"บิ๊กจิ๋ว"อาสาศึก!เป็นโซ่ข้อกลางออกโรงรับเป็นหัวหน้าไม่ไปร่วมวงก๊วนทักษิณ

ไทยรัฐ -  ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่า การแก้ปัญหาของชาติขณะนี้ต้องเน้นความปรองดองสมานฉันท์ โดยต้องมีพรรค การเมืองทางเลือกที่สามที่ทำหน้าที่เป็นโซ่ข้อกลาง ที่เปลี่ยนนโยบายจากชนอย่างเดียวเป็นสร้างความรักให้กับสังคม และประสานสองขั้วที่เกิดขึ้นระหว่างขั้วของพรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติไทย รัฐบาล และ คมช. กับขั้วไทยรักไทยเก่าของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หรือพรรคพลังประชาชน แต่สิ่งที่ขาดคือคนกลาง ฉะนั้นควรมีอีกพรรคหนึ่งเป็นตัวกลาง ซึ่งตนพร้อมทำหน้าที่ประสานความขัดแย้งในส่วนนี้ให้ การแก้ไขปัญหาขณะนี้มี 2 แนวทางคือ 1. เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของคู่กรณีด้วยตนเอง ซึ่งจะเป็นทางที่รวดเร็ว 2. การสร้างโซ่ข้อกลางหรือพรรคที่สาม แต่มีปัญหาว่าต้องใช้เวลาในการแก้และเป็นหนทางที่ค่อนข้างยาว คนที่จะเป็นโซ่ข้อกลางต้องกล้าเปลี่ยนแปลง นโยบายจากชนะไปสู่การให้ความรักโดยทั่วไปได้

พล.อ.ชวลิตกล่าวว่า กลุ่มรวมใจไทยและกลุ่มมัชฌิมาที่กำลังรวมตัวกันนั้นมีลักษณะเป็นพรรคที่เป็นโซ่ข้อกลาง ยอมรับว่าที่ผ่านมากลุ่มการเมืองดังกล่าวรวมทั้งกลุ่มแนวร่วมสมานฉันท์ได้มาขอคำแนะนำทางการเมือง รวมทั้งกลุ่มอื่นอีกหลายกลุ่ม ส่วนจะตัดสินใจรับตำแหน่งหัวหน้าพรรคหรือไม่นั้น ต้องขอคิดก่อน แต่ยังไม่ปฏิเสธถ้าเห็นว่าอุดมการณ์ตรงกัน

ต่อข้อถามว่า กลุ่มรวมใจไทยกับกลุ่มมัชฌิมารวมตัวกันเหมือนเป็นการรวมตัวแบบเฉพาะกิจ พล.อ.ชวลิตกล่าวว่า การตั้งพรรคต้องเริ่มจากตรงนั้น จากหลายกลุ่มรวมตัวกันก่อน ยังไม่ต้องลงรายละเอียด แล้วจึงมาหารือกันเรื่องความสมานฉันท์ เรื่องโครงสร้างพรรคและสมาชิกพรรค ตนจะไม่มาบอกว่าจะเป็นหัวหน้าพรรค ถ้าอย่างนั้นเลิกไปเลย มันต้องให้เกียรติและศักดิ์ศรีเขา เมื่อถามว่า หากกลุ่มรวมใจไทยกับกลุ่มมัชฌิมาเสนอตำแหน่งหัวหน้าพรรคให้จะปฏิเสธหรือไม่ พล.อ.ชวลิตตอบว่า ไม่ได้ปฏิเสธ แต่รอสักครู่ว่ามีหนทางอื่นที่ดีกว่า มีเรื่องอื่นที่เราต้องจัดการอีกหรือไม่ แต่ว่าโอเคถ้าท่านมาแล้วบอกว่าให้ตนช่วยอะไรก่อน โอเคอย่างนี้ได้ แต่ว่าถ้าจะให้มาเป็นหัวหน้าพรรค ให้พรรคต่างๆที่จะมาร่วมกันให้ เขาคิดดีกว่า

ผู้สื่อข่าวถามว่า พร้อมเป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ พล.อ.ชวลิตตอบว่า เอาไว้ก่อน รอไว้ก่อน แต่เรื่องนี้ใครจะไปปฏิเสธ พล.อ.ชวลิตกล่าวด้วยว่า คงไม่ไปเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชาชน เพราะมีนายสมัคร สุนทรเวช ทำหน้าที่ตรงนี้อยู่แล้ว และที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณได้ติดต่อขอร้องให้เป็นหัวหน้าพรรคหลายครั้ง ล่าสุดคุยเมื่อหลายเดือนก่อน ตนเสนอแนวคิดไปว่าต้องรับนโยบายสมานฉันท์ ให้ได้ แต่ก็ยังไม่มีคำตอบกลับมา สงสัยคงไปคิดอยู่

"บิ๊กจิ๋ว" ระบุ อย่ามองชาวอีสานซื้อขาย-เสียงง่าย

กรมประชาสัมพันธ์ - พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงทิศทางทางการเมืองหลังจากนี้ ว่า ในขณะนี้เห็นว่าทุกฝ่ายทั้งรัฐบาล คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ และพรรคการเมืองกลุ่มต่างๆได้พยายามแก้ไขปัญหากันอย่างเต็มที่แล้ว แต่ที่ยังไม่สามารถคลี่คลายสถานการณ์ได้เนื่องจากแก้ไขปัญหาไม่ตรงจุด ซึ่งคือ ความปรองดองของคนในชาติที่ถือเป็นปัญหาพื้นฐานที่จะต้องได้รับการแก้ไขเป็นอันดับแรกมากว่าเรื่องสังคม เศรษฐกิจ หรือ การเมือง เพราะถ้ายังไม่สามารถสร้างความปรองดองในชาติได้ การแก้ไขปัญหาอื่นๆก็จะไม่ประสบผลสำเร็จ

พร้อมกันนี้ ยังกล่าวถึงผลการลงประชามติในพื้นภาคตะวันออกเฉียงเหนือประชาชนส่วนใหญ่ลงมติไม่เห็นชอบมีการมองว่าเกิดจากการซื้อ-ขายเสียง ว่า อย่ามองไปในลักษณะดังกล่าว เพราะโดยพื้นฐานคนอีสานไวต่อความรู้สึกทางการเมืองมาก การซื้อ-ขายเสียง จึงไม่น่าเป็นไปได้ ขณะเดียวกันในการเลือกตั้งที่จะมีขึ้น ภาครัฐจะต้องไม่ทำให้ประชาชนรู้สึกว่าเป็นการแก้แค้นทางการเมืองระหว่าง คมช.กับกลุ่มอำนาจเก่า

"อุทัย พิมพ์ใจชน" รับนั่งที่ปรึกษารวมใจไทย

สำนักข่าวเนชั่น - นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ แกนนำกลุ่มรวมใจไทย กล่าวภายหลังการหารือร่วมกับกลุ่มมัชฌิมา ว่า กลุ่มมีมติไปจดทะเบียนพรรคใหม่ในวันที่ 28 สิงหาคม ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาชื่อที่เหมาะสม โดยกลุ่มกำลังเชิญกลุ่มการเมืองและบุคคลากรสำคัญทางการเมืองเข้ามาร่วมแนวทาง ซึ่ง พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี ก็เป็นคนหนึ่งที่ได้ทาบทามให้มาร่วมงานการเมืองด้วย โดยแนวทางโซ่ข้อกลางของ พล.อ.ชวลิต ก็สอดคล้องกับนโยบายของกลุ่ม และล่าสุด นายอุทัย พิมพ์ใจชน อดีตประธานรัฐสภา ก็ตอบตกลงมาเป็นที่ปรึกษาของกลุ่มแล้ว

"เสธฯ แดง" ประกาศตั้งพรรคชูนโยบายตรวจสอบตำรวจ

เดลินิวส์ - พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก  เปิดเผยว่า ในวันที่ 27 ส.ค.ตนจะมายื่นขอจดจัดตั้งพรรคการเมืองในนาม "พรรคเสธฯ แดง"  โดยจะมีกรรมการบริหารพรรคจำนวน 8 คนตนเป็นหัวหน้าพรรค ว่าที่ร.ต.สุรพัค จันทิรา เป็นเลขาธิการพรรค น.ส. สุรีย์ แซ่ตั้ง  เป็นโฆษกพรรค ซึ่งพรรคมีนโยบายในการตรวจสอบการกระทำของกลุ่มผู้มีอำนาจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปฏิบัติหน้าที่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และการทำหน้าที่ของผบ.ตร. ทั้งนี้พรรคของตนไม่จำเป็นต้องเหมือนพรรคการเมืองอื่น แต่เราทำกิจกรรมทางการเมืองในส่วนของเราที่จะเป็นประโยชน์กับสังคม และไม่จำเป็นต้องส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งแต่จะเน้นการตรวจสอบการทำงานของตำรวจ อย่างไรก็ตามในมาตรา 207 ของรัฐธรรมนูญปี 50 ที่ให้ประชาชน 2 หมื่นคนถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูงเชื่อว่าเมื่อนโยบายของพรรคประชาชนจะชอบใจและเข้ามามีส่วนร่วมกับพรรคในการตรวจสอบการทำงานของตำรวจ

ศาลปกครองตัดสิน "เดือนเต็มดวง" มีคุณสมบัติเป็นนายกเชียงใหม่

ผู้จัดการออนไลน์ - รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่ แจ้งว่า เมื่อเวลา 14.00 น.วันนี้ (22 ส.ค.) ศาลปกครองเชียงใหม่ได้มีการอ่านคำพิจารณาตัดสินคดีที่ร้อยเอกหญิงเดือนเต็มดวง ณ เชียงใหม่ ฟ้องผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเทศบาลนครเชียงใหม่ ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 คณะกรรมการการเลือกตั้ง ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 และคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดเชียงใหม่ ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3 จากกรณีที่มีคำวินิจฉัยว่าร้อยเอกหญิงเดือนเต็มดวง ไม่มีคุณสมบัติการเป็นผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่

ศาลปกครองเชียงใหม่ได้พิจารณาตัดสิน ว่า คดีดังกล่าวอยู่ในอำนาจของศาลปกครอง พร้อมทั้งพิจารณาว่าร้อยเอกหญิงเดือนเต็มดวง มีคุณสมบัติการเป็นผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ เนื่องจากคำวินิจฉัยดังกล่าวเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบ

ขิงแก่โต้ทหารโยนความผิดยันทุ่ม7พันล.เอาใจแล้ว-เตรียมดันงบลงพื้นที่อีกรอบ

ผู้จัดการรายวัน - นายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าว ถึงกรณีที่ พล.อ.มนตรี สังขทรัพย์ เสนาธิการทหารบก (เสธ.ทบ.) ประเมินผลการลงประชามติในภาคอีสาน และภาคเหนือที่ส่วนส่วนใหญ่ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ เพราะรัฐบาลไม่มีผลงานและงบประมาณไม่ถึงมือชาวบ้านว่า ถือว่าเป็นการวิเคราะห์ของเสธ.ทบ.เอง คงเป็นคนละเรื่อง เรื่องรัฐธรรมนูญก็เป็นเรื่องรัฐธรรมนูญ ส่วนเรื่องการบริหารงานของรัฐบาล รวมถึงการใช้งบประมาณและแผนงานของรัฐบาลก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง อาจจะเกี่ยวพันกันบ้าง แต่คงไม่ใช่โดยตรง ที่สำคัญคือไม่ว่ารัฐธรรมนูญจะเป็นอย่างไร การพัฒนาในระดับท้องถิ่นและจังหวัดเป็นสิ่งที่ต้องทำ รัฐบาลทุกยุค ทุกสมัยก็ได้พยายามทำให้ท้องถิ่นและจังหวัดดีที่สุด วิธีที่จะพัฒนางานแผนงานและงบประมาณไม่ใช่วิธีใหม่ แต่ที่แล้วมาบางจังหวัด ท้องถิ่นและชุมชนอาจจะยังมีความเข้มแข็งไม่มากเท่าทุกวันนี้ การที่จะให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกับชุมชนได้บูรณาการประสานเชื่อมโยง พัฒนางานในจังหวัดให้ดียิ่งขึ้น มีความเป็นไปได้สูง

 ส่วนที่กองทัพมีแนวคิดที่จะใช้งบ กอ.รมน. ลงไปในแต่ละหมู่บ้านเพื่อหวังที่จะซื้อใจชาวบ้านให้สนับสนุนรัฐบาล จากผลการไม่รับร่างประชามติ คิดว่ากอ.รมน. ไปใช้งบประมาณดังกล่าวถูกต้องหรือไม่ นายไพบูลย์ กล่าวว่า ขณะนี้รัฐบาลมีแผนงาน โครงการที่ดำเนินการอยู่ เช่นโครงการอยู่ดีมีสุข ที่จะใช้เงิน 7 พันล้านบาท ในปี 2551 ก็ได้ตั้งงบประมาณจำนวน 1.5 พันล้านบาท ในการดำเนินโครงการที่จะส่งผลต่อความอยู่ดีมีสุข นอกจากนั้น รัฐบาลยังมีโครงการอื่นอีกมากมาย ย่อมทำให้เกิดโครงการอยู่ดีมีสุข แต่ที่เราพูดกันในวันนี้ จะเริ่มบูรณาการ สำหรับปี 2551 หากทำได้จริงจะช่วยให้การใช้งบประมาณ เร็วยิ่งขึ้นและดียิ่งขึ้น

ผู้สื่อข่าวถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่เราจะไปดูว่าทำไมภาคเหนือ ภาคอีสาน ถึงไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ ต้องการอะไรที่แตกต่างไปหรือไม่ นายไพบูลย์ กล่าวว่า คงเป็นประเด็นที่ต้องวิเคราะห์กันไปต่างหากในมิติมุมมองทางการเมือง         

องค์กรเพื่อสิทธิมนุษยชน เป็นห่วง นักเคลื่อนไหว หลังถูกจับในพม่า

ศูนย์ข่าวแปซิฟิค - องค์กรเพื่อสิทธิมนุษยชน ยูเอส แคมเปญ ฟอร์ เบอร์มา ออกแถลงการณ์เมื่อวันอังคารตามเวลาท้องถิ่น  แสดงความเป็นห่วงสวัสดิภาพของนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนที่ถูกรัฐบาลทหารพม่าจับกุมระลอกล่าสุดอาจถูกทารุณกรรมระหว่างถูกควบคุมตัว แถลงการณ์ระบุว่า ผู้ที่ถูกทางการพม่าจับกุมล่าสุดหลังจากเหตุชุมนุมประท้วงในกรุงย่างกุ้ง เมื่อวันอาทิตย์ที่แล้ว กรณีรัฐบาลทหารพม่าขึ้นราคาน้ำมันเชื้อเพลิงรวดเดียว 5 เท่าตัว มีนายมิน โค เนียง นักเคลื่อนไหวที่เคยได้รับรางวัลด้านสิทธิมนุษยชนจากสหรัฐ แคนาดา และยุโรป รวมทั้งผู้นำนักศึกษาและนักเคลื่อนไหวอีกหลายสิบคน นายออง ดิน ผู้อำนวยการนโยบายของยูเอส แคมเปญ ระบุในแถลงการณ์ว่า ทางการพม่าปฏิเสธไม่ให้เจ้าหน้าที่กาชาดได้เข้าพบกับผู้ถูกจับกุม ทางยูเอส แคมเปญ เตรียมยื่นหนังสือด่วนไปยังนายแมนเฟรด โนวัก ผู้แทนพิเศษสหประชาชาติ เพื่อแสดงความเป็นห่วงสวัสดิภาพของผู้ถูกจับกุมทั้งหมดต่อไป

ในปัจจุบัน รัฐบาลทหารพม่าจับกุมนักโทษการเมืองและนักเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลคุมขังในเรือนจำทั่วประเทศประมาณ 1,100 คน รวมทั้งนางออง ซาน ซู จี ผู้นำฝ่ายค้านที่ถูกกักบริเวณในบ้านที่กรุงย่างกุ้ง เป็นเวลามากกว่า 11 ปี ในระยะเวลา 17 ปี หลังสุด

ชาวอเมริกันส่วนใหญ่ ไม่ทราบเรื่องการเมืองระหว่างปท.

ศูนย์ข่าวแปซิฟิค - ผลสำรวจความคิดเห็นด้านการเมืองในประเทศและระหว่างประเทศของชาวอเมริกันผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ของสำนักสำรวจความนิยมแฮริส โพล ของสหรัฐฯ พบว่า  ชาวอเมริกันส่วนใหญ่ยอมรับว่า ไม่ทราบเรื่องการเมืองระหว่างประเทศนอกเหนือจากในสหรัฐฯ คิดเป็นสัดส่วนถึง 2 ใน 3 ที่ทำการสำรวจ

ผลสำรวจระบุว่า ร้อยละ 57 ของผู้ตอบแบบสอบถามไม่ต้องการเรียนรู้ หรือทำความเข้าใจกับการเมืองในประเทศอื่น ขณะที่ร้อยละ 32 แสดงทัศนะไม่สนใจ แม้กระทั่งความเป็นไปของการเมืองภายในประเทศ โดยผลสำรวจระบุว่า มีผู้ตอบแบบสอบถามสตรีเพียงร้อยละ 3 และชายร้อยละ 14 เท่านั้น ที่แสดงความสนใจการเมืองระหว่างประเทศเป็นอย่างมาก

นอกจากนี้ แฮริส โพล ยังเผยแพร่ผลการสำรวจความนิยมในการคัดเลือกผู้แทนพรรคเดโมแครต และรีพับลิกัน ในการลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ โดยในฝั่งเดโมแครต วุฒิสมาชิกฮิลลารี คลินตัน มีคะแนนนิยมนำมากกว่าร้อยละ 40 ส่วนฝั่งรีพับลิกัน นายรูดี้ จูลิอานี อดีตนายกเทศมนตรีนิวยอร์ก ได้รับความนิยมสูงสุด