Skip to main content
sharethis


เมื่อเวลาประมาณ 09.00 น.  "กลุ่มคนรักอุดรฯ" โดยการนำของนายสมพงษ์ จันทร์งาม ประธานกลุ่ม นายขวัญชัย ไพรพนา โฆษกจัดรายการข่าวในสถานีวิทยุชุมชน FM 97.50 MHz นำกลุ่มประชาชนกว่า 200 คน เข้าปิดล้อมอาคารเฉลิมพระเกียรติของมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี สถานที่ที่มีการจัดเสวนาสมัชชาประชาธิปไตย โดยกลุ่มพันธมิตรฯ ณ ห้องประชุม 1 โดยเรียกร้องให้ยกเลิกการจัดเวทีเสวนาที่มี นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ และนายสุริยะใส กตะศิลา แกนนำพันธมิตรฯ เป็นวิทยากร ทำให้ พ.ต.อ.สิทธิพร โนนจุ้ย ผกก.สภ.อ.เมืองอุดรธานี พ.ต.ต.อัครศร ศรีสุพันธ์ สวป.สภ.อ.เมืองอุดรฯ พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในและนอกเครื่องแบบกว่าต้องนำกำลังกว่า 50 นายเข้าตรึงกำลังพื้นที่รอบตัวอาคาร


 


หลังจากเวทีเสวนาได้เริ่มไปได้ประมาณ 10 นาที กลุ่มคนรักอุดรฯ ได้บุกเข้ามาภายในตัวอาคารเฉลิมพระเกียรติและพยายามที่จะขึ้นไปยังห้องประชุม ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายที่ตึกกำลังอยู่ในอาคารต้องเข้าควบคุมเหตุการณ์ไว้ และทำให้ทางกลุ่มพันธมิตรฯ ต้องตัดสินใจยุติการเสวนาลง


 


ขณะที่คณะผู้จัดจะพานายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ และนายสุริยะใส กตะศิลา ออกจากห้องเพื่อเดินทางกลับ  ได้มีกลุ่มชาวบ้านที่มากับกลุ่มคนรักอุดรฯ หลายสิบคนบุกเข้ามาทำร้าย พร้อมทั้งโยนขวดน้ำ รองเท้าใส่แกนนำทั้งสอง ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องรีบพาตัวกลับยังห้องประชุม


 


ด้านนายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานเครือข่ายพันธมิตรฯ ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับ ASTV ว่า ขณะนี้สถานการณ์ยังตึงเครียด ตนและผู้เข้าร่วมเสวนาจำนวนหนึ่งรวมทั้งนายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ ยังคงถูกปิดล้อมอยู่ภายในห้องประชุม โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้กำกับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานีมาอยู่ด้วยเพื่อดูแลความปลอดภัย


 


"คนที่นำชาวบ้านมาปิดล้อมงานเสวนาครั้งนี้ ไม่ใช่นายขวัญชัย ไพรพนา นักจัดรายการวิทยุท้องถิ่นอุดรฯ เพียงคนเดียว แต่ยังมี ส.ส.พรรคไทยรักไทย อีก 2 คน คือ นพ.วิชัย ชัยจิตวณิชกุล และนายธีระชัย แสนแก้ว ที่เป็นคนนำชาวบ้านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ นพ.วิชัย ขึ้นเวทีปราศรัยปลุกระดมยั่วยุให้เกิดการตะลุมบอนประทุษร้ายกันในตอนเช้า หลังจากนั้นฝูงชนก็กรูกันเข้ามาล้อมห้องประชุมด้วยอารมณ์โกรธ"


 


นายสุริยะใส กล่าวด้วยว่า ระหว่างการกรูเข้ามาล้อมห้องประชุมนั้น มีการขว้างปาขวด ก้อนหิน ทำให้หลายคนได้รับบาดเจ็บ ตนโดนก้อนหินปา 2 ก้อน ขณะที่มีผู้บาดเจ็บบางคนถูกส่งตัวไปโรงพยาบาล"


 


เช่นเดียวกับนายไชยวัฒน์ ที่เล่าถึงสถานการณ์นี้ว่า ผู้ว่าฯอุดรฯ ได้เจรจากับ น.พ.วิชัย ตั้งแต่เช้า และ นพ.วิชัย ได้บอกผ่านผู้ว่าฯมาว่า ให้ตนและนายสุริยะใส เดินทางกลับกรุงเทพฯก่อน โดยผู้ว่าฯจะพาเดินผ่านแถวของกลุ่มผู้ชุมนุมฯ ไปจนถึงประตูรถ ซึ่งตนไม่มั่นใจในความปลอดภัย เพราะถ้าใครขว้างปาอะไรมาก็จับมือใครดมไม่ได้ และผู้ว่าฯเองก็อาจได้รับอันตรายด้วย แม้แต่ขณะที่ผู้ว่าฯ กำลังเจรจาอยู่ก็ยังมีคนเตะประตูโครมๆ อ้างว่ารอนานไม่ได้ จนผู้ว่าฯต้องเงียบไป จึงต้องยืนยันว่า จะไม่ออกไปเด็ดขาด หากไม่สลายการชุมนุม


 


หลังการปิดล้อมผ่านไปเกือบ 6 ชั่วโมง นายไชยวัฒน์ เปิดเผยเพิ่มเติมว่า น.พ.วิชัย ชัยจิตวณิชกุล และ นายธีระชัย แสนแก้ว ยังคงนำชาวบ้านชุมนุมปิดล้อมกลุ่มพันธมิตรอยู่ โดยทั้งสองได้ขึ้นเวทีกล่าวปราศรัยโจมตีพันธมิตรฯ ตลอดเวลา ขณะที่ตนและนายสุริยะใสและผู้เข้าร่วมเสวนาจำนวนหนึ่งยังถูกล้อมอยู่บนชั้น 2 ของอาคาร ถือเป็นการถูกกักขังหน่วงเหนี่ยว และก่อนหน้านี้ นายวิชัย ยังได้พาชาวบ้านมาทุบประตูห้อง ขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัด และ ผู้การจังหวัดยังอยู่ในห้องประชุมด้วย


 


"ก่อนชาวบ้านจะเข้าปิดล้อมห้องประชุมนั้น น.พ.วิชัย ได้ปราศรัยบอกให้ชาวบ้าน ให้บทเรียนตนกับนายสุริยะใส ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะให้บทเรียนอะไร" นายชัยวัฒน์กล่าว


 


ด้านพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แถลงข่าวรับมือกับสถานการณ์ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา กรุงเทพฯ ในเวลาประมาณ 16.00 น. โดยนายพิภพ ธงไชย 1 ใน 5 แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวว่า พันธมิตรฯขอประณามการกระทำของกลุ่มบุคคลที่เรียกว่า "กลุ่มคนรักอุดร" ซึ่งเข้าข่ายซ่องโจร กักขังหน่วงเหนี่ยว และขอเรียกให้รักษาการนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ดำเนินการสอบสวนเรื่องนี้เป็นการด่วน เนื่องจากมี ส.ส.พรรคไทยรักไทยอยู่เบื้องหลังการชุมนุมครั้งนี้ 2 คน คือ นพ.วิชัย ชัยจิตวณิชกุล และนายธีวระชัย แสนแก้ว ว่าที่ ส.ส.อุดรธานี ซึ่งเป็นการจัดตั้งชาวบ้านมาชุมนุมและขึ้นเวทีปราศรัยยั่วยุให้ประชาชนเข้ามาทำร้ายพันธมิตร


 


เครือข่ายพันธมิตรฯ ยืนยันว่า การจัดเสวนาที่ ม.ราชภัฏดังกล่าว เป็นการจัดกิจกรรมวิชาการเพื่อให้ข่าวสารความรู้กับประชาชน โดยมีตัวแทนพันธมิตรที่เข้าร่วมอภิปรายคือ นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ และนายสุริยะใส กตะศิลา การที่มีผู้มาชุมนุมก่อกวนและทำลายการจัดเสวนา จึงถือว่าเป็นการขัดขวางการรับรู้ข้อมูลข่าวสารของประชาชน ปิดกั้นสิทธิขั้นพื้นฐานของการแสดงความคิดเห็นทางการเมือง


 


"ครั้งนี้เป็นการพิสูจน์อย่างชัดเจนว่า การปิดกั้นสิทธิขั้นพื้นฐานในการแสดงความคิดเห็นทางการเมืองนั้นยังปรากฏอยู่ เพราะฉะนั้นเราเชื่อมั่นว่า ถ้าพี่น้องชาวอีสานสามารถจะรับฟังข้อมูลทั้งสองด้าน จะสามารถตัดสินใจทางการเมืองถูกต้องได้ เพราะฉะนั้นพรรคไทยรักไทยจะต้องตั้งคำถามกับตัวเองว่า การที่ได้มา 16 ล้านเสียงนั้น เป็นการได้มาโดยที่ประชาชนสามารถรับฟังข้อมูลข่าวสารทั้งสองด้านจริงหรือไม่


 


นอกจากนี้ การหน่วงเหนี่ยวกักขัง และการทำร้ายร่างกาย รัฐบาลมีหน้าที่ที่จะต้องดูแลไม่ให้เกิดขึ้น แต่รัฐบาลชุดนี้กลับปล่อยให้มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นหลายครั้ง ดังที่เคยคุกคามสื่อที่นำเสนอข้อมูลอีกด้านหนึ่งอยู่เสมอ เช่น กรณีหนังสือพิมพ์คม ชัด ลึก กรณีหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ กรณีการหาเสียงของพรรคประชาธิปัตย์ที่ จ.เชียงใหม่ ที่จะไปให้ข้อมูลอีกด้านหนึ่ง"


 


พันธมิตรยังเรียกร้องให้หัวหน้าพรรคไทยรักไทยต้องรับผิดชอบดำเนินการกับสมาชิกพรรค เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ปรากฏชัดเจนว่า เป็นการปลุกระดมประชาชนชาวอุดรธานี นำโดย ส.ส.ไทยรักไทย คือคุณหมอวิชัย ชัยจิตวณิชกุล และคุณธีระชัย แสนแก้ว และขอให้นายกรัฐมนตรี และรองนายกรัฐมนตรีที่รักษาการนายกรัฐมนตรี พร้อมทั้งพรรคไทยรักไทย แถลงจุดยืนทางการเมือง ว่าพรรคไทยรักไทยและรัฐบาลไม่มีนโยบายที่จะปิดกั้นสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชนอย่างชัดเจน


 


ทั้งนี้แกนนำพันธมิตรยังได้เรียกร้องให้ น.พ.วิชัย และนายธีระชัย พูดคุยกับกลุ่มผู้ชุมนุม เพื่อให้สลายตัวในทันที


 


อย่างไรก็ตาม จนถึงเวลา 18.00 น. "กลุ่มคนรักอุดร" ราว 300 คนที่ปิดล้อม 2 แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่เดินทางทางมาร่วมเสวนาตั้งแต่ช่วงเช้าได้ยอมสลายตัว โดยส่วนใหญ่ขึ้นรถสองแถวจำนวน 20 คัน ที่มาจอดอยู่ตั้งเช้ากลับไป โดยก่อนหน้าการสลายตัว นายสมพงษ์ จันทร์งาม ประธานกลุ่มคนรักอุดรฯ นายขวัญชัย ไพลพนา โฆษกจัดรายการข่าวในสถานีวิทยุชุมชน FM 97.50 MHz อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้ชุมนุมก็ยังไม่มีท่าทีจะยุติ โดย นายขวัญชัย ไพลพนา ได้กล่าวกับผู้ชุมนุมว่า วันนี้ถือว่า ภารกิจของกลุ่มคนรักอุดรฯ ได้รับชัยชนะ เพราะกลุ่มพันธมิตรฯไม่สามารถเปิดเวทีได้ ขอขอบคุณประชาชนกลุ่มคนรักอุดรฯทั้งหมด ที่มาแสดงพลัง ในระบอบประชาธิปไตย คัดค้านการเปิดเวทีของกลุ่มพันธมิตรฯ  และขอเรียกร้องจังหวัดอื่นๆ ทั่วประเทศ นำการชุมนุมวันนี้ไปเป็นแบบอย่าง โดยที่ไหนพันธมิตรฯ มีการเปิดเวที ก็ให้รวมตัวกันออกมาขับไล่ ไม่ให้จัดเวทีได้สำเร็จ


 


หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้นำนายสุริยะใส กตะศิลา และนายชัยวัฒน์ สินสุวงศ์ เดินทางออกจากอาคารเฉลิมพระเกียรติ โดยขึ้นรถของตำรวจที่จัดไว้ มุ่งหน้าไปท่าอากาศยานอุดรธานี โดยมีแกนนำของเครือข่าย จ.อุดรธานี และอีสานตอนบน ตามไปส่งที่สนามบิน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net