ประชาไท—8 เม.ย. 2549 รัฐบาลออสเตรเลียประกาศจะทบทวนนโยบายให้วีซ่าต่อผู้ลี้ภัย  ภายหลังถูกอินโดนีเซียโวยไม่ปรึกษาก่อนตัดสินใจให้ลี้ภัยชาวปาปัว  42  คน  สร้างความแค้นเคืองแก่อินโดนีเซีย

นายกฯ จอห์น  โฮเวิร์ด  ของออสเตรเลียประกาศเมื่อวันที่  7  เม.ย.นี้ว่า  รัฐบาลได้เริ่มทบทวนนโยบายรับผู้ลี้ภัยเสียใหม่  ภายหลังกระทรวงคนเข้าเมืองได้ยอมรับผู้ลี้ภัยทางเรือ  42  คนจากจังหวัดปาปัวของอินโดนีเซียเป็นผู้ลี้ภัยในออสเตรเลียเมื่อเดือนที่แล้ว จนกลายเป็นความบาดหมางกับอินโดนีเซีย

ชาวอินโดนีเซียจากปาปัวกลุ่มนี้ล่องเรือที่มีป้ายเขียนข้อความกล่าวหาอินโดนีเซียสังหารหมู่ประชาชน ซึ่งรัฐบาลอินโดนีเซียปฏิเสธและว่ารัฐบาลออสเตรเลียควรจะสอบถามเพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงของคำกล่าวหาที่ว่านี้   แต่ออสเตรเลียกลับเลือกให้คนกลุ่มนี้ลี้ภัย   ซึ่งจาการ์ตามองว่าการยอมรับชาวปาปัวกลุ่มนี้ก็เท่ากับออสเตรเลียให้ความเชื่อถือต่อคำกล่าวหา  และเท่ากับเป็นการสนับสนุนให้ปาปัวเป็นเอกราชจากอินโดนีเซีย

อย่างไรก็ดี โฮเวิร์ดยังยืนยันว่า  การปรับเปลี่ยนทบทวนนโยบายของออสเตรเลียครั้งนี้ยังยึดถือปฏิบัติตามข้อผูกมัดตามกฎหมายระหว่างประเทศต่อไป   แต่รัฐบาลจะคำนึงถึงความสำคัญของความสัมพันธ์ระหว่างออสเตรเลียและอินโดนีเซียตามความเหมาะสม

โฮเวิร์ดยืนกรานว่า  ออสเตรเลียยังถือว่าปาปัวคือส่วนหนึ่งของอินโดนีเซียและว่า  หนทางที่ดีที่สุดในอนาคตข้างหน้าของปาปัวตะวันตกคือเป็นส่วนหนึ่งของอินโดนีเซียที่เจริญรุ่งเรืองขึ้น และเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น

การที่ออสเตรเลียให้วีซ่าแก่ผู้ขอลี้ภัย 42 รายซึ่งล่องเรือกรรเชียงพื้นเมืองมาขึ้นฝั่งทางตะวันออกเฉียงเหนือของออสเตรเลียเมื่อเดือนมกราคม   โดยหลายรายในนี้มีรายงานว่าเป็นแกนนำเคลื่อนไหวเรียกร้องเอกราช  ทำให้รัฐบาลอินโดนีเซียโกรธจัดจนเรียกทูตของตนกลับประเทศเมื่อ  2  สัปดาห์ก่อน  และทำให้ชาวอินโดนีเซียชุมนุมประท้วงที่หน้าสถานทูตออสเตรเลียในกรุงจาการ์ตา  และเรียกร้องให้คว่ำบาตรสินค้าออสเตรเลีย กระทรวงการต่างประเทศอินโดนีเซียกล่าวด้วยว่ารัฐบาลยังไม่มีแผนจะส่งทูตของตนกลับไปปฏิบัติหน้าที่ที่กรุงแคนเบอร์ราในตอนนี้

ยูริ  ธัมริน  โฆษกกระทรวงต่างประเทศอินโดนีเซีย  แถลงเมื่อวันศุกร์ว่า  รัฐบาลแคนเบอร์ราต้องทำมากกว่าแค่ยืนยันว่าสนับสนุนอธิปไตยเหนือดินแดนของอินโดนีเซีย

ด้านนายบ็อบ  บราวน์  หัวหน้าพรรคกรีน  กล่าวเตือนว่า  รัฐบาลอาจละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศหากขอคำปรึกษากับอินโดนีเซียเกี่ยวกับข้ออ้างที่พวกผู้ขอลี้ภัยกล่าวอ้าง

...................................................

ที่มา: http://www.thaipost.net