Skip to main content
sharethis

หลังจากเมื่อวันที่ 29 ก.ย. ที่ผ่านมา ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาเป็นโจทก์ ยื่นฟ้องตระกูล วินิจนัยภาค อัยการสูงสุด (อสส.) ชุติชัย สาขากร อธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ สุรศักดิ์ ตรีรัตน์ตระกูล อธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน และกิตินันท์ ธัชประมุข รองอธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน ซึ่งเป็นคณะทำงานพิจารณาคดีโครงการจำนำข้าว และมีความเห็นสั่งฟ้อง ยิ่งลักษณ์ อดีตนายกรัฐมนตรี คดีโครงจำนำข้าว ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-4 ในความผิดฐานร่วมกันปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และร่วมกันกระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม ตาม มาตรา 200 และมาตรา 83 (อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม)

ล่าสุดวันนี้(6 ต.ค. 58) กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ และ ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ รายงานตรงกันว่า ศาลอาญาไม่รับฟ้องคดีดังกล่าว  เนื่องจากศาลเห็นว่าเป็นการดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ไม่มีเจตนากลั่นแกล้งตามที่กล่าวหา

คดีนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ระบุในคำฟ้องว่า อัยการสูงสุดมีความเห็นชี้ข้อไม่สมบูรณ์ในคดีโครงการทุจริตรับจำนำข้าวที่ยื่นฟ้องโจทก์ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีและไม่ไต่สวนให้เสร็จสิ้น แต่กลับมีความเห็นสั่งฟ้องเพียง 1 ชั่วโมงก่อนที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) จะพิจารณาลงมติถอดถอน นอกจากนี้อัยการสูงสุดยังกล่าวหาว่าโจทก์สมยอมให้เกิดการทุจริตและแสวงหาประโยชน์มิชอบ เพิ่มเติมจากข้อกล่าวหาที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แจ้งไว้ก่อนหน้านี้ด้วย

หลังศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าอัยการทำตามขั้นตอนของกฎหมาย ไม่มีหลักฐานที่จะกลั่นแกล้งอดีตนายกรัฐมนตรี จึงมีคำสั่งให้ยกฟ้อง โดยวันนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่ได้มาฟังคำสั่งด้วยตัวเอง แต่มีทนายความผู้รับมอบอำนาจมาฟังคำสั่งแทน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net