Skip to main content
sharethis

ราษฎรบ้านแก้ง-โนนคำ ยื่นหนังสือต่อผู้ว่าฯ มุกดาหาร คัดค้านเอกชนขออนุญาตเข้าใช้พื้นที่ป่าสงวนป่าดงหมูแปลง 2 เพื่อทำโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานลม

ราษฎรบ้านแก้ง-โนนคำ แจ้งข่าวว่าเมื่อวันที่ 11 พ.ย. 2565 เวลา 10.10 น. ณ ศาลากลางจังหวัดมุกดาหาร ราษฎรบ้านแก้ง-โนนคำ กว่า 50 คน เข้ายื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร ขอคัดค้านการขออนุญาตเข้าใช้พื้นที่ป่าสงวนป่าดงหมูแปลง 2 เพื่อทำโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานลม บริษัท 555 กรีน เอ็นเนอร์จี้ จำกัด โดยราษฎรบ้านแก้ง-โนนคำ ได้ตั้งขบวนเดินเท้าจากลานจอดรถไปยังบริเวณด้านหน้าบันไดทางขึ้นอาคารศาลากลางจังหวัดมุกดาหาร ซึ่งขณะที่เดินได้มีการถือป้ายระบุข้อความว่า ‘หยุดกังหันลม #เฟส1’ ‘ไม่เอาค่าชดเชยเอาที่ทำกิน หยุดกังหันลม’ ‘ราษฎรสู้มา 6 ปี รัฐอ้างบุกรุกป่า แต่กับบริษัทอนุญาตภายใน 14 วัน’ และ ‘เป็นเจ้าหน้าที่รัฐไม่ใช่พนักงานบริษัท’ นอกจากนี้ยังมีการตะโกนข้อเรียกร้องในครั้งนี้เป็นระยะ ๆ ว่า “พี่น้องเอ้ย! เรามาทำไม! หยุดกังหันลม!”

โดยเมื่อขบวนราษฎรบ้านแก้ง-โนนคำ มาถึงบริเวณด้านหน้าบันไดทางขึ้นอาคารศาลากลางจังหวัดมุกดาหาร ได้มีเจ้าหน้าที่จากสำนักงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดมุกดาหารเข้ามาเจรจากับราษฎรบ้านแก้ง-โนนคำ ให้ไปพูดคุยที่ศูนย์ดำรงธรรมฯ แต่ราษฎรบ้านแก้ง-โนนคำ ยืนยันว่าจะข้อคุยกับผู้ว่าราชการจังหวัดหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเท่านั้น ทางเจ้าหน้าที่จึงทำการติดต่อเจ้าหน้าที่สำนักงานป่าไม้จังหวัดมุกดาหาร เจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดมุกดาหาร และในส่วนของผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหารมอบหมายให้ผู้อำนวยการศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดมุกดาหารเป็นตัวแทน พร้อมทั้งเปิดห้องประชุมชั้น 5 เพื่อพูดคุยถึงประเด็นปัญหาและยื่นหนังสือ

นายวิมล อึ้งพรพมบัณฑิต ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดมุกดาหาร ชี้แจงขั้นตอนโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานลมในเบื้องต้นว่าอยู่ในขั้นตอนการยื่นคำขอยังไม่ได้รับอนุญาตสร้างโครงการ และเจ้าหน้าที่สำนักงานป่าไม้จังหวัดมุกดาหารได้ลงพื้นที่ตรวจสอบพื้นที่แล้ว ส่วนหน้าที่ของสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและแวดล้อมจังหวัดก็มีหน้าที่รับเรื่องเพื่อส่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณา ในส่วนเรื่องมติสภาเทศบาลตำบลคำป่าหลายที่มีการคัดค้านนั้นได้ทำการส่งหนังสือไปที่สภาเทศบาลดังกล่าวให้ทำการตรวจสอบแล้วและต้องตอบกลับใน 30 วัน ดังนั้นเมื่อมีหนังสือคัดค้านจะเดินต่อไม่ได้ ต้องเคลียร์ทุกอย่างให้เรียบร้อย ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือผู้ว่าราชการจังหวัดไม่ให้ผ่านได้ถ้ามีข้อพิพาท และปัญหานี้ถูกนำส่งไปให้สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 7 (ขอนแก่น)

ขณะที่นายพรภิรมย์ อุระแสง ผู้อำนวยการสำนักงานป่าไม้จังหวัดมุกดาหาร กล่าวว่า พื้นที่ทำโครงการไม่ทับกับที่ชาวบ้าน อยู่คนละแปลง แปลงที่มีปัญหาอยู่ต้องกันออก การจะอนุญาตถ้าบริษัทเคลียร์กับประชาชนไม่ได้กรมป่าไม้ไม่อนุญาตแน่นอน แต่จะเป็นประโยชน์ก็คือเราได้แจ้งบริษัทว่าถ้าทับที่ดินชาวบ้านต้องชดใช้ค่าเสียหาย บริษัทยินดีที่จะชดใช้แต่ยังไม่รู้ว่าทับที่ของใคร ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนของการตรวจสอบซึ่งไม่ได้เดินตามหมุดแดงที่บริษัททำการปัก แต่เดินตามแผนที่ที่กันพื้นที่ที่ทับที่ทำกินออก และทำผังโครงการให้บริษัทใหม่เพราะผังเดิมทับที่ของราษฎร จากที่ยื่นคำขอทำกังหันลม 23 ตัว เหลือ 15 ตัว เรื่องผ่านสภาเทศบาลตำบลคำป่าหลายมาเราก็ตรวจสอบ ราษฎรคัดค้านตอนทำประชาคมเพราะถ้าไม่มีการทำประชาคมกรมป่าไม้ก็ไม่อนุญาต ราษฎรไม่เอากังหันลมก็เกิดไม่ได้ ถ้ามีปัญหากับราษฎรในพื้นที่หรือมีการคัดค้าน กรมป่าไม้ก็ไม่อนุญาต บริษัทยื่นคำขอมาเรามีหน้าที่ตรวจสอบแต่ยังไม่อนุญาต ซึ่งการอนุญาตนี้ในเมื่อพี่น้องได้รับความเดือดร้อนก็ต้องให้บริษัทไปทบทวนพื้นที่มาใหม่ที่ต้องไม่ทับที่ทำกิน ต้องยกเลิกแต่การยกเลิกคือกรมป่าไม้ต้องไม่อนุมัติ

ด้านนายอดิศักดิ์ ตุ้มอ่อน ผู้ประสานงานกลุ่มราษฎรบ้านแก้ง-โนนคำ ชี้แนะว่า พื้นที่บริเวรขอทำโครงการเป็นพื้นที่พิพาทกรณีทวงคืนผืนป่า ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างแก้ไขปัญหา และสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 7 (ขอนแก่น) ได้ทำแผนที่ออร์โธสีแล้ว และมีคำสั่งคณะกรรมการระดับจังหวัดแก้ไขปัญหาแล้ว ทางนโยบายมีมติ ครม. ให้แก้ไขปัญหา พื้นที่นี้ ทสจ. และ ป่าไม้ทราบดีว่าเป็นพื้นที่พิพาทอยู่แล้ว หลักหมุดแดงปักอยู่กลางสวนแล้วไปย้ายออกแสดงว่าเอกสารที่แนบพิจารณามติสภาเทศบาลคำป่าหลายเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 65 เป็นเท็จหรือไม่ โครงการนี้ยื่นเอกสารแนบแผนที่อยู่อีกหมู่บ้าน แต่พื้นที่ทำโครงการจริงเป็นอีกหมู่บ้านซึ่งผิดที่ผิดทาง ในเมื่อข้อมูลยังไม่รอบด้านไม่มีการประชาคมหรือชี้แจ้งโครงการต่อประชาชนวันที่ 14 ตุลาคมทำไมรีบเร่งเอาเข้าสภาฯทั้งที่เราไปยื่นหนังสือขอให้เอาวาระนี้ออกไปก่อน คำถามคือกระบวนการที่ไม่มีประชาคมแสดงว่าผิดตั้งแต่ต้น มติสภาฯ เอกสารการตรวจสอบพื้นที่ป่า ต้องเป็นโมฆะทั้งหมด ต้องยุติหรือเริ่มต้นใหม่ทั้งหมด เนื่องจากมีข้อมูลได้เปลี่ยนแปลง

นางสมัย พันธโคตร ราษฎรบ้านแก้ง-โนนคำ กล่าวย้ำว่า พวกเราไม่เอาโครงการกังหันลมเด็ดขาด เราเป็นคนในพื้นที่ทำมาหากินอยู่ตรงนั้นมาตั้งแต่เกิดตั้งแต่รุ่นพ่อแม่ เมื่อถึงช่วงฤดูของป่าเราก็ไปหาอยู่หากินที่นั้นเพื่อมาเลี้ยงลูกหลานในครอบครัว เงินชดเชยเราก็ไม่เอา เราอยู่มาตั้งแต่ปู่ย่าตายายมาถึงรุ่นหลานพวกเรา พวกเราจะต่อสู้ไม่ให้ใครมาทำโครงการอะไรในพื้นที่ ไม่เอากังหันลมเด็ดขาด

ทั้งนี้นายธนิศร์ เสถียรนาม ผู้อำนวยการศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดมุกดาหาร ได้กล่าวก่อนที่ราษฎรบ้านแก้ง-โนนคำ การยื่นหนังสือว่า ทางศูนย์ดำรงธรรมจะรับหนังสือไว้ โดยกระบวนการต้องมีผู้ลงนามในหนังสือ มีรายชื่อผู้ที่ได้รับผลกระทบเพื่อที่เราจะส่งไปที่กรมเพื่อให้หนังสือมีน้ำหนัก ทางราษฎรบ้านแก้ง-โนนคำ จึงโต้แย้งว่าถ้าต้องการรายชื่อแนบจังหวัดก็ลงพื้นที่ทำประชาคมและเขียนรายงานแนบ และต้องยุติกระบวนการหรือยกเลิกกระบวนการทั้งหมด

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net