Skip to main content
sharethis

17 ตัวประกันในอิสราเอล เดินทางเดินทางถึงแล้ว พร้อมขอบคุณทุกฝ่ายที่ช่วยเหลือ 'เศรษฐา' วิดีโอคอลหาสอบถามสารทุกข์สุขดิบ เร่งหาทางช่วยตัวประกันที่เหลืออีก 9 คน ด้าน สธ.คัดกรองสุขภาพ พบเครียดเล็กน้อย 2 คน

30 พ.ย. 2566 Thai PBS รายงานว่าเมื่อเวลา 16.00 น. ปานปรีย์ พหิทธานุกร รมว.ต่างประเทศ แถลงข่าวต้อนรับ 17 คนไทยที่ถูกปล่อยจากตัวประกัน โดยการแถลงข่าวครั้งนี้มีการวิดีโอคอลจากเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง มาสอบถามสารทุกข์สุขดิบคนไทย โดยถามว่าดีใจหรือไม่ที่กลับมา และสอบถามว่าได้ติดต่อกับเพื่อนคนไทยที่ยังเหลืออยู่ว่าสบายดีหรือไม่

ทั้งนี้ตัวแทนคนไทย บอกว่ามีกำลังใจดีมากแต่ยอมรับว่าไม่ทราบข่าวเพื่อนคนไทยที่เหลือ และได้รับการดูแลดีในระดับหนึ่งไม่ถึงกับเลวร้าย

เศรษฐา กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมารัฐบาล รวมทั้งนายปานปรีย์ ได้ติดต่อให้ความช่วยเหลือกับหลายประเทศ เช่น มาเลเซีย และกาตาร์ เพื่อขอให้ช่วยเหลือคนไทยที่ถูกจับไปเป็นตัวประกัน และนับแต่วันที่ 7 ต.ค.ได้หาแนวทางช่วยเหลืออย่างเต็มที่ และทุกคนมีความเป็นห่วง จนนำมาสู่วันนี้ที่คนไทยได้รับการช่วยเหลือ และอยากให้คนที่เหลือได้รับการช่วยเหลือกลับมา

ปานปรีย์ กล่าวว่า คนไทย 17 คนที่ได้รับการปล่อยตัวมา ทุกคนมีสภาพจิตใจดี และทางอิสราเอลได้การดูแลเป็นอย่างดีในโรงพยาบาล ซึ่งคนไทยประสบปัญหามาและห่วงว่าจะกระทบสุขภาพจิต แต่พบว่าทุกคนยังสุขภาพจิตดีและอยากกลับไทยเร็วที่สุด

"ในช่วงที่อยู่ในอิสราเอลได้ข่าวดีว่ามี 2 คนถูกปล่อยตัวมารวมกับชุดนี้เป็น 19 คนและเพิ่มมาอีก 4 คนระหว่างที่เดินทาง มีตัวประกันปล่อยตัวมาแล้ว 23 คนและค้างอยู่อีก 9 คน และยังทำงานต่อจนกว่าทั้งหมดจะได้รับอิสรภาพกลับมา" ปานปรีย์ กล่าว

ปานปรีย์ กล่าวอีกว่า โดยวันนี้กลับมาชุดแรก 17 คน และอีก 6 คนบางส่วนเข้ารับการตรวจสุขภาพเรียบร้อยแล้ว และคาดว่าอีก 6 คนจะได้เดินทางกลับมาในเร็ววัน และขอขอบคุณมิตรประเทศที่ช่วยเหลือ เพราะเท่าที่สัมผัสเขารักคนไทยมาก และมาเที่ยวไทยจึงอยากให้คนไทยได้รับการช่วยเหลือ โดยจำนวนตัวประกัน 200 คน พบว่า คนไทยได้รับการปล่อยตัวในลำดับต้นๆ และมีการปล่อยตัวมากที่สุด

นอกจากนี้เพื่อให้เกิดความมั่นใจยังได้พบกับประธานาธิบดีอิสราเอล และ รมว.ต่างประเทศ เพื่อขอความมั่นใจว่าพี่น้องคนไทยที่ไปทางอิสราเอลจะได้รับความปลอดภัยและได้รับสิทธิประโยชน์ และเขารับปากว่าจะดูแลอย่างดี ไม่ต้องเป็นห่วงหรือกังวลว่าจะถูกตัดชื่อทิ้ง

เมื่อถามว่าการช่วยเหลือตัวประกันที่ผ่านมามาถูกทางหรือไม่ นายปานปรีย์ กล่าวว่า ความสำเร็จมาถูกทาง ไม่อย่างนั้นคงไม่มีตัวประกันคนไทยถูกปล่อยกลับมาจากตัวเลข 17 คนและมีจำนวนที่ถูกปล่อยตัวออกมาเรื่อยๆ ส่วนอีก 9 คนยังไม่หยุดหน้าที่ เป็นเรื่องที่เราห่วงใยและกังวลไม่ต่างกับ 17 คนแรกที่ได้รับการปล่อยตัวมาก อีกทั้งจากความร่วมมือจากหลายหน่วยงานกระทรวงต่างประเทศเป็นด่านหน้า

ถ้าถามว่าเป็นความสำเร็จทางการทูตหรือไม่ คิดว่าได้ทำหน้าที่ว่าทำหน้าที่ทางการทูตอย่างเต็มที่ การพูดคุยกับมิตรประเทศเป็นเรื่องสำคัญที่ทำให้เกิดความสำเร็จตรงนี้

ตัวแทนคนไทยที่ถูกจับเป็นตัวประกัน กล่าวว่า ขอบคุณนายกรัฐมนตรี และนายปานปรีย์ และทุกหน่วยงาน รวมทั้งเอกอัครราชทูต และคนไทยที่ส่งกำลังใจให้ความช่วยเหลือคนไทยที่ถูกจับเป็นตัวประกัน และขอแสดงความเสียใจกับเพื่อนแรงงานไทยที่เสียชีวิต 39 คน จากนั้นขอให้ทุกคนร่วมยืนไว้อาลัยกับเพื่อนๆ แรงงาน

“ขอบคุณทุกหน่วยงาน ขอบคุณทุกกำลังใจที่ได้กลับบ้าน” เสียงจากแรงงานหญิงคนเดียวที่ได้รับการปล่อยตัว

เมื่อถามว่าตอนที่ได้ไปเจอตัวประกันที่ถูกปล่อยมา นายปานปรีย์ บอกว่าเป็นความรู้สึกที่อยู่ในใจ มาตลอดระยะเวลา 2 เดือน ความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นกับตัวประกันทั้งหมดเราไม่รู้ว่าเขายังมีชีวิต และมีชีวิตอยู่จะเป็นอย่างไร จะปลอดภัยหรือไม่ เราเอาใจเขาไปใส่ใจเรา

"ถ้าเกิดขึ้นกับตัวเราหรือญาติพี่น้อง เมื่อพบทั้ง 17 คนจึงยินดี ดีใจ โล่งอก สบายใจว่าทั้ง 17 คนมีชีวิตและปลอดภัย และทุกคนยิ้มแย้มได้ เป็นความอิ่มเอมใจ" ปานปรีย์ กล่าว

สธ.คัดกรองสุขภาพ 17 ตัวประกัน พบเครียดเล็กน้อย 2 คน

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า ได้รับรายงานจากด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กรมควบคุมโรค และกรมสุขภาพจิต ถึงผลการคัดกรองสุขภาพตัวประกันชาวไทยที่เดินทางกลับจากอิสราเอล จำนวน 17 คน เบื้องต้น ผลการคัดกรองสุขภาพกาย ไม่พบผู้ป่วยสงสัยโรคติดต่อหรือมีไข้ แต่พบมีอาการป่วยทางกาย 6 ราย แบ่งเป็น มีปัญหาการได้ยิน 2 คน ปวดเข่า 1 คน ชานิ้วโป้ง 1 รคน ปวดท้องโรคกระเพาะ 1 คน และโลหิตจาง สงสัยธาลัสซีเมีย 1 คน โดยเจาะตรวจเลือดเพื่อวินิจฉัยเพิ่มเติมแล้ว

ส่วนการคัดกรองทางด้านสุขภาพจิต พบมีความเครียดเล็กน้อย 2 คน ที่เหลือ 15 คน อาการปกติ ภาพรวมไม่มีผู้ป่วยที่ต้องประสานส่งต่อไปยังโรงพยาบาล อย่างไรก็ตาม จะมีการประสานโรงพยาบาลในพื้นที่ดำเนินการติดตามเรื่องสุขภาพต่อไป

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net