ประชาไท - 1 ก.ย.48 นายไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ ประธานกรรมาธิการ(กมธ.) การต่างประเทศ วุฒิสภา กล่าวถึงกรณีชาวไทยในจังหวัดนราธิวาสหนีข้ามไปยังประเทศมาเลเซียกว่า 100 คนว่า ทางกมธ.จะติดต่อกับทางการมาเลเซียเพื่อสอบถามถึงสถานการณ์ และจะขอความร่วมมือให้ทางมาเลเซียเห็นใจผู้ที่ลี้ภัยเข้าไปและให้การดูแลคนเหล่านั้น เพราะขณะนี้ชาวบ้านได้รับอันตรายจากทั้ง 2 ฝ่าย โดยที่รัฐบาลไทยไม่สามารถปกป้องประชาชนของตนได้
นายไกรศักดิ์กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ทางกมธ.จะส่งคณะทำงานเข้าไปในรัฐกลันตันเพื่อดูแลเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด และจะตรวจสอบด้วยว่าการลี้ภัยครั้งนี้เกิดจากการประกาศใช้พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินหรือไม่
" 40 ปีที่ผ่านมาประเทศไทยเคยมีเหตุการณ์ประชาชนต้องลี้ภัย 2 ครั้ง ครั้งแรกคือหลังเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 มีคนลี้ภัยไปต่างประเทศหรือประเทศเพื่อนบ้าน 5-6 พันคน จากนั้นมาไม่เคยมีอีกเลย จนกระทั่งคราวนี้" ประธานกมธ.การต่างประเทศ วุฒิสภา กล่าว
นายสุนัย ผาสุก คณะทำงานมูลนิธิฟอรั่มเอเชีย (Forum Asia) ที่ปรึกษากรรมาธิการการต่างประเทศ วุฒิสภา กล่าวว่า ขณะนี้ชาวบ้านในพื้นที่เริ่มมีความกังวลในพ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินที่ห้ามคนออกนอกประเทศ เพราะโดยปกติหากชาวบ้านรู้สึกอันตรายมากๆ ก็จะข้ามไปประเทศมาเลเซีย ซึ่งถ้ารัฐประกาศใช้มาตรานี้ ก็จะทำให้ชาวบ้านมีความผิด
คนโก-ลกยันมีคนไทยข้ามไปมาเลย์
นายนอร์ มะเย็ง อายุ 58 ปี กำนันตำบลปาเสมัส อำเภอสุไหงโก - ลก จังหวัดนราธิวาส เปิดเผยว่า ตนมีบ้านอยู่ริมแม่น้ำโก - ลก ทราบข่าวมาว่ามีชาวบ้านในจังหวัดนราธิวาสเดินลุยข้ามแม่น้ำโก - ลก บริเวณเทศบาลตำบลสุไงโก - ลก ไปยังประเทศมาเลเซีย เมื่อคืนวันที่ 30 สิงหาคม 2548 จำนวน 20 กว่าคน เนื่องจากลัวสถานการณ์ความไม่สงบ โดยกลัวทั้งฝ่ายก่อความไม่สงบและฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐ แต่ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเป็นชาวบ้านที่ไหน
นายนอร์ เปิดเผยอีกว่า เมื่อคืนวันที่ 31 สิงหาคม 2548 ซึ่งเป็นคืนเกิดเหตุระเบิด 3 จุดในเขตเทศบาลตำบลสุไหงโก - ลก มีคนลุยน้ำข้างไปฝั่งมาเลเซียจำนวนหลายสิบคนเช่นกัน แต่เป็นนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียเข้ามาเที่ยวในเมืองสุไหงโก - ลก เพื่อฉลองวันชาติมาเลเซีย เหตุที่ลุยข้ามแม่น้ำเพราะด่านปิดในเวลากลางคืน