ม็อบนักศึกษาไม่ทราบสังกัดประท้วง "สนธิ"

ภาพจาก www.manager.co.th

ใครที่เคยว่า ข้าราชการไทยเช้าชามเย็นชาม ต้องเปลี่ยนความคิดใหม่กันแล้ว เมื่อสถานการณ์ความขัดแย้งในประเด็นรัฐกับประชาชนช่วงนี้ ได้ตีแผ่ให้เห็นบทบาทของข้าราชการไทยบางคนว่ายอมถวายหัวให้กับภาคการเมือง และมุมความคิดต่อหน้าที่ "บำบัดทุกข์ บำรุงสุข" ได้เปลี่ยนแปลงไป

ม็อบสวนลุมศุกร์ที่ 20 มกราคม ที่ผ่านมา ที่มีกระแสข่าวละเอียดยิบว่าถูกปลุกให้มาปะทะกับกลุ่มผู้ชมรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ เกิดความวุ่นวายเมื่อเกิดการจุดประทัดยักษ์ขึ้น การจับกุมตัวได้ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ประกอบกับการใช้กลไกของสื่อที่เครือผู้จัดการมีอยู่บันทึกภาพเหตุการณ์ได้ทันท่วงที ซึ่งเมื่อย้อนรอยประวัติผู้ก่อเหตุแล้ว สอดรับถึงข้อกล่าวหาว่าเป็นการสั่งการของรัฐมนตรีจากภาคเหนือ และกระทำโดยข้าราชการระดับสูงอีกต่างหาก

เวบไซด์เครือผู้จัดการเปิดเบื้องหลังมือประทัดยักษ์ป่วนสวนลุม ว่าเป็นตำรวจบ้านที่เดินทางมาจากเชียงราย ขณะที่ชายกลางคนเสื้อเหลืองแจ๊กเก็ตดำ ที่ตำรวจปล่อยตัว ก็มีชื่อว่า"เก่งกาจ ศรีหาสาร" ที่เป็นข้าราชการซี. 8 กรมอุทยานฯ

"ผู้จัดการรายวัน"รายงานข่าวเจาะสืบค้น พบว่า นายสุทิพย์ ณรงค์ มือประทัดยักษ์ เป็นหนึ่งในอาสาสมัครตำรวจบ้าน จำนวน 300 กว่าคน ที่เข้ารับการอบรมพิเศษจากเงินนอกงบประมาณ ซึ่งในหลักสูตรมีวิชาเกี่ยวข้องกับการแทรกซึมและสลายม็อบ เดินทางมาจาก ค่าย ต.ช.ด.327 กิ่วทัพยั้ง อำเภอแม่จัน เชียงราย ด้วยรถตู้อันเป็นฐานคะแนนเสียงและเป็นบ้านเกิดของ นายยงยุทธ ติยะไพรัช รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งปัจจุบันมีน้องสาวเป็น ส.ส.ในเขตดังกล่าว

ผู้จัดการรายวันสืบค้นถึงขั้นว่า การทำโครงการอบรมอาสาสมัครตำรวจบ้าน จังหวัดเชียงราย ซึ่งจัดอบรมที่ ค่าย ต.ช.ด.กิ่งทัพยั้ง อำเภอแม่จัน เชียงราย นั้นเป็นโครงการที่เสนอจาก พ.ต.อ.จรัญ วีรพัฒนานันต์ ผกก.สภอ.เมืองเชียงราย ซึ่งเป็นญาติสนิทในฐานะพี่เขยของนายยงยุทธ โดยได้แต่งงานกับ นางบุษรินทร์ ติยะไพรัช ส.ว. เชียงราย ขณะที่ พ.ต.อ. วันชัย สุวรรณศิริเขต ผกก.สภอ.แม่จันนั้น เป็นที่ทราบทั่วไปในเมืองเชียงรายว่า เป็นนายตำรวจที่ใกล้ชิดสนิทสนมกับนายยงยุทธ ติยะไพรัช เป็นพิเศษ

ส่วนผู้ต้องสงสัยที่ถูกจับกุมอีกรายที่ชื่อ นายเก่งกาจ ศรีหาสาร นั้น เป็น ข้าราชการระดับ ซี.8 สังกัดกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์และป้องกันทรัพยากร ซึ่งกำกับสำนักบริหารจัดการพื้นที่อนุรักษ์ ทั่วประเทศ มีเลขประจำตัดข้าราชการรหัส 1183 ที่ทำงานใกล้ชิดกับ นายดำรงค์ พิเดช อธิบดีกรมอุทยานฯ มาก

เส้นทางรับราชการของนายเก่งกาจเติบโตอย่างรวดเร็วหลังจากนายดำรง พิเดช มาดำรงตำแหน่งเป็นอธิบดีเมื่อ 1 ต.ค. 2548 ที่ผ่านมา ขึ้นมาเป็น ซี.8 ที่กำกับดูแลหน่วยงานสำคัญทั่วประเทศ ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้ อยู่ในขั้น ซี.7 เพียงแค่ไม่ถึงปีเท่านั้น

นายดำรงค์ พิเดช อธิบดีกรมอุทยานฯ เปิดเผยว่า นายยงยุทธ ติยะไพรัช รมว.ทรัพยากรฯ ไม่ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่จากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ไปก่อกวนรายการของนายสนธิ ลิ้มทองกุล และยืนยันว่า การที่เจ้าหน้าที่มารวมตัวกันนั้น เป็นการฝึกปฏิบัติการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ในการปฏิบัติงาน เน้นการป้องกันของหน่วยงาน พิทักษ์ป่าหน่วยเสือไฟ ซึ่งจำไม่ได้ว่ามีจำนวนเท่าไหร่ ไม่เกี่ยวข้องกับม็อบ และไม่ทราบว่าเอาอะไรไปเกี่ยวโยง

ขณะที่อีกเรื่องหนึ่งที่ยังคงได้รับการวิพากษ์ถึงบทบาทของนายอำเภอหางดง กรณีออกหนังสือราชการระดมคนไปสนับสนุนสวนสัตว์กลางคืนเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี

ข้อความที่ปรากฏในหนังสือราชการ กับการให้สัมภาษณ์ของนายประเสริฐ โอสถาพันธ์ นายอำเภอหางดง ที่ระบุว่าทางการข่าวทราบว่าจะมีกลุ่มผู้ไม่หวังดีเข้าพื้นที่ ซึ่งจะส่งผลทำลายเศรษฐกิจของชาวหางดงและโครงการที่ดีของรัฐบาลในฐานะที่ดูแลพื้นที่อยู่ จึงแจ้งให้ชาวบ้านไปรับฟังข้อมูล โดยยืนยันว่าไม่ได้รับคำสั่งจากกระทรวงฯ เกิดการตั้งคำถามถึงความเหมาะสมว่า หากเป็นการเชิญให้ชาวบ้านไปรับฟังข้อมูล ควรมาด้วยความสมัครใจ เหตุใดจึงต้องกำหนดจำนวนคน และได้ใช้งบประมาณส่วนใดในการดำเนินการ

ทัศนคติ แยกเขาแยกเรายังคงมีอยู่ ผู้มีความเห็นต่างจากรัฐ ถูกจัดเป็นพวกต่อต้านและไม่หวังดี แม้จะมีความพยายามนำธรรมาภิบาลมาเป็นตัวนำการบริหารงานของข้าราชการไทย แต่ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นยังคงแสดงให้เห็นว่าอีกยาวนานกว่าจะเปลี่ยนแปลงกรอบคิดนี้จากข้าราชการบางคน