Skip to main content
sharethis

"อุ๊งอิ๊งค์" โพสต์ "ทักษิณ" กลับบ้าน 10 ส.ค.นี้ เคารพการตัดสินใจของพ่อแม้ครอบครัวจะเป็นห่วง รวมคดีที่ทักษิณจะต้องเจอกับคดีอะไรบ้างที่รออยู่

26 ก.ค.2566 เวลา 10.50 น. แพทองธาร ชินวัตร โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่าพ่อของเธอ ทักษิณ ชินวัตร จะเดินทางกลับถึงประเทศไทยในวันที่ 10 ส.ค.2566 นี้ หลังจากถูกรัฐประหารเมื่อกันยายนปี 2549 และเดินทางกลับมาไทยหนึ่งครั้งเมื่อปี 28 ก.พ.2551 แต่ต้องลี้ภัยทางการเมืองออกไปอีกครั้งในเดือนสิงหาคมปีเดียวกันรวมแล้วเป็นเวลา 15 ปี

แพทองธารระบุในโพสต์ของเธอว่าพ่อของเธอจะเดินทางกลับมาถึงประเทศไทยในวันที่ 10 ส.ค.นี้โดยมาลงที่สนามบินดอนเมือง ซึ่งทำให้เธอและครอบครัวมีความรู้สึกทั้งดีใจและเป็นห่วงต่อการเดินทางกลับครั้งนี้อย่างไรก็ตามยังคงเคารพการตัดสินใจของทักษิณ

“สำหรับพี่น้องที่อ่านมาถึงตรงนี้ คุณพ่อเป็นคนไทยคนหนึ่ง เป็นนายกฯที่ถูกพูดถึงว่ามีผลงานมากที่สุด และประสบชะตากรรม ถูกกระทำแสนสาหัส การตัดสินใจกลับบ้านครั้งนี้ เป็นสิ่งที่คุณพ่อพูดอย่างจริงจังต่อเนื่องมาตั้งแต่ต้นปี 2565 แม้จะอยู่บนพื้นฐานของความเป็นมนุษย์ และในฐานะคนไทยคนนึง แต่คำนึงถึงอย่างที่สุด ต่อความสบายใจ และกังวล ห่วงใย ของทุกคนค่ะ” แพทองธารระบุในโพสต์

ก่อนหน้านี้ทักษิณได้แจ้งทางทวิตเตอร์เมื่อวันที่ 9 พ.ค.2566 ก่อนการเลือกตั้งทั่วไปไม่ถึงสัปดห์ว่าจะเดินทางกลับไทยในช่วงก่อนวันเกิดของตัวเองในเดือนกรกฎาคมปีนี้ และย้ำถึงแผนเดินทางกลับบ้านของตัวเองอีกครั้งเมื่อ 16 พ.ค.2566 ทางรายการ Care Talk อีกครั้ง โดยทั้งสองครั้งมีการยืนยันว่าจะกลับมาเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายของไทยเพื่อไม่ให้เป็นภาระกับพรรคเพื่อไทยแม้จะต้องถูกคุมขังในเรือนจำ และเขาได้เหตุผลไว้ว่าทีเดินทางกลับเป็นเหตุผลเรื่องอยากเจอหน้าครอบครัวและหลานของเขา

อย่างไรก็ตามเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว 18 ก.ค. สื่อหลายสำนักมีการรายงานข่าวโดยอ้างแหล่งข่าวใกล้ชิด พล.อ.อภิรัชต์, แหล่งข่าวทหารระดับสูง และแหล่งข่าวจากกองทัพ ระบุว่า กรณีที่ พล.อ.อภิรัชต์ เดินทางไป เกาะลังกาวี ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 5-7 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยมี พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผบ.สส. ร่วมคณะ และถูกโยงว่ามีการพบ ทักษิณ อดีตนายกฯ ซึ่งเป็น "ดีลลับ" การเมืองก่อนเลือกตั้ง ว่าไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ ทางการเมือง และไม่ได้ไปพบเจออดีตนายกฯตามที่มีข่าวปรากฏในโซเชียลแต่อย่างใด แต่เป็นการเดินทางไปพบปะแกนนำกลุ่มก่อความไม่สงบจังหวัดชายแดนภาคใต้ตามที่มีการนัดหมายไว้ว่าเพื่อพูดคุยถึงแนวทางการเจรจาแก้ไขปัญหาในพื้นที่

ทักษิณกลับมาต้องเจออะไร

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาทักษิณเฉพาะที่มีการตั้งสำนวนและถูกรายงานเป็นข่าวมีคดีรวมแล้ว 8 คดี ซึ่งเป็นคดีที่มีคำพิพากษาจำคุกแล้ว 4 คดี ยกฟ้อง 2 คดี และอยู่ในการไต่สวนของ ปปช. 2 คดี

คดีที่มีคำพิพากษาจำคุก 4 คดีได้แก่

คดีที่ ป.ป.ช.มีมติแจ้งข้อกล่าวหา

คดีศาลยกฟ้อง/ไม่ฟ้อง

  • คดีสั่งกระทรวงการคลังบริหารแผนฟื้นฟูกิจการทีพีไอ ยกฟ้องเมื่อปี 2561 เนื่องจากทักษิณไม่ได้มีเจตนาพิเศษในการแสวงผลประโยชน์ให้ตนเองหรือเพื่อผู้อื่นในการเสนอชื่อคณะกรรมการบริหารแผน 5 คนใหม่ และแผนฟื้นฟูยังได้รับความยินยอมจากธนาคาร เจ้าหน้า ลูกหนี้ สภภาพแรงงาน รวมทั้งเป็นไปตามคำสั่งของศาลล้มละลายกลาง
  • คดีธนาคารกรุงไทยปล่อยกู้เครือกฤษดามหานครโดยทุจริตวงเงินกว่า 9,000 ล้านบาท ศาลยกฟ้อง โดยศาลวินิจฉัยว่า ตามชัยณรงค์ อินทรมีทรัพย์ กรรมการ ธ.กรุงไทย เป็นพยานที่ให้การไม่ตรงกันและเป็นการคาดเดาของพยาน ว่าคนสั่งการคือ “ซูเปอร์บอส” หรือ “บิ๊กบอส” ไม่สามารถยืนยันข้อเท็จจริงได้ว่าคือทักษิณ หรือพจมาน ดามาพงศ์
  • คดีทุจริตระบายข้าว จีทูจี ภาค 2 ที่มีผู้ต้องหาทั้งหมด 71 ราย โดยมีทั้งชุดเดิมในคดีแรกอย่าง บุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และยังมีการกล่าวหา เยาวภา วงศ์สวัสดิ์และทักษิณเข้ามาด้วย อย่างไรก็ตามข่าวเมื่อ 19 ธ.ค.มีรายงานว่า ป.ป.ช.มีมติตีตกข้อกล่าวหาเนื่องจาก ป.ป.ช.เองเคยมีมติไม่แจ้งข้อกล่าวหาในคดีส่วนที่สองนี้ไปก่อนแล้ว การนำเข้ามาพิจารณาและแจ้งข้อหาใหม่เป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมาย อีกทั้งไม่มีพยานหลักฐานเอาผิด

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net