Skip to main content
sharethis

ประชาไท - 22 ธ.ค.49      เมื่อเวลา18:10 น. วันที่ 21 ธ.ค. จังหวัดนครศรีธรรมราช ประกาศให้พื้นที่ชายฝั่งทะเล ตั้งแต่อำเภอหัวไทร จนถึงแหลมตะลุมพุก อำเภอปากพนัง ระยะทางยาวกว่า 54 กิโลเมตร เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติ และเตรียมการอพยพชาวบ้านที่อาศัยอยู่ติดทะเล ถ้าสถานการณ์ฉุกเฉิน หลังถูกกระแสคลื่นความสูงกว่า 2 เมตร พัดถล่มชายฝั่งและกัดเซาะพื้นดินหายไปจำนวนมาก บางช่วงพัดเซาะถนนลาดยางหายไป 1 ช่องจราจร 


 


นอกจากนี้ แนวสายส่งไฟฟ้าแรงสูง ยังถูกน้ำทะเลกัดเซาะพื้นดินที่ปักเสาอย่างต่อเนื่อง จนเสาส่งไปอยู่ในทะเลยาวหลายร้อยเมตร รวมทั้งบ้านเรือนประชาชนพังเสียหายบางส่วน 25-30 หลัง และเสียหายอย่างสิ้นเชิง 3 หลัง  พร้อมกันนี้ จะต้องเฝ้าระวังตลอด 24 -ชั่วโมง ไปจนถึงวันที่ 25 ธันวาคมนี้


          


นายวิชิต มณีโลก หัวหน้าฝ่ายป้องกันและปฏิบัติการ สำนักงานป้องกันบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดนครศรีธรรมราช ระบุว่า  ทุกฝ่ายกำลังเร่งหาทางแก้ไขอย่างเร่งด่วน ซึ่งความสูงขณะนี้ประมาณ 2-3 เมตร และยังมีภาวะน้ำทะเลหนุนสูงประดังเข้ามา บางพื้นที่โดยเฉพาะที่ตำบลแหลมตะลุมพุก มีทรายที่ถูกคลื่นซัดเข้ามากองสูงเป็นเมตร ได้ขอให้ชาวบ้านอพยพออกจากพื้นที่แล้ว และบางส่วนกัดเซาะแผ่นดินหายไปหลายเมตร


 


ด้าน น.ส.อรุณี กูลณรงค์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช จัดประชุมชาวบ้าน ที่หมู่บ้านชาวประมง หมู่ 2 ตำบลแหลมตะลุมพุก อำเภอปากพนัง เพื่อให้ชาวบ้านที่อยู่ติดชายทะเลกว่า 200 ครอบครัว จำนวนกว่าพันคน อพยพออกจากพื้นที่ จนกว่าสถานการณ์จะสงบ แต่ชาวบ้านไม่ยอมอพยพ เพราะเป็นห่วงทรัพย์สิน แต่รับปากว่าถ้าสถานการณ์ไม่ไหวจริง ๆ จะอพยพทันที


 


ส่วนที่วัดเกาะเพชร หมู่ 6 ตำบลเกาะเพชร อำเภอหัวไทร แนวคลื่นพัดเข้าใกล้โบสถ์เข้าไปทุกขณะเจ้าอาวาสบอกว่า พื้นที่ของวัดซึ่งมี 12 ไร่กว่า ในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา ถูกน้ำทะเลซัดกินเนื้อที่ไปเหลือเพียง 7 ไร่กว่าเท่านั้น และสิ่งที่น่าเป็นห่วงขณะนี้ คือ ความรุนแรงของคลื่นที่แรงขึ้นทุกปี ในระยะไม่เกิน 5 ปีถ้าไม่ป้องกัน วัดแห่งนี้คงจะถูกคลื่นซัดหายไปหมด


 


ที่มา : เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ         

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net