Skip to main content
sharethis

ภาคใต้ - ตำรวจระบุทันควัน "ไฟซอล-อินโด" ตัวการบึ้มหาดใหญ่ เศรษฐกิจหาดใหญ่ส่อเค้าป่วน ธุรกิจท่องเที่ยวสะเทือนหนัก นักท่องเที่ยวมาเลย์เผ่นกลับประเทศ โทรศัพท์คืนห้องพักโรงแรม ยกเลิกโปรแกรมทัวร์อุตลุต 


 


ตร.ระบุ "ไฟซอล-อินโด" บงการบึ้มหาดใหญ่


รายงานข่าวจากกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 แจ้งว่า จากการสืบสวนเบื้องต้นพบว่า นายไฟซอล อิสมาเอ และนายอินโด โกเบ เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการลอบวางระเบิดเมืองหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา 5 จุด เมื่อคืนวันที่ 16 กันยายน 2549 บุคคลทั้ง 2 เคยเข้ามาก่อเหตุลอบวางระเบิดสนามบินหาดใหญ่ ห้างสรรพสินค้าคาร์ฟู  อำเภอหาดใหญ่ และโรงแรมกรีนเวิลด์พาเลซ อำเภอเมืองสงขลา เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2548


 


หลังจากก่อวินาศกรรมเมืองหาดใหญ่แล้ว เป้าหมายต่อไป คือ หมู่บ้านไทยจังโหลน หรือบ้านด่านนอก อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวติดพรมแดนไทย - มาเลเซีย ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวของชาวมาเลเซีย โดยขณะนี้ พนักงานสอบสวนได้นำพยานที่เห็นเหตุการณ์ 3 ปาก ไปสอบปากคำเพื่อสเกตช์ภาพคนร้ายแล้ว


 


สรุปเหตุการณ์บึ้มหาดใหญ่


ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า และศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจภาค 9 ได้สรุปสถานการณ์ลอบวางระเบิดในอำเภอหาดใหญ่ว่า มีทั้งสิ้น 5 จุด ประกอบด้วย ศูนย์การค้าบิ๊กซี ถนนลพบุรีราเมศวร์ ตำบลคลองแห อำเภอหาดใหญ่ 1 จุด, ศูนย์การค้าโอเดียน 2 จุด, 3. ศูนย์การค้าไดอาน่า 1 จุด, ศูนย์การค้าลีการ์เด้นส์พลาซ่า 1 จุด


 


ทั้งนี้ ศูนย์การค้าโอเดียนมีผู้เสียชีวิต 4 คน และได้รับบาดเจ็บ 59 คน แยกย้ายกันไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์, โรงพยาบาลหาดใหญ่, โรงพยาบาลราษฎร์ยินดี, โรงพยาบาลศิขรินทร์


 


สำหรับผู้เสียชีวิต ประกอบด้วย นายเจสซี ลี แตเนียล ชาวแคนาดา น.ส.จรณินทร์ สีพรม ทั้ง 2 เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ, น.ส.นิชาภา เสหมี อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 234 หมู่ 13 ตำบลป่าเป๋ อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ เสียชีวิตที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์, นายธวัช เลาะหะตานนท์ เสียชีวิตที่โรงพยาบาลศิขรินทร์


 


ขณะเดียวกัน นายผดุงศักดิ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ได้สั่งการให้นายจำแลง คงตุก สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดสงขลา ตรวจสอบรายละเอียดสถานภาพ ผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ ที่เป็นลูกจ้างผู้ประกันตน เพื่อประสานการเบิกจ่ายเงินทดแทนในขอบข่ายที่เกี่ยวข้องกับสำนักงานประกันสังคมจังหวัดสงขลา


 


นักท่องเที่ยวมาเลย์เผ่น


พ.ต.ท.(หญิง)อัสมา เส็นดากัน รองผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองสะเดา กองตรวจคนเข้าเมือง 3 สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ทันทีที่เกิดเหตุการณ์ลอบวางระเบิดกลางเมืองหาดใหญ่ บรรดานักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย รีบเดินทางกลับประเทศในคืนวันเดียวกันทันที แต่ละคนพยายามมาถึงชายแดนให้ทันเวลาปิดด่านในเวลา 23.30 น. เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวที่เพิ่งเดินทางเข้ามาถึงด่านสะเดา ซึ่งส่วนใหญ่มากันเป็นครอบครัว ก็ตัดสินใจเดินทางกลับเช่นกัน เช่นเดียวกับช่วงเช้าวันที่ 17 กันยายน 2549 บรรดานักท่องเที่ยวมาเลเซียต่างเดินทางกลับกันเป็นจำนวนมาก


 


ททท.เชื่อกระทบท่องเที่ยว


นางพรศิริ มโนหาญ รองผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เหตุลอบวางระเบิดครั้งนี้ สร้างความเสียหายและกระทบด้านการท่องเที่ยวมาก เนื่องจากหาดใหญ่เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่ มีนักท่องเที่ยวมาเลเซียเป็นนักท่องเที่ยวหลักปีละกว่า 1.3 ล้านคน จากการตรวจสอบล่าสุด นักท่องเที่ยวมาเลเซียทยอยเดินทางกลับประเทศหมดแล้ว เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นเรื่องสุดวิสัย เพราะทุกฝ่ายดูแลความปลอดภัยเต็มที่แล้ว หลังจากนี้คงต้องเพิ่มมาตรการให้เข้มข้นขึ้น เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยว


 


นายสมพร ใช้บางยาง ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า หลังจากนี้จะร่วมกับองค์กรการท่องเที่ยว ทั้งภาครัฐและเอกชน จัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวให้กลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด ต้องยอมรับว่าเหตุระเบิดที่เกิดขึ้น ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของจังหวัดสงขลาอย่างแน่นอน ส่วนมาตรการรักษาความปลอดภัย ทางพล.ต.ท.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจภาค 9 เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปแล้ว โดยให้ฝ่ายปกครองเข้ามาเสริมกำลังตำรวจ ในการรักษาความสงบ


 


นายสมชาติ พิมพ์ธนะพูนพร นายกสมาคมโรงแรมหาดใหญ่ - สงขลา เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2549 ทางจังหวัดสงขลา ได้เชิญผู้ประกอบการ ห้างร้านใหญ่ๆ ห้างสรรพสินค้า สถานบันเทิง โรงแรม ร่วมประชุมกำหนดมาตรการป้องกันเหตุร้าย แต่ก็มาเกิดเหตุจนได้ เจ้าหน้าที่ทำงานป้องกันเต็มที่ แต่ไม่รู้ว่าคนร้ายจะก่อเหตุที่ไหนเมื่อไร เมื่อเจ้าของสถานประกอบการดูแลภายในสถานประกอบการเต็มที่ กลุ่มผู้ก่อกวนก็มาก่อเหตุใกล้สถานประกอการแทน


 


นายสมชาติ กล่าวต่อไปว่า หากประเมินระยะยาว สภาพธุรกิจท่องเที่ยวหาดใหญ่คงทรุดลงต่อเนื่อง และหนักกว่าเมื่อครั้งลอบวางระเบิดที่คาร์ฟูร์ และสนามบิน เมื่อเดือนเมษายน 2549 ตนประเมินว่าการลอบวางระเบิดในย่านกลางเมือง แหล่งท่องเที่ยวของชาวมาเลเซียครั้งนี้ ต้องการทำลายภาคธุรกิจในพื้นที่ เพราะหาดใหญ่เป็นเมืองธุรกิจหลักของภาคใต้


 


"ตลอดวันที่ 17 กันยายน 2549 นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย ทยอยคืนห้องพักกว่าร้อยละ 60 - 70 หรือกว่า 7,000 คนแล้ว นับเป็นการคืนห้องพักที่มีจำนวนมากว่าปกติ คงต้องรอดูวันที่ 18 กันยายน 2549 ซึ่งเป็นวันทำงานว่า มีนักท่องเที่ยวมาเลเซียขอยกเลิกห้องพัก ช่วงวันที่ 21 - 25 ตุลาคม 2546 ซึ่งเป็นวันพาวาลีและช่วงเทศกาลฮารีรายออีกเท่าไหร่ ก่อนหน้านี้ มีการจองห้องพักในช่วงนี้มาแล้วกว่าร้อยละ 80 - 90 ของห้องพักที่มีอยู่ทั้งหมด ขณะนี้เริ่มมีนักท่องเที่ยวแจ้งให้บริษัทนำเที่ยวยกเลิกห้องพักบ้างแล้ว


 


"หากยกเลิกจำนวนมาก จะกระทบกับธุรกิจท่องเที่ยวและธุรกิจอื่น ไม่ว่าห้างสรรพสินค้า ร้านค้าปลีก รวมไปถึงรถโดยสาร รถตุ๊กๆ เพราะการจองห้องพักจะเป็นตัววัดว่ามีจำนวนนักท่องเที่ยวเท่าไหร่" นายสมชาติกล่าว


 


นายสมชาติ กล่าวว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรง เนื่องจากเกิดขึ้นต่อหน้านักท่องเที่ยวที่มาพักกว่า 6,000 คน ทุกคนเห็นและรับรู้เหตุการณ์ทั้งหมด ต่างกับที่ครั้งที่ผ่านมา ที่จะรับทราบเหตุการณ์เท่านั้น แต่ไม่เห็นต่อหน้าว่ามีคนตายหรือมีความเสียหายอย่างไร อีกส่วนหนึ่งที่จะส่งผลกระทบไม่ให้นักท่องเที่ยวมาเลเซียเข้ามา คือ การประโคมข่าวของสื่อมวลชนมาเลเซีย


 


นายสมชาติ กล่าวว่า ตนคิดว่าผลกระทบทางด้านการท่องเที่ยวในจังหวัดสงขลาจะหนักที่สุด ในส่วนอื่นของภาคใต้ ไม่ว่าจะเป็นภูเก็ต เกาะสมุย คงไม่กระทบ จะกระทบบ้างก็ในส่วนนักท่องเที่ยวที่เดินทางผ่านอำเภอหาดใหญ่ต่อไปจังหวัดอื่น ในช่วงเดือนตุลาคม - ธันวาคม ซึ่งเป็นช่วงไฮ ซีซั่น เนื่องจากเป็นช่วงเทศกาลเข้าพรรษา ต่อด้วยช่วงปิดเทอมยาวของมาเลเซีย และเทศกาลกินเจที่จังหวัดตรัง นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้จะเดินทางไปถึงภูเก็ต


 


นายสมชาติกล่าวว่า หลังจากนี้ บริษัทนำเที่ยวทั้งหลายก็อาจจะต้องปรับโปแกรมการท่องเที่ยว โดยอาจจะให้นักท่องเที่ยวพักในอำเภอหาดใหญ่ก่อน แล้วค่อยเดินทางต่อ ส่วนขากลับอาจจะกลับมาพักอีก 2 คืน แทนที่จะอยู่หลายคืนเหมือนที่ผ่านมา สำหรับการเดินทางมาเที่ยวหาดใหญ่ ราคาถูกกว่าไปส่วนอื่นของประเทศ เพราะบริษัทนำเที่ยวจะใช้รถบัสของมาเลเซีย เติมน้ำมันในมาเลเซีย ซึ่งราคาถูกว่าของไทย ทำให้ค่าใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวลดลง


 


ผู้ประกอบการช็อคนัดถกฟื้นธุรกิจ


นายนิมิตร ชัยจีระธิกุล นายกสมาคมสมาพันธ์ธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า ในสัปดาห์หน้า จะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวทั้งหมดมาหารือร่วมกัน เพราะเหตุระเบิดครั้งนี้ กระทบธุรกิจการท่องเที่ยวแน่นอน หลังเกิดเหตุนักท่องเที่ยวมาเลเซียโทรศัพท์ยกเลิกโปรแกรมท่องเที่ยวในจังหวัดสงขลาจำนวนหนึ่ง


 


นายนิมิตร เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถประเมินผลกระทบที่เกิดขึ้นได้ คาดว่าจะต้องใช้เวลาอีก 10 - 20 วัน จึงจะประเมินได้ เพราะผู้ประกอบการยังอยู่ในอาการช็อค มีคนสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนตอบไปว่า ทุกอย่างกลับเข้าสู่สภาวะปกติ นักท่องเที่ยวคงจะหายไปช่วงหนึ่ง แล้วค่อยกลับมาอีกครั้ง สำหรับมาตรการรักษาความปลอดภัยนักท่องเที่ยว เป็นเรื่องของภาครัฐ


 


นายนิมิตร เปิดเผยด้วยว่า นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เมื่อเดือนมกราคม 2547 เป็นต้นมา ได้ส่งผลกระทบกับธุรกิจการท่องเที่ยวในจังหวัดสงขลามาตลอด มีผู้ประกอบการโรงแรม 2 - 3 ราย ต้องขายกิจการไปในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ทั้งหมดเป็นผู้ประกอบการที่กู้เงินจากธนาคาร เมื่อได้รับผลกระทบจึงขายกิจการ หรือปล่อยให้ธนาคารยึดไป ส่วนรายอื่นก็พยายามปรับปรุงโรงแรมเพื่อดึงลูกค้า


 


ตำรวจปะทะกลุ่มป่วนใต้


เวลา 00.20 น. วันที่ 17 กันยายน 2549 บนถนนสายโรงเรียนตำรวจภูธร 9 ทางตำรวจได้ไล่ล่ากลุ่มคนร้ายประมาณ 10 คน พร้อมอาวุธปืนในรถตู้สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน กลุ่มคนร้ายขับรถยนต์หลบหนีไปตามถนนสาย 15 ในเขตอำเภอเมืองยะลา และหลุดรอดจากการติดตามของเจ้าหน้าที่ได้สำเร็จ


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net