1.ครป.เห็นด้วยกับความเห็นของ ส.ส.ร.หลายท่าน ที่เสนอให้มีการพิจารณาทบทวนแก้ไขพระราชกฤษฎีกากำหนดเกณฑ์สรรหากรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งกำหนดสเปกไว้สูงจนเกินไป ทำให้โอกาสที่ภาคส่วนต่างๆ จะเข้ามาร่วมเป็นกรรมาธิการยกร่างนั้นทำได้ยากและถูกตัดสิทธิไปโดยปริยาย

2.สำหรับตำแหน่งประธานกรรมาธิการยกร่างนั้น ครป.ยังยืนยันว่า นายจรัญ ภักดีธนากุล ปลัดกระทรวงยุติธรรม น่าจะเหมาะสมที่สุด ส่วน นายสุจิต บุญบงการ นั้น แม้จะมีคุณสมบัติที่เหมาะสมอีกคน แต่วิสัยทัศน์การปฏิรูปการเมืองยังไม่โดดเด่นเท่าที่ควร และ นายสุจิต บุญบงการ ไม่ได้เป็น 1 ใน 100 ส.ส.ร.แม้รัฐธรรมนูญจะไม่ให้ห้ามแต่อาจถูกมองว่าเป็นโควตาของ คมช. จนอาจทำให้เกิดสภาซ้อนสภาขึ้นได้ แต่ก็ถือว่าทั้งคู่มีความเหมาะสมในตำแหน่งกรรมาธิการยกร่าง"

3.ในส่วนของกรรมาธิการชุดต่างๆ ประจำ ส.ส.ร.นั้น ควรเทียบเคียงกับการทำงานของ ส.ส.ร.ชุดแรก ทั้งนี้ กรรมาธิการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ซึ่งถือเป็นกรรมาธิการที่สำคัญอีกชุดหนึ่งนั้นควรแยกย่อยให้มีกรรมาธิการวิสามัญรับฟังความคิดเห็นในระดับภาค 6 ภาค โดยเชิญคนนอกซึ่งอาจเป็นตัวแทนภาคประชาชนในแต่ละภูมิภาคและองค์กรต่างๆ มาร่วมให้มากที่สุด เพื่อให้การทำงานรวดเร็วขึ้น ซึ่งบุคคลที่เหมาะสมจะมานั่งเป็นประธานกรรมาธิการรับฟังความคิดเห็นนั้น นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ถือเป็นบุคคลที่น่าสนใจ เพราะมีประสบการณ์และมีความสามารถอำนวยการและบริหารจัดการให้เกิดการถกเถียงแลกเปลี่ยนได้เป็นอย่างดี