Skip to main content
sharethis

อัยการสั่งฟ้อง 6 นักกิจกรรม คดีจากการเดินขบวนชูป้าย “เรียกร้องตาที่หายไปและตามหาความรับผิดชอบจากเหตุการณ์เจ้าหน้าที่รัฐกระทืบประชาชน” เรียกร้องดวงตาให้ ‘พายุ ดาวดิน’ เหยื่อกระสุนยาง คฝ. ใน #ม็อบ18พฤศจิกา65 ราษฎรหยุด APEC 2022

 

21 พ.ย. 2566 ศูนย์ทนายเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงาน วันนี้ (21 พ.ย. 2566) ที่ศาลแขวงปทุมวัน พนักงานอัยการนัดหมายนักกิจกรรม 6 ราย เพื่อสั่งฟ้องคดีจากการเดินขบวนและชูป้าย “เรียกร้องตาที่หายไปและตามหาความรับผิดชอบจากเหตุการณ์เจ้าหน้าที่รัฐกระทืบประชาชน” กรณี ‘พายุ ดาวดิน’ ถูกเจ้าหน้าที่ คฝ. ยิงกระสุนยางใส่จนสูญเสียดวงตา เมื่อวันที่ 23 พ.ย. 2565 ที่บริเวณลานวงเวียนโอเดี้ยน ถนนเยาวราช 

คดีนี้มี พ.ต.ท.ณัฐวุฒิ สุขวัต เป็นผู้กล่าวหาที่ สน.พลับพลาไชย 2 โดยตำรวจเพิ่งมีการออกหมายเรียกเมื่อช่วงเดือนกรกฎาคม 2566

คดีมีผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมด 8 คน ใน 3 ข้อกล่าวหา ได้แก่ ร่วมกันชุมนุมสาธารณะ ก่อให้เกิดความไม่สะดวกแก่ประชาชนที่จะใช้ที่สาธารณะ และเคลื่อนย้ายการชุมนุมหลังเวลา 18.00 น. โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน ตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. 2558 มาตรา 16 (1) และ (8) รวมทั้งข้อหาร่วมกันเดินเป็นขบวนแห่ในลักษณะที่กีดขวางการจราจร ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522

ต่อมาตำรวจส่งสำนวนคดีให้อัยการ เมื่อช่วงเดือนกันยายน 2566 ก่อนมีการนัดฟังคำสั่งมาทั้งหมด 4 ครั้ง และอัยการมีคำสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหา 2 ราย ผู้เป็นช่างภาพซึ่งไปถ่ายภาพในที่ชุมนุม และมีคำสั่งฟ้องคดีผู้ต้องหาอีก 6 ราย โดยได้รับอนุญาตฟ้องจากรองอัยการสูงสุดและอธิบดีอัยการภาคแล้ว

สำหรับผู้ถูกฟ้องคดีมีทั้งหมด 6 คน ได้แก่ แทนฤทัย แท่นรัตน์, วรัณยา แซ่ง้อ, ภราดร เกตุเผือก, สิทธิชัย ปราศรัย, พิชัย เลิศจินตวงษ์ และ อานุภาพ คงปาน

วีรวุฒิ รัชวรพงศ์ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีศาลแขวง 6 เป็นผู้เรียงฟ้องคดี โดยสรุประบุว่า เมื่อวันที่ 23 พ.ย. 2565 เวลา 19.10 น. ถึง 20.10 น. จำเลยทั้งหกกับพวก ได้ร่วมกันเดินขบวน เพื่อแสดงความคิดเห็นตำหนิการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงานตำรวจที่สลายการชุมนุมในกิจกรรม “ราษฎรหยุดAPEC2022” เป็นเหตุให้ “นายพายุ ดาวดิน” ได้รับบาดเจ็บบริเวณดวงตา อันเป็นการร่วมชุมนุมสาธารณะ 

ผู้ชุมนุมได้ร่วมกันเดินขบวน ตะโกนถ้อยคำ พร้อมกับถือป้ายข้อความต่าง ๆ เช่น “ตำรวจยิงประชาชน” “Bloody APEC 2022” “ความรุนแรงจากรัฐ พรากดวงตา พายุ ดาวดิน” เป็นต้น ไปตามถนนเยาวชน อันเป็นถนนสาธารณะที่มีไว้สำหรับประชาชนใช้ร่วมกันในการจราจร

โจทก์กล่าวหาว่าจำเลยทั้งหกกับพวก ได้เดินขบวนเข้าไปในช่องการจราจรที่ประชาชนใช้สัญจร ซึ่งในขณะนั้นมีการจราจรหนาแน่น ในลักษณะที่เป็นการกีดขวางการจราจร ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนเกินสมควร และเกิดความไม่สะดวกที่จะใช้ถนนสาธารณะดังกล่าว อีกทั้งยังไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานดูแลการชุมนุมสาธารณะ

หลังศาลรับฟังไว้ ได้ให้ปล่อยตัวจำเลยทั้งหกไปโดยไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ แต่หากจำเลยไม่เดินทางมาศาล ให้ปรับนายประกัน 20,000 บาท พร้อมกำหนดวันนัดสอบคำให้การและตรวจพยานหลักฐานต่อไปวันที่ 17 ม.ค. 2567 เวลา 9.00 น. 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net