Skip to main content
sharethis

สยาม ธีรวุฒิ ผู้ลี้ภัยวัย 34 ปีที่มีข่าวว่าถูกทางการเวียดนามจับกุมตัวพร้อม ‘ลุงสนามหลวง’ และพวกอีกคนหนึ่งแล้วส่งตัวกลับไทย ครอบครัวเดินทางมายื่นเรื่องที่กองปราบขอคำตอบควบคุมตัวไว้หรือไม่ หวังเพียงให้ปลอดภัย กองปราบฯ ระบุไม่ได้รับตัวแต่อย่างใด สัปดาห์หน้าครอบครัวเตรียมยื่นหนังสือสอบถามสถานทูตเวียดนาม และกระทรวงการต่างประเทศ

(ซ้าย) กัญญา ธีรวุฒิยื่นหนังสือที่กองบังคับการปราบปราม (ขวา) ภาพของสยาม

10 พ.ค.2562 ที่กองบังคับการปราบปราม กัญญา ธีรวุฒิ มารดาของสยาม ธีรวุฒิ เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึงผู้บังคับการกองปราบปราม ขอทราบผลการจับกุมตัวสยาม โดยมี ภาวิณี ชุมศรี ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เดินทางมายื่นหนังสือด้วย

ภาวิณีกล่าวว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้รับเรื่องร้องเรียนดังกล่าวพร้อมทั้งยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่มีการนำตัวสยามหรือคนอื่นๆ ที่ตกเป็นข่าวมาควบคุมตัวที่กองปราบแต่อย่างใด หากมีการนำตัวคนเหล่านั้นเข้ามาในไทยจริงจะต้องส่งกองปราบภายใน 24 ชั่วโมงเนื่องจากเป็นหน่วยงานที่ออกหมายจับสยามในคดีมาตรา 112

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อย่างไรก็ตาม คำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 3/2558 ยังคงมีอยู่ ไม่ได้ถูกยกเลิก คำสั่งดังกล่าวให้อำนาจเจ้าหน้าที่ทหารควบคุมตัวผู้ใดก็ได้มีกำหนด 7 วัน ทางทนายความจึงได้สอบถามไปยังหน่วงานความมั่นคงและได้คำตอบเดียวกันว่า ไม่มีรายงานว่าทหารได้ควบคุมบุคคลเหล่านั้น สัปดาห์หน้าทางครอบครัวของสยามจึงเตรียมยื่นหนังสือสอบถามไปยังสถานทูตเวียดนาม และกระทรวงการต่างประเทศของไทย รวมทั้ง จันทร์หน้า (13 พ.ค.2562) จะยื่นหนังสือถึงคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนเวลา 10.00 น. เพื่อให้ช่วยติดตามเรื่องของลูกชายเธอด้วย

แม้คำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 3/2558 ที่มีคำสั่งหัวหน้า คสช. ฉบับที่ 22/2561 ออกมาให้ยกเลิกนั้น เป็นการยกเลิกเฉพาะ ข้อ 12. เกี่ยวกับข้อห้ามชุมนุม เท่านั้น แต่ข้ออื่นๆ ยังใช้อยู่

หนังสือขอทราบผลการจับกุมตัวสยาม ธีรวุฒิ

กัญญากล่าวว่า หลังจากครอบครัวทราบข่าวจากสื่อมวลชนว่าอาจมีการส่งตัวลูกชายกลับประเทศไทยก็รู้สึกเป็นห่วงมาก และต้องการทราบว่าลูกชายปลอดภัยหรือไม่ ถูกควบคุมตัวไว้ที่ใดเพียงเท่านั้น

ทั้งนี้ สยาม ธีรวุฒิ ถูกแจ้งข้อกล่าวหาตามมาตรา 112 จากกรณีร่วมแสดงละครเวทีเรื่องเจ้าสาวหมาป่า เมื่อปี 2556 ภายในงานรำลึกเหตุการณ์ 14 ตุลาฯ หลังเกิดการรัฐประหาร 2557 ภรณ์ทิพย์ มั่นคง และปติวัฒน์ สาหร่ายแย้ม คณะผู้จัดทำละครถูกจับกุมด้วยข้อหาตามมาตรา 112 และถูกคุมขังในเรือนจำถึง 2 ปีเต็ม ขณะที่คนอื่นๆ ที่ร่วมแสดงละครต้องหลบหนีออกนอกประเทศ

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ‘ลุงสนามหลวง’ หรือชูชีพ ชีวะสุทธิ์ สยาม ธีรวุฒิ  และ กฤษณะ ทัพไทย หรือสหายยังบลัด เป็นผู้ลี้ภัยทางการเมือง และน่าจะอยู่ระหว่างการหลบหนีจากที่อยู่เดิมไปยังเวียดนามด้วยกันเนื่องจากถูกทางการติดตามตัวอย่างหนัก เหตุผลสำคัญน่าจะเกิดจากชูชีพจัดรายงานวิทยุผ่านช่องทางยูทูป และในช่วงปลายปี 2561 ได้นำเสนอแนวคิดสหพันธรัฐไท จากนั้นมีข่าวการกวาดจับคนในประเทศไทยที่แสดงออกในทางสัญลักษณ์โดยใส่เสื้อสีดำที่มีสัญลักษณ์สหพันธรัฐที่คิดขึ้นกันเองแล้วนัดกันปรากฏตัวตามสถานที่สาธารณะในวันสำคัญเดือนธันวาคม 2561

รายงานจากศูนย์ทนายความระบุว่า คดีสหพันธรัฐไทเฉพาะในส่วนที่ศูนย์ทนายฯ ดูแลมีผู้ถูกจับกุม 13 คนใน 5 คดี ทั้งหมดถูกแจ้งข้อหาความผิดตามมาตรา 116  และมาตรา 209 ของประมวลกฎหมายอาญาและได้รับการประกันตัวทั้งหมดแล้ว ในช่วงเวลาเดียวกัน ลัดดาวัลย์ ชีวสุทธิ์ อายุ 62 ปี และสุทธวัช ชีวสุทธิ์ อายุ 31 ปี ภรรยาและบุตรชายของ ชูชีพ ถูกทหารควบคุมตัวตั้งแต่วันที่ 8 ธ.ค. 2561 และได้รับการปล่อยตัวหลังจากนั้นเป็นเวลา 7 วันด้วย

อนึ่ง ตั้งแต่ปลายปี 2561 ถึงต้นปี 2562 กลุ่มผู้ลี้ภัยทางการเมืองที่อาศัยอยู่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) อย่างสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ หรือสุรชัย แซ่ด่าน (78 ปี) ภูชนะ (54 ปี) และสหายกาสะลอง (47 ปี) นักเคลื่อนไหวทางการเมืองก็หายตัวไปก่อนจะพบศพในสภาพถูกฆาตกรรมอย่างโหดเหี้ยมลอยอยู่ในแม่น้ำโขง ผลตรวจสอบดีเอ็นเอตรงกับภูชนะและกาสะลอง ก่อนหน้านั้นในปี 2560 วุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือ ‘โกตี๋’ ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีอาญามาตรา 112 ที่ลี้ภัยอยู่ประเทศเดียวกันได้หายตัวไป ปี 2559 อิทธิพล สุขแป้น หรือ ดีเจเบียร์ หรือ ดีเจซุนโฮ ก็หายตัวไปเช่นกัน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net