Skip to main content
sharethis

จดหมายเปิดผนึก


 


เรื่อง สิทธิและเสรีภาพในการรายงานข่าวทางสื่อวิทยุและโทรทัศน์


         


การเข้ายึดอำนาจการปกครองแผ่นดินของคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขเมื่อวันที่ 19 กันยายนที่ผ่านมา โดยแสดงจุดยืนว่าเป็นการกระทำเพื่อสนับสนุนระบอบประชาธิปไตยและคลี่คลายวิกฤติการณ์ทางการเมือง ถึงแม้จะไม่มีความรุนแรงจนถึงขั้นสูญเสียเลือดเนื้อแต่การยกเลิกรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2540 ก็ทำให้เกิดประเด็นที่หลายฝ่ายวิตกกังวลและห่วงใย โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองและรับรองสิทธิเสรีภาพในการปฏิบัติหน้าที่ของสื่อมวลชน


         


สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทยและสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ในฐานะองค์กรวิชาชีพ จึงมีข้อเสนอแนะและข้อเรียกร้องต่อคณะปฏิรูปการปกครองฯ และเพื่อนร่วมวิชาชีพสื่อสารมวลชนดังต่อไปนี้


         


1. ในระยะเร่งด่วน คณะปฏิรูปฯ ควรประกาศเจตนารมณ์ที่ชัดเจนว่าจะสนับสนุนและไม่ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของสื่อมวลชนทุกแขนง พร้อมทั้งให้เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและนำเสนอข่าวสารข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างตรงไปตรงมา ถูกต้องครบถ้วนและรอบด้าน ซึ่งการแสดงจุดยืนดังกล่าวจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนโดยรวมและได้รับการยอมรับในสายตาของนานาชาติที่กำลังจับตามองความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่เกิดขึ้นในประเทศไทยในขณะนี้


         


2.การร่างธรรมนูญการปกครองชั่วคราวเพื่อบังคับใช้ระหว่างที่ยังไม่มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ควรมีบทบัญญัติที่จะให้การคุ้มครองและรับรองเสรีภาพในการแสดงความเห็นของประชาชนและสื่อมวลชน โดยให้มีเนื้อหาที่สอดคล้องกับบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2540 โดยเฉพาะในมาตรา 39 และ 41 พร้อมทั้งเร่งผลักดันให้เกิดรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่มีสาระสำคัญครอบคลุมหลักการดังกล่าวด้วยเช่นกัน ตลอดจนเร่งผลักดันให้กระบวนการปฏิรูปสื่อวิทยุกระจายเสียงและโทรทัศน์เกิดขึ้นโดยเร็ว


         


3.ระหว่างที่สถานการณ์ทางเมืองยังไม่กลับเข้าสู่ภาวะปกติ ขอให้คณะปฏิรูปการปกครองฯ ได้ยึดมั่นหลักการสำคัญที่สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญฯ พ.ศ.2540 ในมาตรา 40 ที่ระบุว่า "คลื่นความถี่ที่ใช้ในการส่งวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์และวิทยุโทรคมนาคม เป็นทรัพยากรสื่อสารของชาติเพื่อประโยชน์สาธารณะ" โดยไม่ควรปล่อยให้มีการฉวยโอกาสกระทำการใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับสัญญาสัมปทานคลี่นความถี่วิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ จนกว่าจะมีกลไกสร้างการมีส่วนร่วมของภาคส่วนต่างๆ อย่างแท้จริง


        


4. ผู้ประกอบวิชาชีพสื่อสารมวลชนทุกคนตระหนักดีว่า จะต้องทำหน้าที่เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและส่วนรวมเป็นสำคัญ แต่ในสถานการณ์ที่อ่อนไหวมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่สื่อทุกแขนง ต้องใช้วิจารณญาณอย่างสูงในการปฏิบัติงาน เพื่อจะไม่ตกเป็นเครื่องมือของฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด ตลอดจนทำงานด้วยความรับผิดชอบและยึดมั่นหลักจริยธรรมแห่งวิชาชีพ โดยเคร่งครัด


         


สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย


สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย


21 กันยายน 2549

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net