Skip to main content
sharethis

เลขา ครป. เห็นด้วย ยุบ กอ.รมน. เป็นตัวถ่วงงบประมาณ แนะย้ายมาอยู่ใต้มหาดไทยเหมือนเดิม

2 พ.ย.2566 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า เมธา มาสขาว เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) กล่าวว่า จากการที่รัฐสภาเปิดรับความคิดเห็นร่างพระราชบัญญัติยกเลิกพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551 พ.ศ. .... ตามมาตรา 77 ของรัฐธรรมนูญ เพื่อยุบเลิกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) นั้น

เลขาฯ ครป. ยืนยันว่าตนเห็นด้วยที่จะให้มีการยุบเลิก กอ.รมน. และอาจย้ายเจ้าหน้าที่และส่วนงานไปขึ้นอยู่กับกระทรวงมหาดไทยเหมือนเก่า คนไทยอาจจะคิดว่า กอ.รมน.มีมานานแล้ว แต่จริงๆ ถูกติดปีกตามกฎหมายการรักษาความมั่นคงภายในปี 2551 และยังให้อำนาจพิเศษตามคำสั่งหัวหน้า คสช.เพิ่มขึ้นอีกในปี 2560 โดยใช้อำนาจรัฐประหารแก้ไขกฎหมายฉบับดังกล่าวจนขยายกลายเป็นอำนาจรัฐซ้อนรัฐ เพื่อใช้อำนาจครอบจักรวาลในสภาวะปกติได้ ทั้งที่มีกฎหมาย พรก.สถานการณ์ฉุกเฉินฯ อยู่แล้วด้วยซ้ำ

ปัจจุบัน กอ.รมน.แนบจะไม่มีเจ้าหน้าที่ของตนเอง เพราะส่วนใหญ่จัดส่งเจ้าหน้าที่จากกองทัพและตำรวจมาปฏิบัติหน้าที่ใน กอ.รมน.ตามที่ผู้อำนวยการร้องขอได้หมดเพื่อรับเงินซ้ำซ้อน แม้นายกรัฐมนตรีจะเป็น ผอ.กอ.รมน.โดยตำแหน่ง แต่การให้ ผบ.ทบ.เป็นรอง ผอ. เสนาธิการทหารบกเป็นเลขาธิการ กอ.รมน. มีอำนาจหน้านี้เป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการ พนักงาน และลูกจ้างใน กอ.รมน. และรับผิดชอบในการปฏิบัติราชการของ กอ.รมน. ก็เท่ากับเราสร้างรัฐทหารซ้อนรัฐบาลพลเรือนมาบริหารราชการแผ่นดินนั่นเอง ซึ่งเพิ่งเกิดขึ้นไม่นานมานี้

นอกจากนี้ยังให้มีการจัดตั้ง ผอ.กอ.รมน.ภาคและทุกจังหวัดขึ้น โดยแม่ทัพภาคเป็นผู้อำนวยการ กอ.รมน.ภาค กำกับดูแลผู้ว่าฯ รองแม่ทัพน้อยเป็น รอง ผอ.กมน.จังหวัดดูแลด้านความมั่นคง ซึ่งเท่ากับเราเป็นรัฐทหารดูแลกำกับข้าราชการและเจ้าหน้าที่รัฐขอบเขตทั่วประเทศ ไม่ใช่มหาดไทยเหมือนเดิม และสิ้นเปลืองงบประมาณปีละเกือบหมื่นล้านบาททุกปี ทั้งๆ ที่ไม่จำเป็น ไม่มีประโยชน์ และทำงานซ้ำซ้อน เป็นต้นเหตุของการคอร์รัปชั่นในระบบราชการ

ในกอ.รมน. มีทั้งทหาร ตำรวจ ปกครอง แรงงาน หลายหน่วยงานถูกสั่งไปช่วยราชการเพื่องบประมาณที่ซ้ำซ้อน รวมถึงเพื่อได้การนับเวลาราชการเป็น 2 เท่าของเวลาราชการปกติ ได้วันทวีคูณข้าราชการเพิ่มเข้าไปอีกเพื่อได้เลื่อนตำแหน่งเร็วขึ้น จังหวัดละเกือบ 20-30 คน กลายเป็นระบบเส้นสาย-เด็กฝาก-เด็กนายเต็มไปหมด ทั้งที่ไม่ได้ไปทำงานป้องกันประเทศหรือเสี่ยงภัยใดๆ และตลอด 10 ปีที่ผ่านมา กอ.รมน.ใช้งบไปกว่า 1 แสนล้านบาท  ถือว่าเป็นตัวถ่วงในระบบงบประมาณ แทนที่จะมาใช้จ่ายเป็นรัฐสวัสดิการให้ประชาชน หรือลดค่าน้ำ-ค่าไฟ

"ยังทำงานซ้ำซ้อนกับทุกหน่วยงานในจังหวัด ภาษาชาวบ้านที่ร้องเรียนมาคือเข้าไปเสือกทุกเรื่องที่มีการร้องเรียนเข้ามาในจังหวัด บางเรื่องรู้ก่อนว่าจะมีการร้องเรียนไปแจ้งเตือนผู้ประกอบการ ไปเรียกรับผลประโยชน์ เก็บส่วยเสียเอง บางส่วนตำรวจท้องที่ต้องเก็บส่วนแบ่งให้ กอ.รมน.ด้วยซ้ำไป ถ้าไม่ส่งจะเข้าตรวจฉี่ตรวจเยี่ยมตามอำนาจที่มีการร้องเรียน" เลขาฯ ครป. กล่าว

ไปสอบถามทหาร-ตำรวจ-พ่อค้า-ข้าราชการในพื้นที่ได้ วันนี้มีข้อครหาว่า กอ.รมน.แทบทุกจังหวัดเกี่ยวข้องกับการเก็บส่วย เกี่ยวข้องกับธุรกิจสีเทาครบวงจร บางส่วนมีการเรียกรับเงินร้านอาหาร ไนท์คลับผับบาร์ ร้านขายของลิขสิทธิ ร้านขายบุหรี่ไฟ้า โรงงานที่มีกลุ่มแรงงานข้ามชาติจำนวนมาก ยังไม่รวมเจ้ามือหวย บ่อน ต่างๆ ที่ กอ.รมน. เข้าไปหาผลประโยชน์จากช่องว่างทางอำนาจที่มี ยิ่งใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่หาความสงบไม่เจอก็เพราะงบประมาณพิเศษแบบนี้


เลขาฯ ครป. กล่าวด้วยว่าว่าตนเห็นด้วยให้มีการยุบเลิก กอ.รมน. ที่ซ้ำซ้อนและเป็นรัฐซ้อนรัฐ เพราะสงครามเย็นกับคอมมิวนิสต์จบลงแล้ว กม.คอมมิวนิสต์ก็ยกเลิก แต่ดันมาสร้างกฎหมายใหม่ที่ตรวจสอบประชาชนที่เห็นต่างแทนและปัจจุบันใช้หาผลประโยชน์ต่างตอบแทน ต้องยกเลิก โดยให้กระทรวงมหาดไทยมีอำนาจทำหน้าที่แทนเหมือนเดิม แต่ต้องปฏิรูปการทำงานในรูปแบบใหม่  เพื่อให้ความมั่นคงของรัฐคือความมั่นคงของประชาชน รวมถึงการบูรณาการกิจการชายแดนร่วมกันใหม่ ให้เป็นหน้าที่ของกระทรวงมหาดไทย ส่วนกองทัพให้ดูแลด้านความมั่นคงของชาติซึ่งมีกฎหมายรับรองอยู่แล้ว

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net