ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเวลา 13.30 น. ที่บ้านมนังคศิลา มูลนิธิองค์กรกลางเพื่อประชาธิปไตยและเครือข่ายประชาชนเพื่อการเลือกตั้ง(พีเน็ต) แถลงข่าวถึงสถานการณ์การเมือง องค์กรอิสระและภาคประชาชน
พล.อ.
อย่างไรก็ตาม พล.อ.สายหยุดเห็นว่า ประชาชนควรเป็นผู้คิดและตัดสินใจบนเหตุผลที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติที่สุด เพราะหากฟังนักการเมือง นักการเมืองก็ย่อมรักษาผลประโยชน์ของฝ่ายพรรคเขา ทั้งนี้ประชาชนจะออกเสียงการับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญก็อย่าไปบอกใคร เพื่อผลออกมารับหรือไม่รับก็ไม่มีใครรู้การใช้สิทธิ์เหมือนการเลือกตั้ง สิ่งนี้จะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาประชาธิปไตยให้ก้าวหน้าไปได้
นายวรินทร์ เทียมจรัส กรรมการและเลขาธิการมูลนิธิองค์กรกลาง กล่าวว่า บ้านมนังคศิลา จะเปิดศูนย์รับแจ้งเหตุ โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 14 ส.ค. เป็นต้นไปจนถึงวันที่ 19 ส.ค. อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้รับรายงานมาว่า วันที่ 19 ส.ค. จะมีการขนคนมาลงประชามติ ซึ่งทางองค์กรกลางฯ พยายามตามหาหลักฐานอยู่ว่า มีผู้นำหรือผู้ที่ทำงานกับมวลชนแต่ละพื้นที่ มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่รัฐขนคนไปรับร่างรัฐธรรมนูญ 2550 โดยหากผลออกมาว่าไม่รับร่างฯ จะมีผลต่อการโยกย้ายเจ้าหน้าที่ของรัฐประจำปีในเดือนก.ย. ทำให้การรณรงค์โดยเจ้าหน้าที่ของรัฐมีความไม่เป็นกลาง ซึ่งทางบ้านมนังคศิลา จะประมวลผลทุกวัน และได้ส่งสัญญาณไปที่ กกต. เพราะ กกต.ชุดนี้มาจากศาลไม่เคยทำงานภาคสนามและที่สำคัญคนที่ทำรายงานภาคสนามให้ กกต.ชุดนี้ เคยทำให้นายเก่า กกต.ชุดที่แล้ว ติดคุกมาแล้ว อย่างไรก็ตาม ทางองค์กรกลางฯ จะช่วยเท่าที่ทำได้
นาย
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)