ทั้งคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของกรรมการ ปปช.ถูกกำหนดอยู่ในรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุด พรป.จะหักล้างหรือขัดแย้งกับรัฐธรรมนูญไม่ได้
คุณสมบัติของกรรมการ ปปช.อยู่ในรัฐธรรมนูญในมาตรา 232 ส่วนลักษณะต้องห้ามของผู้ที่เป็นกรรมการ ปปช.อยู่ในรัฐธรรมนูญมาตรา 216
กรรมการ ปปช.บางคนในชุดนี้สรรหาโดยการที่ คสช.ออกคำสั่งกำหนดองค์ประกอบกรรมการสรรหาขึ้นใหม่ให้ประธาน สนช.และรองนายกฯร่วมเป็นกรรมการสรรหาด้วย
คุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามที่ใช้กับกรรมการ ปปช.ชุดนี้ เป็นไปตามกฎหมายเกี่ยวกับ ปปช.ซึ่งอิงตามรัฐธรรมนูญปี 2550 จึงอ่อนกว่าที่กำหนดในรัฐธรรมนูญปัจจุบันอย่างมาก ที่เกี่ยวข้องโดยตรงและเป็นประเด็นที่กำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักอยู่ในขณะนี้ คือ ถ้าเป็นข้าราชการประจำจะต้องเคยเป็นอธิบดีหรือเทียบเท่ามาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี และถ้าเคยเป็นข้าราชการการเมืองต้องพ้นจากตำแหน่งมาแล้วไม่น้อยกว่า 10 ปี
กรรมการบางคนขาดคุณสมบัติ บางคนเข้าลักษณะต้องห้าม โดยเฉพาะประธาน ปปช.ขาดทั้งคุณสมบัติและเข้าลักษณะต้องห้ามด้วย จึงไม่สามารถเป็นกรรมการ ปปช.ตามรัฐธรรมนูญนี้ได้
บทเฉพาะกาลของรัฐธรรมนูญกำหนดว่ากรรมการ ปปช.ชุดที่มีมาก่อนรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันใช้บังคับจะอยู่ในตำแหน่งอีกนานเท่าใด ให้กำหนดโดย พรป.
ปัญหาจึงอยู่ที่ว่า สนช.จะใช้ พรป.ต่ออายุให้กรรมการ ปปช.ที่ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามหรือทั้งสองอย่างได้หรือไม่
ดูจากเจตนาของการร่างรัฐธรรมนูญที่มีการกำหนดคุณสมบัติไว้สูงมาก ที่ต่อมาเรียกกันว่าเป็นคุณสมบัติขั้นเทพ กำหนดลักษณะต้องห้ามไว้เข้มงวดเพื่อป้องกันการแทรกแซงจากฝ่ายการเมืองหรือรัฐบาล อย่างที่โอ้อวดกันว่าเป็นรัฐธรรมนูญปราบโกง รัฐธรรมนูญนี้ย่อมมีเจตนาให้ใช้เรื่องเหล่านี้ทันที ไม่ใช่อีก 7-8 ปีข้างหน้า
สนช.จะทำได้อย่างมาก ก็คือ กำหนดใน พรป.ให้กรรมการ ปปช.ชุดนี้พ้นไปทันทีที่ พรป.ใช้บังคับ แต่ให้รักษาการต่อไปจนกว่าจะมีกรรมการ ปปช.ชุดใหม่หรือมากกว่านั้น ก็คือ ให้กรรมการ ปปช.ชุดนี้ยังอยู่ในตำแหน่งต่อไปจนกว่าจะมีกรรมการ ปปช.ชุดใหม่ทีมีคุณสมบัติครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญปัจจุบัน ไม่ใช่ให้ชุดนี้เป็นไปจนครบวาระ ทั้งที่ขาดคุณสมบัติและมีลักษณะต้องห้ามอย่างที่เป็นอยู่
การออก พรป.นั้น ต้องทำให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 267 ซึ่งกำหนดว่า เพื่อให้สอดคล้องกับบทบัญญัติ และเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ และต้องมุ่งหมายให้มีการขจัดการทุจริตและประพฤติมิชอบทุกรูปแบบ
การต่ออายุกรรมการ ปปช.ชุดนี้ทั้งชุดไปจนกว่าจะหมดวาระเดิมนั้น จึงขัดรัฐธรรมนูญแน่นอน
หาก ปปช.ชุดนี้ยังทำหน้าที่ต่อไป ก็เท่ากับเรากำลังมี ปปช.ที่ตั้งโดยการแทรกแซงของ คสช.จนได้คนของ คสช.มาคุม ปปช. ในขณะที่ คสช.กำลังทำทุกอย่างเพื่อให้พวกตนได้อยู่ในอำนาจต่อไปหลังการเลือกตั้ง
ปัญหาก็คือ ถ้า คสช.ทำสำเร็จ ตั้งรัฐบาลนายกคนนอกได้ ใครจะตรวจสอบรัฐบาล จะไม่เกิดการทุจริตคอร์รัปชันกันใหญ่หรือ
นี่หรือ คือ รัฐธรรมนูญปราบโกง
นี่หรือ คือ ที่ คสช.บอกว่าเข้ามาเพื่อปราบคอร์รัปชัน
หากปล่อยให้ ปปช.ชุดนี้ทำหน้าที่ต่อไป ไม่แก้พรป. ปปช.เสียให้ถูกต้อง คสช.เตรียมพังทั้งระบบได้เลย
ที่มา: Facebook Chaturon Chaisang
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)