วานนี้ (22 มิ.ย.) เมื่อเวลา 14.00 น รัฐสภา เครือข่ายรณรงค์ป้องกันภัยแอลกอฮอล์ ประกอบนักศึกษาและประชาชน กว่าร้อยคน นำโดย นายคำรณ ชูเดชา เดินทางมายื่นหนังสือต่อประธานคณะกรรมาธิการ พิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อคัดค้านมติของอนุกรรมาธิการ ในกรณีที่ยังคงให้โฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้เหมือนเดิม ซึ่งมีเพียงการห้ามปรากฏรูปผลิตภัณฑ์เท่านั้น โดยมีนายณรงค์ โชควัฒนา สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เป็นตัวแทนรับมอบ

ทั้งนี้ ทางเครือข่ายฯมีข้อเรียกร้อง 5 ข้อ คือ 1.คัดค้านมติของอนุกรรมาธิการที่ไม่ยึดหลักความเป็นกลาง 2.ขอยืนยันในมาตรการห้ามโฆษณาทุกรูปแบบหรือ total ban แต่อาจยอมรับข้อเสนอที่ให้โฆษณาแบบประกบคือต้องโฆษณาที่มีเนื้อหารณรงค์หรือเห็นโทษภัยของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ประกบกันไปโดยต้องซื้อพื้นที่สื่อเพิ่มเป็นสองเท่า 3.ขอให้กมธ.กำหนดห้ามเครื่องดื่มแอลกอฮอล์สนับสนุนกิจกรรมเด็กเยาวชนและสถานบันการศึกษาทุกรูปแบบ 4.ขอให้กมธ.กำหนดห้ามร้านค้าสถานบันเทิง ที่เน้นจำหน่วยเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตั้งใกล้สถานศึกษาในรัศมี 500 เมตร และอาจจะกำหนดในบทเฉพาะกาลเพื่อให้เวลาร้านค้านได้ปรับตัว และ 5.ขอให้กมธ.อนุญาตให้สื่อเข้าฟังการพิจารณาด้วย

นายคำรณ กล่าวว่า การให้สัมภาษณ์ของนายประพันธ์ คูณมี อนุกมธ.ชี้ชัดว่ามาตรการห้ามโฆษณาที่ทางเครือข่ายฯ เรียกร้องและเป็นความต้องการเยาวชนส่วนใหญ่ ถูกลดทอนความสำคัญลงอย่างมาก ยกตัวอย่าง การโฆษณาทางโทรทัศน์ อนุกมธ.ยังคงให้โฆษณาได้เหมือนเดิมคือ 22.00-05.00 น.โดยเพิ่มเติมเพียงแค่ห้ามปรากฎรูปผลิตภัณฑ์ ซึ่งปัจจุบันในโฆษณาสามารถปรากฎรูปผลิตภัณฑ์ได้ 5 วินาที เท่ากับว่าพ.ร.บ.ฉบับนี้ปกป้องลูกหลาน เยาวชน ได้เพียงแค่ 5 วินาทีเท่านั้น

"ในกรรมาธิการประกอบด้วยสมาชิกหลายส่วนรวมทั้งผู้ประกอบการบริษัทน้ำเมา ด้วยแต่เราไม่ได้กลัวคนเหล่านั้น เพราะเขามีจุดยืนชัดเจนอยู่แล้ว แต่ที่เรากลัวที่สุดคือนักการเมืองกับนักวิชาการที่ทำตัวเป็นนอมินี รับใช้กลุ่มทุนโดยที่สังคมไม่รู้ และเราเชื่อว่ากลุ่มทุนน้ำเมามีอิทธิพลต่อการพิจารณากฎหมายฉบับนี้ทำให้ทำให้เนื้อหาสาระถูกบิดเบือนเจตนารมณ์ หลังจากนี้ถ้ากฎหมายยังไม่มีความก้าวหน้าทางเครือข่ายฯก็พร้อมจะระดมคนมาแสดงพลังต่อไป" แกนนำเครือข่ายฯ กล่าว