตะวันและแฟรงค์ รวมถึงเป็นห่วงกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทย ตลอดเวลาชีวิตของตนเรียนรู้มาอย่างหนึ่ง ว่าสิ่งสำคัญที่สุดของมนุษย์คือความยุติธรรม มนุษย์คนทุกคน ทนทุกอย่างได้ แต่ทนความอยุติธรรมไม่ได้ และที่ใดในโลกนี้ ไม่มีความยุติธรรม ที่นั่นก็จะไม่มีความสงบสุขเด็ดขาด ที่ผ่านมาตนต่อสู้เพื่อสิทธิเสรีภาพและความยุติธรรมมาโดยตลอด

วันนี้ตนจึงมาขอความเมตตาจากศาล โปรดกรุณา ให้ท่านกรุณายกคำร้องของตำรวจ ที่จะมายื่นฝากขังผู้ต้องหาทั้งสองในผัดต่อไป เพราะว่าตำรวจสามารถสืบสวนสอบสวนพยานต่างๆได้โดยไม่จำเป็นต้องเอาตะวันและแฟรงค์เข้าไปขังอยู่ในเรือนจำ การเอาผู้ต้องหาทั้งสองไปฝากขังในเรือนจำโดยอ้างว่าจะต้องสืบสวนสอบสวนเสาะแสวงหาพยานหลักฐาน ตนว่าฟังไม่ขึ้น และเป็นสิ่งที่สร้างความทุกข์ยากขมขื่นโดยไม่จำเป็น ทั้งนี้ตนเคารพกฎหมายและเคารพกระบวนการยุติธรรมว่ากฎหมายกระบวนการยุติธรรมจะเป็นที่พึ่งของประชาชนทั้งประเทศที่จะสร้างความยุติธรรมขึ้นได้

ตนเติบโตมาในยุค 14 ตุลาคม 2516 ผ่านเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 ประชาชนในยุค 14 ตุลา เห็นการต่อสู้ของนิสิตนักศึกษาที่ต่อสู้เพื่อความยุติธรรม ตนได้พูดคุยกับทนายคนหนึ่งที่ได้รับรางวัลแมกไซไซ เขาเคยปรารภกับตนว่ากฎหมายในการฝากขัง 7 ผัด ผัดละ 12 วันนั้น น่าจะไม่มีความยุติธรรมให้กับผู้ที่ถูกกล่าวหาเพราะอาจจะเป็นไปได้ว่าให้ตำรวจใช้เป็นเครื่องมือในการเล่นงานผู้เห็นต่างหรือไม่เห็นด้วย"

อดีตแกนนำ นปช. กล่าวทิ้งท้ายจึงมากราบเรียนต่อศาลว่าได้โปรดยกคำร้องที่ตำรวจจะยื่นฝากขังในผัดต่อไป เพื่อคืนความยุติธรรมให้กับตะวันและแฟรงค์ โดยผู้ต้องหาทั้งสองไม่ได้มีประวัติในการไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน มีครอบครัวและที่อยู่เป็นหลักแหล่ง จึงไม่มีเหตุใดเลยที่จะฝากขังผู้ต้องหาทั้งสองให้อยู่ในเรือนจำ หรือถ้าเป็นไปได้ ตนขอเรียนไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ทางตำรวจยกเลิกทำคำร้องฝากขังไปเลย

ศ.นพ.สันต์ กล่าวว่า วันนี้ที่ตนใช้คำว่าศาสตราจารย์นำหน้าเพราะสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 9 ทรงพระราชทานให้ตามคำทูลถวายของมหาวิทยาลัยมหาวิทยาลัยมหิดล หาใช่เพื่อเป็นการข่มขวัญหรือโอ้อวด กบินแพทย์ประการใดไม่

ในฐานะแพทย์ที่เห็นผู้ป่วยโดยเฉพาะผู้ป่วยเด็กหรือเยาวชนที่กำลังอยู่ในภาวะอันตรายถึงชีวิตจากการอดอาหารมากกว่า 1 เดือน จึงใคร่ขอความเมตตาจากผู้ที่เกี่ยวข้องให้เลิกจองจำเด็กและเยาวชนที่ได้รับกระบวนการยุติธรรมที่อาจจะไม่เป็นธรรมแก่เด็กที่ศาลยังไม่ตัดสิน

ตนได้ติดตาตรึงใจตั้งแต่เรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาเมื่อ 80 ปีก่อนกับพระราชนิพนธ์ของล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 6 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว หรือ สมเด็จพระมหาธีรราชเจ้า ที่ส่งมีบทพระราชนิพนธ์หนึ่งว่าไว้ดังนี้

“อันความกรุณาปรานี จะมีใครบังคับก็หาไม่ หลั่งมาเองเหมือนฝนอันชื่นใจ จากฟากฟ้าสุราลัยสู่แดนดิน” อดีตรองประธานสมาพันธ์ประชาธิปไตย กล่าว และว่า ความเมตตากรุณา อันเป็นคุณธรรมสองประการแรกของพรหมวิหารสี่ ซึ่งเป็นคุณธรรมสูงสุดของความเป็นมนุษย์นั้น ย่อมอยู่ในจิตใจของมนุษย์ทุกคนและสามารถหลั่งออกมาเองจากใจโดยไม่มีใครจะบังคับได้ เพื่อเป็นเสมือนสายฝนจากฟากฟ้าสุราลัย ที่หลั่งลงมาชโลมแผ่นดินที่แห้งแล้งและแตกแยกให้กลายเป็นแผ่นดินที่ชุ่มฉ่ำ เป็นแผ่นดินผืนเดียวกันใหม่

”ขอให้ท่านตระหนักถึงคุณธรรมดังกล่าวและดำเนินการเพื่อให้ผู้ต้องหาที่ถูกจองจำได้รับการประกันตัว เพื่อมีชีวิตรอดและรับการดำเนินคดีนอกการจองจำต่อไป“ ศ.นพ.สันต์ กล่าวทิ้งท้าย

ศ.ธเนศ กล่าวว่า ตนรับหน้าที่สอนวิชาประวัติศาสตร์ ได้เห็นพัฒนาการทางแนวคิดของคนรุ่นใหม่เสมอมาเห็นความแตกต่างทางแนวคิดและทางความคิด ไม่ว่าจะ 14 ตุลา 6 ตุลา 19 และ พฤษภาทมิฬ ตนต้องการจะชี้ให้เห็นว่าที่ผ่านมานั้น เราอยู่กับความเปลี่ยนแปลงที่รัฐบาล ชนชั้นนำ ข้าราชการ และผู้ผลิต ผู้ประกอบการเล็กใหญ่ ได้ร่วมมือร่วมใจกันเอาชนะอุปสรรคภายนอกและภายในประเทศได้ตลอดเวลา การสืบทอดต่อเนื่องของประเทศไทยมีสูงมาก การสืบทอดอันนี้มันจะอยู่ต่อไปได้ หมายความว่า ชนชั้นนำ รัฐบาล ผู้มีอำนาจจะต้องสามารถเข้าใจสถานการณ์ภายนอก ภายใน เข้าใจถึงความรู้สึกของคนปกครอง และคนที่ถูกปกครอง ในตอนนี้ทั่วประเทศกำลังเปลี่ยนผ่านช่วงใหญ่มากอีกช่วงหนึ่ง นับตั้งแต่ยุคอาณานิคม เรากำลังเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ คือการเปลี่ยนแปลงคราวนี้ ถ้าเราทำผิดพลาด มันหมายถึงหายนะของมนุษยชาติของคนไทยทั้งประเทศ

เราต้องกลับมาหาหลักพื้นฐานที่เราทำได้ คือ สังคมต้องมีความยุติธรรม และอาศัยระบบกฎหมายที่เป็นสถาบันในการสร้างประเทศ สถาบันทั้งหลายจึงต้องยึดหลักเมตตาธรรม เมตตาธรรมคือธรรมค้ำจุนโลก ในที่สุดแล้วความยั่งยืนของกฎหมายเหตุผลทั้งหลายใช้ได้ แต่สิ่งที่ได้จากผลของการตัดสินนั้นมันมีความเมตตาหรือไม่ ซึ่งมันจะสถาปนาความสถาพรมั่นคงของสังคม

“ความขัดแย้งจะมีอย่างไรก็ตาม แต่คนส่วนใหญ่ต้องอยู่ เราต้องรักษาส่วนรวม ต้องรักษาสถาบัน แล้วสถาบันต้องเติบใหญ่ไม่ใช่ร่วงโรยไปตามเวลา เพราะฉะนั้นเมตตาธรรมค้ำจุนโลก ผู้ต้องหาทั้งสองเป็นคนรุ่นใหม่ความคิดเห็นของเขาจะถูกหรือผิดเป็นเรื่องที่ศาลต้องใช้วิจารณญาณและดุลยพินิจ ถ้าเขาผิดเราต้องเปลี่ยนแปลงแก้ไข แต่ไม่ใช่การลงโทษแบบกักขังทารุณกรรม จึงขอให้ปล่อยตัวผู้ต้องหาทั้งสองเสียตามกลไกที่ศาลมีอยู่ และหากมีบุคคลใดมายื่นขอประกันตัว ก็ขอให้ท่านพิจารณาข้อคำนึงของตนและพิจารณาให้ปล่อยชั่วคราวด้วย” อดีตคณบดีคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวทิ้งท้าย

ทั้งนี้ สมหมาย ตัวตุลานนท์ บิดาของ ทานตะวัน ได้ยื่นคำร้องขอประกันตัวผู้ต้องหาทั้งสองด้วย โดยระบุเหตุผลในการยื่นขอประกันตัวว่าขณะนี้ผู้ต้องหาทั้งสองอยู่ในอาการวิกฤติกว่าเดิม อันอาจทำให้เสียชีวิตได้ ต่อมาศาลมีคำสั่งว่าพิเคราะห์เห็นว่าเหตุตามคำร้องครั้งนี้ อ้างผู้ต้องหาทั้งสองมีอาการเป็นเหตุที่อ้างในคำขอชั่วคราวในครั้งก่อน ซึ่งศาลนี้ได้ระบุเหตุผลที่ปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหาทั้งสองจะมีอาการวิกฤตกว่าเดิมตามที่ผู้ร้องกล่าวอ้าง แต่เมื่อผู้ต้องหาทั้งสองอยู่ภายใต้ความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิดแล้ว เชื่อได้ว่าผู้ต้องหาทั้งสองจะไม่เป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต กรณีนี้ไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม ยกคำร้อง แจ้งให้ผู้ร้อง และผู้ต้องหาทั้งสองทราบตามระเบียบโดยเร็ว

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ล่าสุดศาลยังคงยืนยันไม่ได้ประกัน ตามคำสั่งเดิมซึ่งระบุว่า พิเคราะห์เห็นว่าเหตุตามคำร้องครั้งนี้อ้างผู้ต้องหาทั้งสองมีอาการเป็นเหตุที่อ้างในคำขอชั่วคราวในครั้งก่อนซึ่งศาลนี้ได้ระบุเหตุผลที่ปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหาทั้งสองผู้ต้องหาทั้งสองจะมีอาการวิกฤตกว่าเดิมตามที่ผู้ร้องกล่าวอ้างแต่เมื่อผู้ต้องหาทั้งสองอยู่ภายใต้ความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิดแล้วเชื่อได้ว่าผู้ต้องหาทั้งสองจะไม่เป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตกรณีนี้ไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิมยกคำร้องแจ้งให้ผู้ร้องและผู้ต้องหาทั้งสองทราบตามระเบียบโดยเร็ว

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net