Skip to main content
sharethis

กรุงเทพฯ- 9 พ.ค.48 "ไม่มีอะไรน่าห่วงแล้ว ชายแดนก็ไม่น่าห่วง มีก็แต่เพียงการสู้รบระหว่างรัฐฉานกับว้าที่ต้องระวังเป็นพิเศษเท่านั้น" พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเหตุการณ์ระเบิดในกรุงย่างกุ้ง สหภาพพม่า

นายกรัฐมนตรี เห็นว่า กรณีที่เกิดขึ้นไม่เกี่ยวข้องกับคนไทยในพม่า ซึ่งหลังเกิดเหตุทางสถานทูตไทยประจำพม่าได้ประกาศเตือนคนไทยให้ระมัดระวังตัวเป็นพิเศษ และพยายามหลีกเลี่ยงการเข้าไปอยู่ในสถานที่ที่มีความอ่อนไหวหรือเสี่ยงต่อการเกิดเหตุ

ส่วนสถานการณ์ด้านการลงทุนระหว่างไทยกับพม่านั้นเชื่อว่าจะไม่กระทบกับบรรยากาศการลงทุนของทั้ง 2 ประเทศ เพราะเป็นเรื่องของเอกชนที่จะดำเนินการ

นายสุชาติ ตรีรัตน์วัฒนา ประธานหอการค้าจังหวัดตาก ระบุว่า เหตุระเบิดไม่ส่งผลกระทบต่อการค้าชายแดนด้านแม่สอด มากนัก แม้ว่าหลังเกิดเหตุปริมาณการค้าชายแดนด้านนี้จะลดลงบ้างเล็กน้อย รวมทั้งทางการพม่าใน จ.เมียวดี จะมีการเข้มงวดตรวจตราสินค้าเพิ่มมากขึ้นก็ตาม แต่ไม่ถึงขั้นปิดด่านพรมแดน

ประธานหอการค้า จ.ตาก ระบุว่า ตั้งแต่ต้นปี 2548 การค้าชายแดนด้านแม่สอด มีปริมาณการค้าเพิ่มขึ้นกว่าปีที่ผ่านมาในช่วงเดียวกันถึง 10-15% โดยมีมูลค่าการค้ารวมประมาณเดือนละกว่า 1,000 ล้านบาท

ทั้งนี้สินค้าที่ส่งออกส่วนใหญ่เป็นเครื่องอุปโภค บริโภค ส่วนสินค้าที่นำเข้าจากพม่า ได้แก่ พวกอาหารทะเล โค กระบือ และธัญพืชต่าง ๆ

อย่างไรก็ดี สถานการณ์การค้าและท่องเที่ยวชายแดนทางด้านแม่สาย จ.เชียงราย ลดลงอย่างเห็นได้ชัด ทั้งนี้ ทางฝั่ง จ.ท่าขี้เหล็ก ของพม่า มีทหารอาสาสมัครของรัฐบาลจำนวนมาก ลาดตระเวนคุ้มกันบุคคลและสินค้าเข้าออกตามจุดผ่อนปรนต่างๆ ตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งประกาศให้ชาวพม่าช่วยสอดส่องดูแลความเคลื่อนไหวที่ผิดปรกติ และแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบ

ทางฝั่งไทย โดยกองทัพภาคที่ 3 ได้คุมเข้มบุคคลและสินค้าขาออก โดยเฝ้าจับตาดูสินค้าประเภทยุทธปัจจัยสำคัญ อาทิ อาหารแห้ง และยารักษาโรค ตลอดจนเครื่องอาวุธ เนื่องจากเกรงว่าจะถูกนำไปเป็นปัจจัยในการก่อความไม่สงบขึ้นมาได้

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net