ประชาไท-21 ธ.ค.49  เมื่อคืนวันจันทร์ สภาผู้แทนราษฎรประเทศอินเดรยได้ออกกฎหมายรับรองสิทธิทำกินในเขตป่าแก่ประชาชนที่อยู่ในที่ดินปัจจุบันมาแล้วเป็นเวลาอย่างน้อย 3 ชั่วอายุคน รวมทั้งในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า โดยยังชีพด้วยการเพาะปลูกอย่างง่ายๆ  เก็บลูกไม้ป่าและหาน้ำผึ้ง 

ทั้งนี้ ชาวบ้านในเขตป่าเหล่านี้บอกว่าพวกเจ้าหน้าที่ป่าไม้ถือว่าพวกตนเป็นอาชญากร และพวกบริษัททำเหมืองและทำไม้ รวมทั้งเจ้าหน้าที่   มักจะซ้อม  ทรมาน  และบังคับโยกย้าย  หรือจับเข้าคุกหากพวกตนไม่ยอมย้ายไปจากที่ทำกินซึ่งอยู่กันมานานนับแต่บรรพบุรุษ

ด้านรัฐมนตรีกิจการชนเผ่า เค.อาร์.  คินเดีย  กล่าวกับสภาว่า  กฎหมายซึ่งคาดว่าจะได้รับการอนุมัติจากประธานาธิบดีเอ.พี.เจ. อับดุล กาลาม  ในไม่กี่สัปดาห์ฉบับนี้  จะช่วยคุ้มครองคนยากคนจนเพิ่มขึ้น 

"ชาวบ้านในเขตป่าไม่ได้รับประโยชน์โพดผลและสิทธิในที่ทำกิน มีชีวิตอยู่กับความไม่แน่นอน กฎหมายนี้จะช่วยให้ชุมชนในเขตป่าได้ถือครองที่ดินและเก็บหาของป่าเล็กๆ  น้อยๆ  ได้"

กฎหมายดังกล่าวอนุญาตให้ชาวบ้านใช้ประโยชน์ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่ไม้ท่อนได้ อาทิ  ไม้ไผ่  ตอไม้  กิ่งไม้  น้ำผึ้ง  ขี้ผึ้ง  พืชสมุนไพร  ก้อนหิน  และปลา  แต่ไม่มีสิทธิล่าสัตว์ป่า

"นับเป็นชัยชนะที่อินเดียได้ยกเลิกกฎหมายยุคอาณานิคมและรับรองสิทธิของคนที่อยู่ในป่า" แชงการ์ โฆพละกฤษนันท์  แห่งกลุ่มรณรงค์เพื่อเกียรติภูมิและความอยู่รอด ซึ่งเป็นเครือข่ายของชุมชนในเขตป่า  กล่าว

อย่างไรก็ดี พวกนักอนุรักษ์โต้แย้งว่า  การพิสูจน์ว่าใครอยู่มานานเป็นเรื่องยาก  ประชาชนจะฉวยโอกาสนี้รุกป่าเพิ่มขึ้น  ซึ่งเป็นการคุกคามต่อสัตว์ป่าที่หายาก  เช่น  เสือ

ที่มา : เว็บซ์ไทยโพสต์