นราธิวาส- 2 เม.ย.48 เมื่อเวลาประมาณ 09.30 น. วันที่ 2 เมษายน 2548 ชายฉกรรจ์อายุประมาณ 30 ปีเศษ มีเป้สัมภาระสะพายหลัง ถือมีดยาว 3 - 4 นิ้ว ได้บุกเข้าในห้องทำแผล - ฉีดยาของโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ อำเภอเมืองนราธิวาส ซึ่งขณะนั้นมีน.ส.จุไรรัตน์ เนื่องนำ อายุ 31 ปี พยาบาลวิชาชีพ 7 อยู่ในห้องเพียงคนเดียว จากนั้น ชายคนดังกล่าวก็ได้ใช้อาวุธมีด จี้คอน.ส.จุไรรัตน์เป็นตัวประกัน

โดยช่วงแรกคนร้ายมีอาการคลุ้มคลั่ง แต่ไม่นานก็สงบลงมีสีหน้าปกติ พร้อมกับปิดประตูหน้าต่างทุกบาน ต่อมา มีตำรวจ 2 นาย ขอเข้าไปเจรจากับคนร้าย ใช้เวลาเพียงไม่นานก็กลับออกมา โดยเบื้องต้นทราบว่าคนร้ายมีการต่อรองขออาวุธปืนและรถยนต์ เพื่อหลบหนี

กระทั่ง เวลาประมาณ 12.40 น. คนร้ายได้เปิดหน้าต่างห้องทำแผลฉีดยาของโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์อีกครั้งเป็นเวลาสั้นๆ เจ้าหน้าที่และประชาชนที่อยู่ภายนอกคาดว่า คนร้ายน่าจะมีอาการทางประสาท

จนเวลาประมาณ 13.10 น. ตำรวจนอกเครื่องแบบได้นำอาหาร 1 กล่อง พร้อมน้ำดื่ม 1 ขวด ส่งให้คนร้าย โดยคนร้ายผู้นำส่งอาหารถอดเสื้อออกหมด เพราะเกรงว่าจะนำอาวุธเข้าไปด้วย

จากนั้น เวลาประมาณ 14.20 น. คนร้ายได้ยื่นข้อเสนอกับตำรวจว่า หากต้องการให้เปลี่ยนตัวประกันจากน.ส.จุไรรัตน์ ไปเป็นคนอื่นให้เปลี่ยน โดยผู้มาเป็นตัวประกันคนใหม่ต้องถอดเสื้อเพื่อแสดงให้เห็นว่าไม่ได้อาวุธเข้ามา

กระทั่ง เวลาประมาณ 19.10 น. คนร้ายตัดสินใจหลบหนี โดยใช้มีดจี้คอน.ส.จุไรรัตน์ ลากออกจากห้องทำแผลทำแผลผู้ป่วยนอก เดินวนอยู่หน้าตึกอำนวยการประมาณ 3 รอบ แล้วลากจูงตัวประกันไปหลบหลังป้อมยาม หน้าโรงพยาบาลประมาณ 30 นาที

ต่อมา คนร้ายก็ได้ตัดสินใจหลบหนี ด้วยการใช้มีดจี้ น.ส.จุไรรัตน์ลากไปยังกำแพงของโรงพยาบาล โดยคนร้ายพยายามปีนรั้วโรงพยาบาลออกไปด้านนอก พร้อมกับบังคับตัวประกันให้ปีนตามไปด้วย แต่ขณะที่คนร้ายกระโดดข้ามรั้วออกไป น.ส.จุไรรัตนตัดสินใจกระโดดกลับเข้าด้านในโรงพยาบาล

กำลังตำรวจและทหารกว่า 100 นาย อาศัยจังหวะดังกล่าว กรูกันเข้าไปจับตัวคนร้ายตรงบริเวณนอกรั้วโรงพยาบาล คนร้ายพยายามกระโดดขึ้นไปวิ่งวนอยู่บนหลังคารถยนต์กระบะ และรถเก๋ง ระหว่างนั้นมีเสียงปืนดังประมาณ 5 - 6 นัด จากนั้นตำรวจและทหารก็กรูกันเข้าไปจับตัวคนร้ายไว้ได้ และนำตัวไปทำบาดแผลในโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ ก่อนจำตัวไปควบคุมที่สถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองนาราธิวาสต่อไป

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า คนร้ายรายนี้ชื่อนายฐานิตย์ ยางรัมภ์ เป็นชาวจังหวัดบุรีรัมย์ แต่จากการตรวจสอบรายชื่อในบัญชีสำมะโนประชากรของกรมการปกครอง กลับไม่พบมีชื่อของนายฐานิตย์ ส่วนน.ส.จุไรรัตน์ ปรากฏว่าได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย

ต่อมา เวลาประมาณ 19.45 น. ที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์น.พ.สุชัย เจริญรัตนกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายประชา เตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส พล.ต.ต.กมล โพธิยพ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส และพ.ต.อ.ทนงศักดิ์ ภัทรภานุ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส ร่วมกันแถลงข่าว

น.พ.สุชัย แถลงว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่เกี่ยวข้องกับกลุ่มก่อการร้ายใดๆ ทั้งสิ้น คนร้ายเป็นชาวไทยพุทธไม่ใช่ชาวมุสลิมในพื้นที่