Skip to main content
ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ
sharethis


จอน อึ๊งภากรณ์ เจ้าของรางวัลแมกไซไซ ๒๐๐๕ เป็นคนขี้เกียจและดื้อเหลือร้าย


 


ด้วยนามสกุล "อึ๊งภากรณ์" ทำให้คนส่วนใหญ่มักนึกไปถึงพ่อของเขา ในฐานะบุคคลที่น่าจะเป็นเบื้องหลังสำคัญของคุณความดีต่างๆ ทำนองลูกไม้ย่อมหล่นไม่ไกลต้น แต่จอนมักบอกเสมอว่า นั่นเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น คนที่มีอิทธิพลหลักในครอบครัวคือ "คุณแม่" ซึ่งเป็นผู้ที่เชื่อมั่นในเรื่องสันติวิธี เคารพในระบอบสังคมนิยมประชาธิปไตย และมีวิถีการดำรงชีวิตที่สมถะเสมอมา


 


เมื่อทั้งพ่อและแม่ต่างเป็นนักกิจกรรมทางสังคมทั้งคู่ ก็น่าจะส่งผลมาถึงลูก... แต่เปล่าเลย... "คนเราโดยธรรมชาติมักเป็นกบฏต่อพ่อแม่" จอนเชื่ออย่างนั้น เขาบอกว่า สมัยเรียนหนังสือ เขาไม่ได้เข้าร่วมกิจกรรมอะไรเลย วันๆ เอาแต่นอน แถมช่วงปีสุดท้ายของการเรียนมหาวิทยาลัย ก็หวุดหวิดจะเรียนไม่จบ เพราะไม่เข้าใจเนื้อหาวิชาเลย


 


"ผมเองกว่าจะมาทำงานด้านสังคมก็อายุมากแล้ว ตอนนั้นก็อายุประมาณ ๒๖-๒๗" โชคดีที่ความขี้เกียจของจอน ถูกถ่วงดุลไว้ด้วยความ "โ-ค-ต-ร ดื้อ" แทบจะเรียกได้ว่า ตลอดชีวิตที่ผ่านมา ความดื้อคือตัวผลักดันให้จอนทำสิ่งต่างๆ จนสำเร็จ


 


จอนจะดื้อทำในสิ่งที่ตัวเองชอบและสนุก เช่น จอนชอบการให้บริการปรึกษา (Counseling) ก็สอดคล้องกับที่เขาทำงานกับผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่มีงานให้คำปรึกษา จอนมักปฏิเสธเมื่อใครต่อใครบอกว่าสิ่งที่จอนทำมาจากอุดมการณ์อันแรงกล้า เพราะเขามักตอบกลับว่า มันไม่ใช่อุดมการณ์ที่ไหน แต่เขาจะเลือกทำในสิ่งที่ชอบเท่านั้น


 


เป็นความจริงที่จอนทำในสิ่งที่ชอบมาตลอด เขาชอบการเคารพศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ กิจกรรมของจอนจึงไปในทางที่ต่อต้านการแบ่งแยกกีดกันระหว่างมนุษย์ในทุกรูปแบบ เขาจึงผลักดันการสร้างความรู้เรื่องเอชไอวีเพื่อลดการตีตราผู้ติดเชื้อ เขาชอบสิทธิและเสรีภาพ เขาจึงผลักดันให้ผู้ติดเชื้อเอชไอวีต้องมีสิทธิเข้าถึงยา และเมื่อมาเป็นสมาชิกวุฒิสภา เขาก็ชอบที่จะแก้ไขกฎหมาย เพื่อให้คนทุกคนมีสิทธิได้เรียนหนังสือฟรีอย่างแท้จริง ให้ทุกคนมีสิทธิเข้ารับการรักษาพยาบาลโดยเท่าเทียม


 


แม้หลายเรื่องที่เห็นแววตั้งแต่ต้นว่าสู้แล้วคงแพ้ แต่จอนก็ยัง "ดื้อ" ทำต่อถึงที่สุด เช่น การเคลื่อนไหวเพื่อยกเลิกโทษประหารชีวิต การผลักดันให้ชุมชนมีสิทธิดูแลทรัพยากรของตนเอง เช่น ห้ามให้การทำเหมืองไปเบียดเบียนขุดเจาะพื้นที่ของชุมชน


 


ตอนนี้ จอนกำลังเคลื่อนไหวยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้แก้ไขกฎหมายที่จะจับประชาชนที่ชุมนุมกันในเขตทางหลวง และคัดค้านกฎหมายที่เพิ่มอำนาจให้ฝ่ายบริหารในการลิดรอนสิทธิและเสรีภาพของประชาชน


 


ทั้งหมดที่ทำไปนั้น จอน...ซึ่งมีนิสัยขี้เกียจในบางครั้งคราว ย่อมไม่สามารถขับเคลื่อนเพียงลำพัง แต่เพราะมีทั้งองค์กรภาคประชาชน และสมาชิกวุฒิสภาร่วมสนับสนุน โดยที่มีความดื้อเหลือร้ายเป็นตัวผลักดัน


 


แม้ว่านิสัยขี้เกียจและดื้อ เป็นนิสัยที่ไม่มีใครชอบใจนัก โดยเฉพาะเมื่อเกิดขึ้นกับเยาวชนที่ถูกคาดหวังให้เป็นอนาคตของชาติ แต่จอน อึ๊งภากรณ์ มักได้รับเชิญให้ไปร่วมคุยประเด็นเกี่ยวกับการพัฒนาเยาวชน การเรียนรู้ของเยาวชน และก็ทุกครั้งจอนมักจะเปิดใจกว้างสำหรับพื้นที่ของการเติบโตทางความคิด จอนไม่เคยสะดุ้งสะเทือนและตัดสินบุคคลเพียงพฤติกรรมที่ก้าวร้าว ดื้อดึง ตรงกันข้ามกลับจะชอบใจกับความประพฤติที่ใส ซื่อ ตรงไปตรงมา


 


ทุกวันนี้ จอนยังคงเป็นคนขี้เกียจและดื้อ แต่นั่นก็ทำให้เขาใจกว้างและเข้าใจในความเป็นปุถุชนทั่วไปด้วย.



ภาพเมื่อครั้งที่อาจารย์จอนร่วมในขบวนประท้วงเรียกร้องการเข้าถึงยาเอดส์ ก.ค. ๒๕๔๓ ที่นิวยอร์ค

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net