Skip to main content
sharethis


 


 


การสร้าง "วาระคนจน" ในกระแสปฏิรูปการเมือง


 


แนวร่วมวาระคนจน มองว่าการปฏิรูปการเมืองเพื่อประโยชน์ของคนส่วนใหญ่ ที่เป็นกรรมาชีพ เกษตรกร และนิสิตนักศึกษา เป็นเรื่องเร่งด่วน บทสรุปจากประวัติศาสตร์ไทยในอดีต ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ 14 ตุลา หรือ พฤษภาทมิฬ หรือการร่างรัฐธรรมนูญ 2540 ชี้ให้เห็นว่าถ้าภาคประชาชนไม่ออกมาผลักดันจุดยืนอิสระ ที่แตกต่างจากนักการเมืองกลุ่มทุน หรือชนชั้นปกครอง การต่อสู้ของประชาชนจะถูกช่วงชิงโดยชนชั้นนำเสมอ ล่าสุดในขบวนการรัฐธรรมนูญธงสีเขียว ความอ่อนแอของภาคประชาชนในเรื่องจุดยื่น นำไปสู่การผูกขาดความคิดโดยนักวิชาการสาย"โครงสร้างหน้าที่"ที่เน้นผลประโยชน์ของกลุ่มทุนภายใต้ทฤษฎีเสรีนิยม


 


แนวร่วมวาระคนจน มองว่าการปฏิรูปการเมืองสำหรับคนส่วนใหญ่จะไม่เกิดขึ้นภายใต้รัฐบาลไทยรักไทยของนายกทักษิณ ดังนั้นเราเรียกร้องให้นายกทักษิณลาออก ถ้าจะเกิดการปฏิรูปการเมืองที่ให้ความสำคัญกับวาระคนจนรัฐบาลที่จะเอื้อกับการปฏิรูปดังกล่าวไม่ควรจะเป็นรัฐบาลที่สะท้อนอำนาจเผด็จการของชนชั้นนำ แต่น่าจะเป็นรัฐบาลที่มีผู้แทนแท้จริงจากส่วนต่างๆ ของสังคมไทย เช่น เกษตรกร นักสหภาพแรงงาน นักเคลื่อนไหวทางสังคม ผู้แทนชาวบ้าน และกลุ่มอื่นๆ ที่เป็นคนส่วนใหญ่ของสังคม แต่อย่างไรก็ตามเราจะหวังว่ารัฐบาลใดรัฐบาลหนึ่งจะมาปฏิรูปการเมืองให้พวกเราไม่ได้ การปฏิรูปการเมืองในวาระคนจนจะต้องมาจากการรวมตัวกันของภาคประชาชนที่อิสระจากอิทธิพลของรัฐและกลุ่มทุน ด้วยเหตุนี้เราจึงเสนอว่าควรจะมีการจัดวงคุย เพื่อประชุมแลกเปลี่ยนประเด็นรายละเอียดของการปฏิรูปการเมืองในวาระคนจน ตามส่วนต่างๆของภาคประชาชน เช่น ในขบวนการนักศึกษา ในสมัชชาคนจน และในขบวนการแรงงานเป็นต้น หลังจากที่มีการแลกเปลี่ยนกันอย่างละเอียดจะต้องมีการนัดประชุม สมัชชาประชาชน เพื่อเสนอวาระของคนจนอย่างชัดเจน


 


ข้อเสนอเบื้องต้นในการปฏิรูปการเมือง วาระคนจน



  1. การตรวจสอบรัฐบาลและการเพิ่มเสียงของขบวนการภาคประชาชนในกระบวนการทางการเมือง

ในรอบ9 ปีที่ผ่านมาที่มีการใช้รัฐธรรมนูญใหม่ เป็นที่ประจักษ์ว่าความคิดเรื่อง องค์กรอิสระ พรรคการเมืองฝ่ายค้าน วุฒิสภา "ที่เป็นกลาง" และสื่ออิสระ ล้มเหลวโดยสิ้นเชิง ความคิดกลไกแบบนี้ของนักวิชาการเสรีนิยมสาย"โครงสร้างหน้าที่" ไม่เคยให้ความสำคัญกับพลังของขบวนการเคลื่อนไหวทางสังคมเลย ทั้งๆ ที่พลังนี้เป็นสิ่งเดียวที่จะสร้างและจะปกป้องประชาธิปไตยได้ แนวร่วมวาระคนจน มองว่าต้องมีการขยายสิทธิในการรวมตัวกันของภาคประชาชนอย่างเป็นรูปธรรม ต้องมีการลดข้อจำกัดในการก่อตั้งสหภาพแรงงานในสถานที่ทำงาน ต้องมีการลดการจำกัดสิทธิในการตั้งพรรคการเมืองของภาคประชาชน ไม่ควรจะมีการจดทะเบียนสหภาพหรือพรรคการเมือง และเราต้องต่อสู้เพื่อสิทธิที่จะประท้วงอย่างเสรี


 


กฎหมายเลือกตั้งต้องมีการแก้ไข โดยยกเลิกการลงคะแนนเสียงตามทะเบียนบ้านและเปลี่ยนไปลงคะแนนเสียงในเขตที่ทำงาน ซึ่งสะท้อนลักษณะความเป็นจริงของการอยู่อาศัยของคนเมือง นอกจากนี้ต้องยกเลิกกฎหมายที่ระบุว่า สส. ต้องจบปริญญาตรีและ สส.ต้องสังกัดพรรคการเมือง


 


องค์กรอิสระอาจจะยกเลิกไป แต่ถ้าจะคงไว้ต้องประกอบไปด้วยผู้แทนของสาขาอาชีพต่างๆตามความเป็นจริงในสังคมไทย และต้องมีการเพิ่มกลไกการลงประชามิติ


 


ต้องมีการตั้งองค์กรสื่อสาธารณะ เพื่อเปิดพื้นที่สำหรับความคิดหลากหลายในสังคม รวมถึงความคิดของคนส่วนน้อยด้วย องค์กรสื่อสาธารณะควรจะบริหารโดยคณะกรรมการที่ประกอบไปด้วยผู้แทนของวิชาชีพต่างๆในสังคม ตามสัดส่วนแท้จริงของวิชาชีพที่มีอยู่ในประชากร และองค์กรสื่อสาธารณะจะต้องมีส่วนในการพัฒนามาตราฐานของสื่อและการสนับสนุนสื่อชุมชนที่อิสระจากการควบคุมโดยรัฐ



  1. ปัญหาความรุนแรงของรัฐ และแนวชาตินิยมคับแคบ รัฐไทยใช้ความรุนแรงและกรอบคิดชาตินิยมเพื่อปราบปรามคนที่คิดต่างมายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ 14 ตุลา 6 ตุลา พฤษภาทมิฬ สงครามปราบยาเสพติด ความรุนแรงที่ตากใบและกรือแซะ หรือการอุ้มฆ่าผู้นำชุมชนรวมถึงทนายสมชายด้วย กรอบความคิดชาตินิยมสุดขั้วของชนชั้นปกครองไทย เป็นกรอบคิดที่ไม่ยอมรับความหลากหลาย และพยายามสร้างความชอบธรรมในการสลายความต่าง แนวร่วมวาระคนจน เสนอว่าการปฏิรูปการเมือง ต้องเปิดพื้นที่สาธารณะเพื่อพัฒนาสิทธิของคนชายขอบ หรือคนที่มีมุมมองต่างจากกระแสหลัก เราต้องช่วงชิงความคิดจากกระแสชาตินิยม เพื่อสร้างเสรีภาพในสังคม ต้องมีการเคารพสิทธิในความเชื่อและวัฒนธรรม รวมถึงภาษา สังคมไทยควรจะให้ความเท่าเทียมในวันสำคัญของศาสนาอื่นนอกเหนือจากศาสนาพุทธ และภาษาไทยไม่ควรจะเป็นภาษาประจำชาติภาษาเดียว ในโรงเรียนต่างๆควรจะมีการสอนภาษาท้องถิ่นควบคู่กับภาษาไทย และไม่ควรจะมีการชี้นำทางศาสนาในโรงเรียน ศาสนาควรเป็นเรื่องส่วนตัว นอกจากนี้จะต้องมีการปฏิรูปการเรียนรู้เรื่องประวัติศาสตร์และที่มาในกระบวนการสร้างชาติ เพื่อสะท้อนความหลากหลายและความเป็นจริง

เพื่อลดความรุนแรงของภาครัฐและเพื่อพัฒนาฐานะความเป็นอยู่ของคนส่วนใหญ่ในสังคม จะต้องมีการลดงบประมาณกะลาโหมและสร้างความโปร่งใสในการใช้งบประมาณนี้ นอกจากนี้จะต้องมีกระบวนการสร้างจริยธรรม ในหมู่คนถืออาวุธและผู้ใช้อำนาจของฝ่ายรัฐ จะต้องมีการเพิ่มการมีส่วนร่วมของประชาชนในการควบคุมตำรวจและทหารอีกด้วย



  1. กลไกตลาดเสรี ในรูปแบบ FTA การแปรรูปรัฐวิสาหกิจ การนำมหาวิทยาลัยออกนอกระบบ และการเคารพสิทธิผูกขาดในการผลิตยาของบริษัทข้ามชาติ เป็นปัญหากับคนส่วนใหญ่ในสังคม เพราะสร้างความเหลื่อมล้ำ กีดกันคนจนจากการเข้าถึงบริการพื้นฐาน และสร้างผลประโยชน์มหาศาลให้คนกลุ่มน้อยที่เป็นนายทุน ดังนั้นประเด็นเรื่องกลไกตลาดเหล่านี้มากกว่าแค่การพูดคุยถึง "วิธีการในการแปรรูป" หรือ "ความโปร่งใสในการแปรรูป" หรือประเด็นเรื่องการ "ขายชาติ" มันลึกกว่านั้นเพราะต้นเหตุอยู่ที่ปัญหาปรัชญาเสรีนิยมแบบ "มือใครยาวสาวได้สาวเอา" นอกจากนี้กลไกตลาดเสรีและการเน้นกำไรเป็นสาเหตุสำคัญในการทำลายสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตของประชาชน

แนวร่วมวาระคนจน มองว่าต้องมีการแยกสาธารณูปโภค สวัสดิการสังคม การศึกษา และระบบสาธารณสุข ออกจากกลไกตลาดและอำนาจเงิน ต้องมีการเก็บภาษีก้าวหน้าจากคนรวยในอัตราสูงเป็นพิเศษ เพื่อพัฒนาการบริการสังคมอย่างทั่วถึง ต้องมีการเก็บภาษีทางตรงจากคนรวยเช่น ภาษีรายได้ ภาษีทรัพย์สิน ภาษีมรดก และภาษีที่ดินและต้องมีการยกเลิกภาษีทางอ้อม ที่เป็นภาระกับคนจนเช่น ภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีน้ำมัน ทั้งนี้เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตและลดความเหลื่อมล้ำในสังคม แต่ในขณะเดียวกันเราจะต้องมีการพัฒนาระบบการบริหารรัฐวิสาหกิจ โรงพยาบาล โรงเรียน และสวัสดิการ เพื่อเพิ่มความเป็นประชาธิปไตยในรูปธรรม มันหมายถึงการตั้งคณะบริหารที่ประกอบไปด้วยสามส่วนคือ คนจากชุมชนในท้องถิ่น รัฐบาลส่วนกลาง และสหภาพแรงงาน องค์กรเกษตรกร และขบวนการทางสังคมอื่นๆ แค่พูดถึงการจัดประชาพิจารณ์เกี่ยวกับนโยบายต่างๆไม่เพียงพอ ภาคประชาชนจะต้องมีส่วนในการบริหารองค์กรสาธารณะในทุกระดับอย่างจริง และไม่ใช่แค่เอาผู้แทนของภาคประชาชนมาเป็นไม้ประดับที่เป็นเสียงส่วนน้อยในคณะบริหารด้วย


 


การกอบโกยกำไรภายใต้แนวคิดเสรีนิยมทำลายวิถีชีวิต สิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตของประชาชน แนวร่วมวาระคนจน มองว่าควรจะมีการส่งเสริมพลังงานทางเลือก ระบบเกษตรทางเลือก และระบบขนส่งมวลชนที่มีคุณภาพ เราต้องเร่งพัฒนาระบบรถไฟระหว่างเมืองแทนการใช้ถนนหรือเครื่องบิน และต้องมีการพัฒนาการขนส่งสาธารณะเพื่อลดการใช้ยายยนต์ส่วนตัว ทั้งนี้เพื่อประหยัดพลังงานและพัฒนาสภาพแวดล้อม


 


แนวร่วมวาระคนจนมองว่าเรื่องแบบนี้ต้องมีการพูดคุยกันอย่างละเอียดและทั่วถึงในส่วนต่างๆของภาคประชาชน เราต้องเดินหน้าสู่การจัดสมัชชาประชาชน เพื่อติดอาวุธทางปัญญาให้กับพลเมือง และเพื่อเสนอการปฏิรูปการเมืองที่แท้จริง การพูดคุยถกเถียงในประเด็นสำคัญๆเหล่านี้จะต้องมีกรอบคิดสากลนิยมที่เรียนรู้ประสบการณ์จากภาคประชาชนในประเทศเพื่อบ้านและในทวีปอื่น ดังนั้น แนวร่วมวาระคนจน ขอชักชวนให้ภาคประชาชนไทยเข้ามามีส่วนในงานสมัชชาสังคมโลก World Social Forum ที่กรุงเทพฯ ในเดือนตุลาคม ปีนี้


 


แนวร่วมวาระคนจน 16 ก.พ. 2549


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net