ประชาไท ชวนคุยกับ พิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล หนึ่งในผู้อภิปราย ‘งบส่วนราชการในพระองค์’ ในการประชุมสภาผู้แทนฯ เพื่อพิจารณาร่างงบประมาณรายจ่ายประจำปี 65 วาระ 2 เมื่อวันที่ 21 ส.ค.ที่ผ่านมา กับประเด็น ทบทวนเหตุที่เสนอตัดงบฯ ดังกล่าว พร้อมประเมินผลลัพธ์ที่ตามมา ตั้งแต่พรรคร่วมฝ่ายค้านเองก็ไม่เอาด้วย และล่าสุดโดนเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ร้อง กกต. ขอยุบพรรค รวมถึงมุมมองต่อข้อกล่าวหาที่เรืองไกรตั้งว่า "อภิปรายงบฯส่วนราชการในพระองค์ เข้าข่ายปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุข"

วิเคราะห์ปัญหาการจัดทำงบส่วนราชการในพระองค์อย่างไรเมื่อเทียบก่อนหลังการโอนย้ายทั้งสำนักพระราชวัง สำนักราชเลขาธิการ และ กรมราชองค์รักษ์ พร้อมส่วนที่ค้นพบแล้วไม่ได้อภิปราย  และสุดท้ายประเด็นที่อยากฝากถึงนักการเมืองหรือกลุ่มคนที่ไม่เห็นด้วย จนถึงพยายามยุบพรรคก้าวไกลจากการอภิปรายตรวจสอบการใช้งบประมาณในส่วนนี้

โดย พิจารณ์ ยืนยันว่า การทำให้งบประมาณที่เกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์มีความโปรงใส ตรวจสอบได้ ไร้ข้อสงสัย ไร้ข้อกังขาจากประชาชนจะเป็นการส่งเสริมประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข

"การทำให้งบประมาณที่เกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์มีความโปรงใส ตรวจสอบได้ ไร้ข้อสงสัย ไร้ข้อกังขาจากพี่น้องประชาชน ผมว่าอันนี้จะเป็นการส่งเสริมประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข" พิจารณ์ กล่าว

พิจารณ์ ยืนยันว่าสิ่งที่พรรคก้าวไกลทำนั้น ไม่ได้มีเจตนาที่ไม่ดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ แต่ทำไปตามหน้าที่บทบาทของผู้แทนราษฎร สิ่งที่ตนพูดก็อยู่ในเอกสารงบประมาณ และปีงบประมาณปีนี้เป็นปีที่ไม่เหมือนปีที่ผ่านมานั่นจึงเป็นที่มาที่การปรับลดงบประมาณในส่วนราชการในพระองค์ในส่วนที่เท่ากับหน่วยงานอื่นที่ถูกปรับลดน่าจะเป็นสิ่งที่ทำได้