กองทัพสหรัฐว้า (UWSA) วางตัวเป็นกลางมาโดยตลอดนับตั้งแต่ที่มีการสู้รบระหว่างฝ่ายต่อต้านกับกองทัพเผด็จการพม่าตั้งแต่รัฐประหารสองปีที่แล้ว แต่เมื่อไม่นานมานี้พวกเขาได้แถลงการณ์ในเรื่องการร่วมมือต่อต้านเผด็จการทหาร ทำให้มีนักวิเคราะห์มองว่า ถ้าหาก UWSA ที่มีแรงสนับสนุนจากจีนหันมาร่วมกับฝ่ายต่อต้านด้วย มันก็จะกลายเป็นการพลิกโฉมสงครามปฏิวัติพม่า

ที่มาภาพ: Shan News

ท่ามกลางการสู้รบในพม่าหลังการรัฐประหารครั้งล่าสุด ตั้งแต่ ก.พ. ปี 2564 เป็นต้นมา กองทัพสหรัฐว้า (UWSA) ได้ดำรงจุดยืนเป็นกลางมาโดยตลอด อย่างไรก็ตามในแถลงการณ์เมื่อไม่นานมานี้ของ UWSA ก็ระบุเน้นย้ำเรื่องความสำคัญของความเป็นเอกภาพในการพยายามร่วมมือกันต่อสู้กับกองทัพเผด็จการพม่า แถลงการณ์ฉบับดังกล่าวนี้ออกมาเนื่องในวาระวันครบรอบการก่อตั้งพรรคสหรัฐว้า (UWSP)

U Than Soe Naing นักวิเคราะห์ด้านการเมืองและการทหารระบุว่าถ้าหากว่ากองทัพว้าจะเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ "แนวร่วมปฏิวัติฤดูใบไม้ผลิ" ของพม่ามันก็จะกลายเป็นการสร้างแรงผลักดับในการต่อสู้เพื่อโค่นล้มเผด็จการทหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาจากการเริ่มเปิดฉากโหมโรงโดยฝ่ายประชาธิปไตยคือรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ (NUG)

กลุ่มแนวร่วมปฏิวัติฤดูใบไม้ผลิเป็นแนวร่วมต่อต้านเผด็จการทหารที่มีทั้งฝ่ายประชาธิปไตยพม่ากับกลุ่มชาติพันธุ์ในพม่าที่ต่อต้านกองทัพ

นักวิจารณ์ตั้งข้อสังเกตว่าฝ่ายต่อต้านในปัจจุบันที่ประกอบด้วยกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์และกองกำลังพิทักษ์ประชาชน (PDFs) กำลังมีความได้เปรียบเชิงยุทธศาสตร์ อย่างไรก็ตาม กองทัพพม่าก็เป็นสถาบันที่มีอิทธิพลต่อเนื่องมาอย่างยาวนานและมีกำลังคนจำนวนมากอยู่ที่ระหว่าง 300,000 - 400,000 คน ทำให้ชัยชนะของฝ่ายต่อต้านยังคงเป็นเรื่องที่ไม่แน่นอนเมื่อดูจากประวัติศาสตร์การที่กองทัพพม่ามีอำนาจปกครองประเทศมาอย่างยาวนานถึง 60 กว่าปีแล้ว

แต่ก็มีนักวิจารณ์จำนวนมากที่มองว่าฝ่ายต่อต้านมีโอกาสที่จะโค่นล้มเผด็จการทหารได้ เพราะว่าฝ่ายเผด็จการทหารเผชิญกับปัญหาหลายอย่างในพื้นที่หลายแห่งทั่วประเทศ ในภาคตะวันออกพวกเขาก็เผชิญกับการโจมตีจากกองกำลังกะเรนนีและกองกำลังกะเหรี่ยง ในภาคตะวันตกก็มีการโจมตีของอาระกันอาร์มีและแนวร่วมแห่งชาติรัฐชีน (CNF) ในภาคกลางก็มีหลายพื้นที่ที่ถูกยึดครองโดยกลุ่ม PDFs ในทางตอนเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือก็มีการโจมตีจากกองกำลังอิสรภาพกะฉิ่น (KIA) และพันธมิตรสามภราดรภาพ (TBA)

นอกจากนี้แล้ว ในแถบชายแดนตอนนี้ก็อยู่ภายใต้การควบคุมขององค์การติดอาวุธชาติพันธุ์และกองกำลัง PDFs ของ NUG ซึ่งเป็นการยึดครองที่ได้รับการสนับสนุนจากประเทศใกล้เคียงอย่างจีน สถานการณ์เช่นนี้สร้างปัญหาด้านการขนส่งลำเลียงให้กับเผด็จการพม่าในการได้รับอาวุธยุทโธปกรณ์ เรื่องนี้ส่งผลมากเป็นพิเศษต่อผู้จัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์รายใหญ่ให้พม่าอย่างรัสเซียและเกาหลีเหนือ พวกเขาเผชิญกับการถูกจำกัดการเข้าถึงเนื่องจากกลุ่มต่อต้านควบคุมพื้นที่ชายแดนอยู่ นอกจากนี้แล้วกำลังพลของเผด็จการทหารก็ลดลงเนื่องจากการเสียชีวิต, การบาดเจ็บ และการยอมแพ้ต่อกองกำลังฝ่ายต่อต้าน

ถึงแม้ว่าฝ่ายต่อต้านดูเหมือนจะได้แรงผลักดันเพิ่มมากขึ้นแต่การที่กลุ่มว้าเข้าร่วมด้วยจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางบวกขึ้นต่อการโค่นล้มเผด็จการทหาร กลุ่มว้าเป็นกลุ่มที่ใหญ่ที่สุดในหมู่องค์การติดอาวุธชาติพันธุ์ในพม่าโดยมีกำลังพลอยู่ราว 20,000 - 30,000 นอกจากนี้กลุ่มว้ายังเป็นประธานของคณะกรรมการเจรจาและปรึกษาทางการเมืองแห่งสหพันธรัฐ (FPNCC) ซึ่งเป็นกลุ่มที่เป็นการรวมตัวกันของกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์หลายกลุ่มที่ต่อสู้กับกองทัพพม่า เช่น อาระกันอาร์มี, กองกำลังอิสรภาพกะฉิ่น, กองกำลังโกก้าง, กองทัพปลดปล่อยแห่งชาติตะอาง รวมถึง กองกำลังสัมพันธมิตรชาติประชาธิปไตย (NDAA) และพรรคก้าวหน้ารัฐฉาน/กองทัพรัฐฉานภาคเหนือ (SSPP/SSA-N) ด้วย กลุ่ม FPNCC นี่มีกำลังพลติดอาวุธสมัยใหม่ที่ประจำการอยู่มากกว่า 70,000 นาย

จีนให้ความช่วยเหลือทางการเมืองและทางเศรษฐกิจต่อ UWSA อย่างมากเพราะพวกเขามีประวัติศาสตร์ร่วมกันมายาวนานย้อนกลับไปได้ตั้งแต่ยุคสมัยคริสต์ทศวรรษที่ 1950s ที่ผู้นำกลุ่มนี้รับใช้พรรคคอมมิวนิสต์แห่งพม่า (CPB) เรื่องนี้ทำให้กองทัพว้ามียุทโธปกรณ์สมัยใหม่จากจีนอย่างรถลำเลียงพลหุ้มเกราะ, ขีปนาวุธที่ยิงจากพื้นดินสู่พื้นดิน, โดรนติดอาวุธ, ปืนใหญ่ต่อต้านอากาศยาน, ขีปนาวุธต่อต้านอากาศยานแบบประดับบ่ายิง ปัจจัยเช่นนี้ทำให้ UWSA ปฏิบัติการอย่างเป็นเอกเทศได้ด้วยระบบการปกครองของพวกเขาเอง

มันจึงเป็นเรื่องที่พูดได้ว่า การที่ผู้เล่นหลักๆ อย่าง UWSA เข้ามามีส่วนร่วมนั้นมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดการปรับเปลี่ยนความพยายามร่วมกันในการขจัดการครอบงำทางการเมืองของกองทัพพม่า การให้ UWSA เข้ามามีส่วนร่วมไม่เพียงแค่จะเป็นการเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ทางยุทธศาสตร์เท่านั้นแต่ยังเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาที่สำคัญสำหรับการพลิกโฉมพลวัติทางการเมืองในพม่าด้วย

อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้มันก็ยังยากที่จะบอกว่า UWSA จะร่วมมือกันกับกลุ่มต่อต้านเพื่อล้มล้างเผด็จการทหารพม่าหรือไม่ หรือจะยังคงวางตัวเป็นกลางอยู่เช่นเดิม

เรียบเรียงจาก
UWSA’s Potential as a Game Changer in Myanmar’s Revolutionary Conflict, Shan Herald Agency For News, 24-12-2023