เลขาธิการสำนักพระราชวังเนปาลได้แถลงเมื่อวันที่ 27 เม.ย. ที่ผ่านมาว่า  กษัตริย์กิยาเนนทรา แห่งราชอาณาจักรเนปาล มีพระราชโองการแต่งตั้ง กีรีญา ปราซัด คอยราลา ประธานพรรคแกนนำฝ่ายค้านวัย 84 ปี เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ตามคำแนะนำของ 7 พรรคร่วมผ่ายค้านแล้ว

ขณะที่ทางกลุ่มกบฏเหมาอิสต์ประกาศหยุดยิงเป็นเวลาสามเดือน โดยนายประจันทรา ผู้นำกลุ่มกบฏเหมาอิสต์ในเนปาล แถลงว่า กองทัพปลดแอกประชาชนของทางกลุ่มจะหยุดการโจมตีฝ่ายเดียวเป็นเวลา 3 เดือน นับจากวันพฤหัสบดี (27 เม.ย.) เป็นต้นไป แต่ยังคงเตรียมพร้อมรับมือหากเกิดการโจมตีจากฝ่ายตรงข้าม ทั้งนี้ เพื่อแสดงความเคารพในประชาธิปไตย ตลอดจนความสงบสุขในบ้านเมืองที่กลับคืนมาอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม นายประจันทราขู่ว่า หากการประชุมรัฐสภาครั้งแรกในรอบ 4 ปี ที่มีขึ้นในวันศุกร์ ปราศจากมติจัดตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญอย่างไม่มีเงื่อนไข กลุ่มกบฏจะกลับมาปิดล้อมเมืองหลวงอีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้ข้อเรียกร้องของฝ่ายกบฏให้จัดตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญอย่างไม่มีเงื่อนไขนี้ ถูกตีความว่าเพื่อให้สภาแห่งนี้นำไปสู่การมีรัฐธรรมนูญใหม่ที่ถอดถอนกษัตริย์ และเปลี่ยนประเทศเป็นสาธารณรัฐ ซึ่งกษัตริย์กิยาเนนทราอาจใช้อำนาจศาลฎีกาที่บรรดาผู้พิพากษาได้รับการแต่งตั้งจากพระองค์มาสกัดกั้นความพยายามครั้งนี้

ก่อนหน้านี้กบฏเหมาอิสต์ได้เตือนพันธมิตร 7 พรรคการเมืองว่า การยอมรับข้อเสนอของกษัตริย์กิยาเนนทรา เป็นการทรยศต่อข้อตกลงระหว่างฝ่ายกบฏ และพรรคการเมืองที่ทำเอาไว้ก่อนหน้านี้ ซึ่งต่างต้องการให้มีการเขียนรัฐธรรมนูญใหม่เพื่อจำกัดบทบาทของราชวงศ์ หรือยุบราชวงศ์ทิ้ง

ด้าน มัดฮัฟ คูมาร์ เนปาล แกนนำพรรคคอมมิวนิสต์เนปาลซึ่งเป็นหนึ่งในพันธมิตรทางการเมือง 7 พรรค ได้ขานรับการประกาศหยุดยิงครั้งนี้ โดยถือเป็นนิมิตหมายอันดีที่แสดงให้เห็นว่ากลุ่มกบฏต้องการเป็นผู้กระตุ้นให้เกิดสันติภาพในเนปาล นอกจากนี้ เขายังเรียกร้องให้รัฐบาลชุดใหม่ประกาศหยุดยิงเช่นกัน พร้อมกับปล่อยตัวนักโทษกลุ่มเหมาอิสต์ ยกเลิกหมายจับระหว่างประเทศของแกนนำกลุ่มกบฏ รวมทั้งเชิญแกนนำดังกล่าวมาพบปะพูดคุยกัน