Skip to main content
sharethis

ประชาไท - วานนี้ (14 พ.ย.2549) คณะผู้บริหารสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย นำคณะผู้บริหารจากสมาคมนักข่าวสาธารณะรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เข้าเยี่ยมคารวะนายธีรภัทร เสรีรังสรรค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในโอกาสที่ทั้ง 2 สมาคมข่าวมีความสัมพันธ์กันมาเป็นเวลากว่า 20 ปี และกำลังจัดทำคู่มือสื่อลาว-ไทย ร่วมกัน


 


นายธีรภัทร กล่าวถึงแนวทางการพัฒนาวงการสื่อมวลชนของไทยที่รัฐบาลจะจัดทำเป็นรูปธรรม 2 ประการ คือ 1. รัฐบาลจะจัดทำแผนแม่บทว่าด้วยในการใช้ทรัพยากรสื่อสารของรัฐให้เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะชน ทั้งในการให้การศึกษาทางการเมือง การธำรงรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีวัฒนธรรม ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง รวมทั้งภูมิปัญญาท้องถิ่น ซึ่งรัฐบาลกำลังจัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมาจัดทำแผนแม่บทดังกล่าว คาดว่าสัปดาห์หน้าจะแต่งตั้งแล้วเสร็จ 2. เพื่อให้การจัดระบบของวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ วิทยุชุมชนและเคเบิลทีวี ที่ขณะนี้ยังไม่มีระบบที่ชัดเจน รัฐบาลจึงกำลังจัดทำพระราชบัญญัติการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียงและวิทยุชุมชน เพื่อเป็นการวางระบบกิจการเหล่านี้ ให้เป็นระบบมีความชัดเจน ซึ่งจะเชื่อมต่อกับแผนแม่บท


 


รายงานข่าวแจ้งว่า มีกระแสข่าวว่านอกจากจะมีแนวคิดที่จะปฏิรูปวงการสื่อมวลชนของไทยแล้วยังมีแนวคิดที่จะตั้งกองทุนช่วยเหลือสื่อมวลชนอีกด้วย อย่างไรก็ตามแนวคิดนี้ยังไม่มีการพิจารณาเป็นรูปธรรมแต่อย่างใด


 


ด้านนายจุลยุทธ์ หิรัณยะวสิต ปลัดประจำสำนักนายกรัฐมนตรี(สปน.) เปิดเผยว่า ในสัปดาห์นี้ สปน.จะส่งเรื่องให้อัยการสูงสุดพิจารณาสั่งฟ้องบมจ.ไอทีวี(ITV) เพื่อบังคับคดีให้ ITV ชำระค่าปรับวงเงินประมาณ 9 หมื่นล้านบาทเศษ โดยจะส่งฟ้องได้เมื่อใดขึ้นกับดุลพินิจของอัยการสูงสุดจะพิจารณา แต่ขณะนี้เหลือเวลาอีก 6 เดือนก่อนที่อายุความจะสิ้นสุดลง


 



สำหรับการปรับผังรายการของสถานีโทรทัศน์ไอทีวีนั้น คณะกรรมการที่พิจารณากรณีไอทีวีจะเสนอชื่อคณะกรรมการด้านผังรายการต่อ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาแต่งตั้งคณะกรรมการชุดนี้ขึ้นมาทำงานตรวจสอบผังรายการประจำปี 2550 จำนวนประมาณ 10 คน โดยการพิจารณาผังรายการจะยึดหลักสาระ 70 และบันเทิง 30


ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net