Skip to main content
sharethis

มท.3 และรมว.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ ร่วมถกพีมูฟ ก่อนลงนามเอ็มโอยูร่วม 5 ประเด็น เร่งรัดโฉนดชุมชน ตั้ง กรรมการแก้เขื่อนปากมูลใหม่ พร้อมตั้งคณะกรรมการติดตามการแก้ปัญหาด้วน มท.3 เผยประสาน บขส.เตรียมส่งชาวบ้านกลับ

  
 
วันนี้ (22 พ.ค.56) ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) หรือ พีมูฟ ซึ่งชุมนุมบริเวณข้างทำเนียบรัฐบาล และต่อมาที่บริเวณข้างกระทรวงศึกษาธิการ นับตั้งแต่วันที่ 6 พ.ค.ที่ผ่านมา ยอมยุติการชุมนุมแล้ว หลังจากการลงนามในบันทึกข้อตกลง (MOU) ระหว่าง นายประชา ประสพดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง และตัวแทนพีมูฟ 14 คน
 
ทั้งนี้ การทำบันทึกข้อตกลงร่วมกันเพื่อเป็นหลักประกันการทำงานของรัฐบาล ในการแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม ดังกล่าวถูกบันทึกเทปไว้ในรายการเวทีสาธารณะ ไทยพีบีเอส ด้วย
 
ขณะที่นายประชา เปิดเผยว่า คาดว่าการพูดคุยวันนี้ จะเป็นที่พอใจของผู้ชุมนุม และตนได้ประสานงานเจ้าหน้าที่ตำรวจ บริษัทขนส่งจำกัด (บขส.) และกรมทางหลวง เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ชุมเดินทางกลับภูมลำเนาตลอดเส้นทาง
 
อย่างไรก็ตาม ผู้ชุมนุมยังไม่มีการกำหนดแนวทางการสลายการชุมนุม แม้จะยอมรับในข้อเสนอของตัวแทนรัฐบาลให้ยุติการชุมนุม 
 
ด้านนางถาวร ธนะสิงห์ ชาวบ้านโคกภูพระ ต.กุดแห่ อ.เลิงนกทา จ.ยโสธร สมาชิกเครือข่ายปฏิรูปที่ดินภาคอีสาน (คปอ.) ที่มาร่วมชุมนุมเนื่องจากที่ดินถูกประกาศพื้นที่สาธารณะประโยชน์ทับ และถูกฟ้องร้องดำเนินคดีให้ออกจากทีดินทำกิน กล่าวว่าชาวบ้านยังมีปัญหาอีกหลายเรื่องที่รอการประชุมกับรัฐบาลเพื่อให้ช่วยแก้ไข และที่สำคัญคืออยากได้หนังสือรับรองจากรัฐบาลว่าชาวบ้านจะเข้าไปทำประโยชน์ในที่ทำกินของตัวเองได้ ซึ่งหากกลับไปตอนนี้ชาวบ้านอาจถูกจับหรือถูกดำเนินคดีได้
 
“เราอยากเห็นรูปธรรม อยากได้หนังสือรับรอง เพราะถ้ากลับบ้านไปมันลำบากกว่าอยู่ที่นี่ กลับไปก็ไปโดนคดี” ชาวบ้านโคกภูพระกล่าว
 
นางถาวร กล่าวด้วยว่า ชาวบ้านมีกำหนดการในการทำกิจกรรมต่างๆ เพื่อจะรอไปถึงวันที่ 28 พ.ค.ที่จะมีการนำกรณีปัญหาของชาวบ้านเข้าสู่การประชุม ครม.และคณะกรรมการแก้ไขปัญหาฯ และในวันพรุ่งนี้ (23 พ.ค.53) คอป.ก็จะมีการจัดเวทีเสวนาเรื่องเกี่ยวกับกฎหมายเพื่อการประกันตัวชาวบ้านที่โดนคดี ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ (คลิกอ่านกำหนดการ)
 
ส่วนการกำหนดว่าจะสลายการชุมนุมหรือไม่คงต้องมีการประชุมกำหนดท่าทีจากการประชุมร่วมกันทั้งหมดก่อน
 
สำหรับเนื้อหาในบันทึกข้อตกลง มีดังนี้

1.จะมีการเร่งรัดเสนอเรื่องโฉนดชุมชน (พิจารณาให้ความเห็นชอบในหลักการของนโยบายการดำเนินงานโฉนดชุมชน โดยให้ชุมชนซึ่ง ปจช.เห็นชอบให้ดำเนินงานโฉนดชุมชนแล้ว สามารถใช้ประโยชน์ในที่ดินของรัฐไปพลางก่อน จนกว่ากระบวนการพิจารณาของส่วนราชการ หรือหน่วยงานที่รับผิดชอบดูแลพื้นที่ตามแต่กรณีจะมีผลเป็นที่ยุติ ต่อไป) และเขื่อนปากมูล (ให้ยกเลิกมติ ครม.เมื่อวันที่ 3 พ.ค.54 มติครม.วันที่ 12 มิ.ย.50 และมติครม.วันที่ 17 ก.ค.50 กับแต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการเพื่อแก้ไขปัญหาเขื่อนปากมูลขึ้นใหม่) ให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาในวันอังคารที่ 28 พ.ค.56 ต่อไป

2.เร่งรัดคณะกรรมการอำนวยการบูรณาการนโยบายเพื่อฟื้นฟูวิถีชีวิต และแก้ไขปัญหากลุ่มชาติพันธุ์ชาวเล และคณะอนุกรรมการที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาของพีมูฟที่มีการดำเนินการจนได้ข้อยุติแล้วหรือไม่สามารถหาข้อยุติได้ รวมทั้งอยู่ระหว่างการพิจารณาหาข้อยุติร่วมกัน ให้นำเสนอคณะกรรมการแก้ไขปัญหาฯ พิจารณาในวันที่ 28 พ.ค.56 ต่อไป

3.รัฐบาลจะเร่งรัดดำเนินการตามนโยบายด้านที่ดิน และทรัพยากร ข้อ 5.1 และ 5.4 ที่รัฐบาลได้แถลงต่อรัฐสภาอย่างเป็นรูปธรรมโดยเร่งด่วน โดยในระหว่างการดำเนินการแก้ไขปัญหาตามกลไก และแนวทางที่มีอยู่นั้น ขอให้รัฐบาลแจ้งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ชะลอการดำเนินการใดๆ ที่อาจเป็นมูลเหตุให้เกิดความขัดแย้ง หรืออาจก่อให้เกิดความเดือดร้อนในการดำเนินชีวิตตามปกติสุข และให้สามารถใช้ประโยชน์ในที่ดินของรัฐตามวิถีปกติไปพลางก่อน จนกว่ากระบวนการพิจารณาของส่วนราชการ หรือหน่วยงานที่รับผิดชอบดูแลพื้นที่ตามแต่กรณีจะมีผลเป็นที่ยุติต่อไป

4.ขอให้คณะกรรมการแก้ไขปัญหาของขบวนการประชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม จัดประชุมคณะกรรมการอย่างน้อย 3 เดือน/ครั้ง และคณะอนุกรรมการกับคณะทำงานจัดประชุมอย่างน้อย 2 เดือน/ครั้ง

5.แต่งตั้งคณะกรรมการติดตามการดำเนินการแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม โดยมีรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (นายประชา) เป็นประธานกรรมการ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง (นายสุภรณ์) เป็นรองประธานกรรมการ และตัวแทนพีมูฟ ร่วมเป็นกรรมการ ในการติดตามการดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าว
 
 
ส่วนความคืบหน้าในการเจรจากับรัฐบาล เมื่อวาน (21 พ.ค.56) มีการนำข้อเสนอของพีมูฟที่ได้ข้อยุติแล้วเข้าสู่การพิจารณาของ ครม. 2 เรื่อง คือ 1.กรณีโครงการนำร่องธนาคารที่ดิน 5 ชุมชน ภาคเหนือ ครม.เห็นชอบให้เดินหน้า โดยอนุมัติงบประมาณ 167 ล้าน โดยให้ พอช.ดำเนินการ และ 2.กรณีการขออนุญาตก่อสร้างบ้านมั่นคง มีการรับรองว่าโครงการบ้านมั่นคงเป็นโครงการของรัฐ ให้สามารถดำเนินการได้ และสามารถขอบ้านเลขที่ได้ โดยไม่ต้องเข้าสู่การพิจารณาของ ครม.
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net