ประชาไทคัดสรร - กรุงเทพธุรกิจ 18 ตุลาคม 2548 เวลา 15:51 น.
สหประชาชาติ - คลังสมองแคนาดาเผยผลศึกษาล่าสุด พบเหตุรุนแรงทางการเมืองทั่วโลกลดลงต่อเนื่องในช่วง 15 ปี ผลจาก 3 ปัจจัย ได้แก่ การปิดฉากลัทธิล่าอาณานิคม การยุติสงครามเย็น และกระแสต่อต้านสงคราม แต่ภัยก่อการร้ายข้ามชาติกลับเพิ่มขึ้นอย่างพุ่งพรวด
ศูนย์ความมั่นคงของมนุษย์แห่งมหาวิทยาลัยบริติช โคลัมเบีย ในเมืองแวนคูเวอร์ของแคนาดา เปิดเผยผลการศึกษาเมื่อวันจันทร์ (17 ต.ค.) ว่า ความรุนแรงทางการเมืองทุกรูปแบบมีแนวโน้มลดลงทั่วโลกในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา ยกเว้นเหตุก่อการร้ายระหว่างประเทศซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นาย
รายงานระบุว่า ความขัดแย้งที่ใช้อาวุธทั่วโลกเกิดขึ้นลดลงถึง 40% นับตั้งแต่ปี 2530 ขณะเหตุนองเลือดรุนแรงที่คร่าชีวิตผู้คนไม่ต่ำกว่าปีละ 1,000 คนลดลง 80% ส่วนวิกฤตการณ์ระหว่างประเทศซึ่งเป็นต้นตอของความขัดแย้งที่ใช้อาวุธประหัตประหารกันบ่อยครั้ง ได้ลดลง 70% ระหว่างปี 2522-2543
ผลการศึกษาพบด้วยว่า สงครามระหว่างรัฐมีแนวโน้มลดลงเช่นกัน โดยมีสัดส่วนไม่ถึง 5% ของความขัดแย้งที่มีการใช้อาวุธในปัจจุบัน ขณะที่การก่อรัฐประหารโดยกองทัพ และความพยายามก่อปฏิวัติในภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลกลด 60% นับตั้งแต่ปี 2506 ซึ่งเป็นปีที่เกิดเหตุรัฐประหารทั้งสิ้น 25 ครั้ง เทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งมีความพยายามโค่นล้มรัฐบาล 10 ครั้ง โดยทุกครั้งล้วนประสบความล้มเหลว
นายแมคชี้ว่า สาเหตุหลักที่ทำให้เหตุรุนแรงการเมืองทั่วโลกลดน้อยลงมีอยู่ 3 ประการ ได้แก่ การล่มสลายของยุคล่าอาณานิคม การสิ้นสุดสงครามเย็น และการเคลื่อนไหวเพื่อรณรงค์ต่อต้านสงครามที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทั้งในแง่การต่อต้านสงครามที่กำลังเกิดขึ้น และการป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดสงครามรอบใหม่ โดยมีองค์การสหประชาติ (ยูเอ็น) เป็นแกนนำการเคลื่อนไหว
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)