Skip to main content
sharethis






การเมือง


 


สุรยุทธ์ชี้หมดยุคปฏิวัติ เชื่อการเมืองมีทางออก


ผู้จัดการรายวัน - พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงโผรายชื่อแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารประจำปีว่า ในภาพรวมก็เป็นเรื่องที่ได้มีการหารือกันแล้ว ก็เป็นอย่างนั้น ก็คงไม่มีอะไรที่จะเพิ่มเติมหรือปรับปรุง คาดว่าในสัปดาห์นี้จะนำขึ้นทูลเกล้าฯได้


 


ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ปฏิเสธว่า การวางตัวผบ.ทบ.คนใหม่ ไม่ได้เพื่อให้เข้ามาดูแลสถานการณ์ทางการเมือง แต่จะให้ดูและการบริหารงานของเหล่าทัพแต่ละส่วนมากกว่า โดยเฉพาะตนอยากเห็นผู้มาบริหารกองทัพ ที่มีความรู้ความสามารถ และเหมาะสมที่จะทำงานต่อไป


 


เมื่อถามว่า มั่นใจใช่หรือไม่ว่า ผบ.ทบ.คนใหม่ จะไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับการเมือง พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า ตนคงไม่สามารถบอกอย่างนั้นได้ คิดว่าในขั้นการพิจารณาจะพิจารณาบุคคลที่เห็นว่ามีความเหมาะสมที่สุด ส่วนเรื่องภายหน้าเป็นเรื่องที่บุคคลนั้นจะพิจารณาต่อไป เราอยากได้คนที่มีมุมมองค่อนข้างกว้าง พิจารณาเองได้ จะไม่เลือกคนที่คอยรับคำสั่ง เพราะผู้บริหาร ต้องคิดเองพิจารณาเอง


 


เมื่อถามว่า ผบ.ทบ.คนใหม่จะต้องมาเป็นผู้นำพากองทัพ ให้ไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการเมืองหรือไม่ พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า คิดว่าไม่สมควร ตนคิดว่าเรื่องทางการเมือง น่าจะหาทางแก้กันได้ ทางการเมืองตนไม่อยากให้ใช้มาตรการอื่นมาแก้ไข เพราะทำให้เกิดความยุ่งยาก และเสียโอกาสพอสมควร ถ้าเป็นไปได้ ฝากประชาชนว่า การแก้ไขปัญหาทางกรเมือง ควรใช้วิธีทางการเมืองเข้าแก้ไข


 


นปช.นัดชุมนุมใหญ่ประท้วง 1 ปี รัฐประหาร 19 ก.ย.


สำนักข่าวเนชั่น - กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. นำโดยนายแพทย์เหวง โตจิราการ นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท และนางประทีป อึ้งทรงธรรม ฮาตะ พร้อมด้วยประชาชนประมาณ 100 คน เดินขบวนถอยหลังจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ไปตามถนนราชดำเนินนอก มุ่งหน้าคลองมหานาค บริเวณสี่แยกผ่านฟ้า โดยถือป้ายข้อความต่อต้านรัฐบาลและคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ หรือ คมช. พร้อมกล่าวปราศรัยผ่านเครื่องขยายเสียง โจมตีรัฐบาลว่าเป็นผู้ทำลายระบบเศรษฐกิจในประเทศ จากนั้น ตัวแทน นปช. ชาย-หญิงจำนวนหนึ่ง ถือป้ายข้อความกระโดดลงคลองมหานาค และปล่อยเต่าลงคลอง เพื่อประท้วง คมช.


 


อย่างไรก็ตาม นายแพทย์เหวง โตจิราการ หนึ่งในแกนนำ ได้ประกาศบนรถเคลื่อนขยายเสียง เรียกร้องให้ประชาชนร่วมชุมนุมใหญ่ที่ท้องสนามหลวง ในวันที่ 19 กันยายนนี้ ซึ่งเป็นวันครบรอบ 1 ปี การปฏิรูปการปกครอง โดยระบุว่า ในวันดังกล่าว แกนนำทั้งหมดจะร่วมปราศรัยบนเวทีอย่างพร้อมเพรียง


 


'บุญรอด' เชื่อ รบ.ใหม่ 1 ปีไม่รับประกัน 'รัฐประหาร'


ไทยโพสต์ - พล.อ.บุญรอด สมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2550 กรณีที่มีเสียงวิจารณ์ว่ารัฐบาลหลังเลือกตั้งจะอยู่ได้แค่ปีเดียว ว่าคงเป็นลักษณะอย่างนั้นเพราะทุกสิ่งทุกอย่างยังไม่นิ่ง และยังจะกลับไปสู่แบบเก่าอีก ถ้าเป็นแบบเก่าก็จะต้องเกิดอะไรขึ้นมาแบบนั้น ยกเว้นจะได้มีการวางมาตรฐานประชาธิปไตยให้หยั่งรากลึกแน่นอนมั่นคง ขณะนี้เสารากยังอ่อนไปอ่อนมาอยู่ก็เลยไม่แน่


 


รมว.กลาโหมเห็นด้วยว่า การเมืองจะแบ่งเป็นสองขั้วเหมือนเดิม การเลือกตั้งจะต้องมีอยู่สองกลุ่ม ฝ่ายอำนาจเก่าและฝ่ายอำนาจใหม่ ฝ่ายอำนาจเก่าชัดเจนอยู่แล้ว ฝ่ายอำนาจใหม่ยังไม่ชัดเจน ยังรวมตัวหลวมๆ เพราะฉะนั้นก็จะเป็นธรรมชาติ เป็นธรรมดา ส่วนโอกาสที่กลุ่มอำนาจเก่าจะกลับมานั้น ก็ต้องคอยดูกันต่อไป อยู่ที่ประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินว่าเข้ามาได้ขนาดไหน แต่ดูแล้วคงไม่มีรัฐบาลพรรคเดียว ต้องรวมกลุ่มกัน


 


เมื่อถามว่าเสถียรภาพของรัฐบาลจะไม่มั่นคง พล.อ.บุญรอดกล่าวว่า เสถียรภาพจะไม่ดีตราบใดที่ไม่ใช่เอกภาพทางความคิดจริงๆ ก็จะไม่มีเสถียรภาพ ที่บอกว่าปีเดียวหรือปีครึ่ง ก็ไม่เกินแล้วจะกลับไปสู่สภาพเก่า ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า ในช่วงหนึ่งปีหรือปีครึ่งจะมีการปฏิวัติเกิดขึ้นอีกหรือไม่ พล.อ.บุญรอดกล่าวว่า การเมืองก็ต้องแก้ปัญหาทางการเมืองไป เรื่องอย่างนี้ไม่มี แต่อนาคตฟันธงไม่ได้ หลักการเป็นอย่างนี้


 


 


 






ความมั่นคง


 


"สุรยุทธ์" ชี้แนวร่วมก่อความไม่สงบชายแดนใต้ เหลือแค่ 2 หมื่นคน


ผู้จัดการออนไลน์ - นายกฯ เผยแนวร่วมกลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ลดเหลือเพียง 2 หมื่นคน ชี้ชัดเป้าหมายแบ่งแยกดินแดนเกิดจากเงื่อนไขของการใช้อำนาจอย่างไม่เป็นธรรม ยอมรับเยาวชนใต้ถูกปลูกฝังนานนับสิบปี ฝากฝังรัฐบาลชุดต่อไปสานต่อสางไฟใต้


 


นายกรัฐมนตรีเผยเหตุการณ์ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนใต้มีแนวโน้มลดลง


อินโฟเควสท์ - พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี กล่าวระหว่างพบปะกับสื่อมวลชนในโอกาสการสัมมนาสื่อมวลชนสัมพันธ์ ทำเนียบรัฐบาลที่ โรงแรมดิอิมพีเรียล ภูแก้วฮิลล์ รีสอร์ท จ.เพชรบูรณ์ ว่าปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ส่วนหนึ่งเกิดจากมีเยาวชนถูกปลูกฝังแนวคิดที่ผิดและมีมานานแล้ว ดังนั้นหากสามารถทำความเข้าใจกับประชาชนและเยาวชนรุ่นใหม่ในพื้นที่ได้ก็จะช่วยแก้ปัญหาและทำให้เกิดความสงบขึ้น


 


ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีย้ำความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มีแนวโน้มลดลง เนื่องจากประชาชนหันมาให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่รัฐมากขึ้น โดยประมาณจำนวนแนวร่วมผู้ก่อเหตุไว้ที่ร้อยละ 10 ของประชาชนในพื้นที่หรือประมาณ 20,000 คน


 


ปชป.ร้องรัฐบาลยกเลิกกฎอัยการศึกเว้น 3 จ.ใต้ เพื่อการเลือกตั้ง


ไอ.เอ็น.เอ็น. - นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการรวมตัวของกลุ่มการเมืองต่าง ๆ ในขณะนี้เพื่อจัดตั้งเป็นพรรคการเมืองว่าเป็นเรื่องปกติที่สามารถทำได้ เนื่องจากเป็นช่วงที่มีรัฐธรรมนูญใหม่ที่มีการเปลี่ยนแปลงข้อบังคับค่อนข้างมากเกี่ยวกับในช่วงการเมืองที่ผ่านการรัฐประหารและกำลังเข้าสู่ระบอบประชาธิปไตย โดยตนเชื่อว่าเมื่อการเมืองเข้าสู่ช่วงการเลือกตั้ง การรวมกุล่มทางการเมืองจะมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น


 


พร้อมกันนี้ยังได้เรียกร้องให้พรรคการเมืองต่าง ๆ เข้าสู่บรรยากาศของการเลือกตั้งที่สุจริตโปร่งใสด้วยการแข่งขันกันด้านนโยบายของพรรค เพื่อทำให้ประชาชนมั่นใจว่าประเทศชาติจะกลับเข้าสู่ระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริงและทำให้การเมืองไทยเดินหน้าต่อไปได้ นอกจากนี้ นายองอาจ ยังเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกกฎอัยการศึกเพื่อสร้างบรรยากาศการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นให้มีความเป็นธรรม โดยอาจยกเว้นพื้นที่เสี่ยงภัยต่อความมั่นคง อาทิ ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ไว้


 


 


 






เศรษฐกิจ


 


เศรษฐกิจแย่ ตกงานพุ่ง 4 หมื่นคน ภาคการผลิต-ก่อสร้างอาการทรุดหนัก


เดลินิวส์ - รายงานข่าวจากสำนักงานสถิติแห่งชาติ เปิดเผยว่า ในเดือน ก.ค. 50 มีประชากรไทยว่างงาน 4.6 แสนคน เพิ่มจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 4 หมื่นคน โดยสาขาการผลิตมากสุด 8 หมื่นคน, ก่อสร้าง 4 หมื่นคน, ขายส่ง ขายปลีก ซ่อมแซมยานยนต์และของใช้ส่วนบุคคลและครัวเรือน 4 หมื่นคน, ภาคเกษตรกรรม 3 หมื่นคน, โรงแรมและภัตตาคาร 2 หมื่นคน เป็นต้น หากแบ่งตามภูมิภาคพบว่าภาคเหนือเพิ่มมากสุด 3 หมื่นคน, ภาคกลาง 1 หมื่นคน ส่วนกรุงเทพฯ, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ตัวเลขไม่เปลี่ยนแปลง


 



ทั้งนี้ ผู้ว่างงาน 4.6 แสนคนพบว่าเป็นผู้จบการศึกษาระดับอุดมศึกษา 1.5 แสนคน มัธยมตอนต้น 1.1 แสนคน มัธยมตอนปลาย 9 หมื่นคน ประถมศึกษา 7 หมื่นคน และ ไม่มีหรือต่ำกว่าประถมศึกษา 4 หมื่นคน สำหรับผู้มีงานทำในเดือน ก.ค. มี 37.37 ล้านคน เพิ่มขึ้น 6.3 แสนคน โดยเป็นภาคเกษตรกรรม 15.61 ล้านคนลดลง 8 หมื่นคน และ นอกภาคเกษตรกรรม 21.76 ล้านคน เพิ่มขึ้น 7.1 แสนคน สาขาการขายส่ง ขายปลีกฯ มากสุด 2.5 แสนคน รองลงมาอสังหาริมทรัพย์ 1.1 แสนคน, การผลิต 8 หมื่นคน, การบริหารราชการแผ่นดินรวมประกันสังคมภาคบังคับ 8 หมื่นคน, ก่อสร้าง 7 หมื่นคน, การขนส่ง คมนาคมและคลังสินค้า 7 หมื่นคน, โรงแรมและภัตตาคาร 2 หมื่นและการศึกษา 2 หมื่นคน เป็นต้น


 



นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ในฐานะคณะกรรมการขับเคลื่อนเศรษฐกิจส่วนรวม กล่าวว่า เป็นเรื่องปกติที่เศรษฐกิจชะลอตัวลงจนส่งผลให้การว่างงานเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะภาคการผลิต และก่อสร้าง ซึ่งทั้ง 2 สาขาที่มีสัดส่วนว่างงานมากสุดในทุกเดือน เพราะโครง การลงทุนของภาครัฐและเอกชนชะงักไปหลาย โครงการ รวมถึงโรงงานหลายแห่งได้รับผลกระทบจากค่าเงินบาท และแรงงานทั้ง 2 สาขา จำนวนมากอยู่ในภาคเกษตรกรรม เพียงต้องการหารายได้ช่วงที่รอฤดูกาลเก็บเกี่ยว


 


ธปท.ชี้ครึ่งปี 50 เศรษฐกิจชะลอ-หากการเมืองชัดเจนเอกชนพร้อมลงทุน


ข่าวหุ้น - ธปท.เผยเศรษฐกิจไตรมาส2ครึ่งปีหลังยังชะลอตัวต่อเนื่อง ชี้นักลงทุนส่วนใหญ่รอความชัดเจนการเมือง ภาคการลงทุนแนะรัฐเร่งทบทวนออกมาตรการ รักษาเสถียรภาพค่าบาทด้านธุรกิจแบงก์พบปัญหาหนีหนี้เพิ่ม สินเชื่อลด ขณะที่โทรคมนาคมอัตราเติบโตพุ่ง


 


 


 






คุณภาพชีวิต&สิ่งแวดล้อม


 


กนอ.ปิดฉากไอพีพีมาบตาพุด "ไออาร์พีซี-โกลว์-เอ็กโก้" พับแผนลงทุนหนีม็อบต้าน


แนวหน้า - นายอุทัย จันทิมา ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(กนอ.) เปิดเผยว่า ตนเห็นด้วยกับนโยบายของนายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.อุตสาหกรรม ที่จะไม่ให้โรงไฟฟ้าใหม่เข้าไปลงทุนเพิ่มในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง เพราะพื้นที่ดังกล่าวมีข้อจำกัดในด้านปัญหามลพิษ โดยที่ผ่านมามลพิษทางอากาศที่เกิดขึ้นกว่า 70% เกิดจากโรงไฟฟ้าที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ ส่งผลให้โรงงานอื่นๆ อาทิ ปิโตรเคมี มีปัญหาไม่สามารถลงทุนโครงการใหม่ได้ เนื่องจากมลพิษที่เกิดขึ้นในพื้นที่จะมากเกินกว่าจะรับมือได้


 


นายอุทัย กล่าวต่อว่า ถ้าโรงไฟฟ้าที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ โดยเฉพาะโรงไฟฟ้าถ่านหินต้องการจะขยายการลงทุนเพิ่ม อีไอเอจะต้องผ่านความเห็นชอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หลังจากนั้นต้องเสนอให้ กนอ.พิจารณา ซึ่งจะคำนึงถึงผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและการปล่อยมลพิษของโครงการเดิมว่าเป็นไปตามแผนที่กำหนดหรือไม่ และขณะนี้ได้มอบให้โรงไฟฟ้าที่ตั้งอยู่ในนิคมฯ ทั้งหมด ต้องเสนอแผนลดมลพิษของโรงงานที่อยู่ในพื้นที่ลงจากเดิมให้ได้ตามที่กำหนด


 



ด้านแหล่งข่าวใน กนอ. เปิดเผยว่า เอกชนที่มีแผนจะสร้างโรงไฟฟ้าในโครงการรับซื้อไฟฟ้าจากผู้ประกอบการโรงไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่ (ไอพีพี) ในบริเวณนิคมฯมาบตาพุดและพื้นที่ จ.ระยอง ประกอบด้วย บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือเอ็กโก้ ที่จะก่อสร้างโรงไฟฟ้าไอพีพี กำลังผลิต 800 เมกะวัตต์ บริษัท โกลว์ พลังงาน จำกัด (มหาชน) หรือโกลว์ ที่จะร่วมกับกลุ่มเหมราช สร้างโรงไฟฟ้าไอพีพีขนาด 800 เมกกะวัตต์ และบริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือไออาร์พีซี จะก่อสร้างโรงไฟฟ้าขนาด 1,600 เมกะวัตต์ ล่าสุดได้ประกาศพับแผนลงทุนไปแล้ว หลังชาวระยองออกมาเคลื่อนไหวประท้วงก่อนหน้านี้


 


ศธ.สำรวจพบเด็กไทยใช้เนตทางเสื่อม หาคู่นอน-ดูภาพหวิว-แกล้งเพื่อน


แนวหน้า - นางจรวยพร ธรณินทร์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ปลัดศธ.)เปิดเผยถึงการใช้อินเตอร์เน็ตของเยาวชนไทย ว่า จากการสำรวจข้อมูลของศูนย์อินเตอร์เน็ตสร้างสรรค์และปลอดภัย กระทรวงศึกษาธิการ ร่วมกับ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และภาคี ซึ่งหลังจากที่ได้ดำเนินงานมาเกือบ 1 ปี พบว่า พฤติกรรมการใช้อินเตอร์เน็ตของเด็กไทยกำลังเข้าขั้นวิกฤต เนื่องจากมีเยาวชนใช้อินเตอร์เน็ตอย่างน้อย 6 ล้านคน จาก 14 ล้านคน ใช้อินเตอร์เน็ตเฉลี่ยทั้งที่บ้านและโรงเรียน วันละ 3.8 ชั่วโมง เนื่องจากขณะนี้กระทรวงศึกษาฯได้เชื่อมสัญญาณอินเตอร์เน็ตไปยังโรงเรียนแล้วกว่า 40,000 โรงทั่วประเทศ


 


โดยเยาวชนไทยมักใช้อินเตอร์เน็ตเพื่อความบันเทิงเป็นอันดับ 1 ในขณะที่ประเทศ ฟิลิปปินส์ เวียดนาม ญี่ปุ่น เยาวชนส่วนใหญ่ใช้อินเตอร์เน็ตเพื่อการศึกษาเรียนรู้เป็นหลัก นอกจากนี้ ยังพบพฤติกรรมเสี่ยงของเยาวชนในการออนไลน์ที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น เห็นได้จากการที่เยาวชนสามารถเข้าถึงเวบที่ไม่เหมาะสมหรือเวบลามกได้โดยใช้เวลาเพียง 15-20 นาที นอกจากนี้ยังพบว่ามีเยาวชนนิยมเข้าไปใช้เว็บบอรด์สวิงกิ้ง ทำความรู้จักกันเพื่อหาคู่หรือสลับคู่นอนนับแต้มมีจำนวนมากขึ้นและกำลังเป็นที่นิยม พร้อมทั้งมีการใช้อินเตอร์เน็ตกลั่นแกล้งเพื่อนด้วยการโพสรูปและเบอร์ติดต่อเพื่อนไว้ที่เว็บต่าง ๆ โดยที่เพื่อนไม่รู้หรือมีการให้ข้อมูลที่เป็นเท็จเกี่ยวกับเพื่อน


 


วธ.จ้องฟันสาวนั่งดริงก์ แต่งโป๊-หวิว


คมชัดลึก - ภาพหญิงสาวแต่งกายวาบหวิว นั่งเชิญชวนลูกค้าให้เข้าไปเที่ยวในสถานบันเทิง ได้กลายเป็นอีกปัญหาหนึ่งที่ขัดต่อวัฒนธรรมไทย จนทำให้กระทรวงวัฒนธรรม ต้องออกมากวดขันในเรื่องนี้ โดยเมื่อวันที่ 16 กันยายน คุณหญิงไขศรี ศรีอรุณ รมว.วัฒนธรรม เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ รศ.ดร.วรากรณ์ สามโกเศศ รมช.ศึกษาธิการ ได้หารือถึงปัญหาการแต่งกายไม่เหมาะสมของหญิงสาวผู้ประกอบอาชีพในสถานบันเทิงประเภทคาราโอเกะ คลับ คอฟฟี่ช็อป และบาร์ต่างๆ ที่แต่งกายวาบหวิวจนเกินไป และยังออกมานั่งคอยเรียกลูกค้าที่สัญจรผ่านไปมาริมถนนด้วย ซึ่งเห็นด้วยกับ รมช.ศึกษาธิการว่า ไม่ได้ห้ามหรือเข้าไปจัดระเบียบการประกอบอาชีพของพวกเขา แต่อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแล กวดขันการแต่งกาย และพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมขัดต่อวัฒนธรรมของไทย


 



คุณหญิงไขศรี กล่าวว่า พฤติกรรมดังกล่าวเป็นการทำลายภาพลักษณ์ของสังคมไทย เพราะเมื่อนักท่องเที่ยว หรือชาวต่างประเทศผ่านไปมาบริเวณท้องถนนในกรุงเทพฯ และเมืองใหญ่ๆ ก็จะพบเห็นภาพดังกล่าวที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง ทั้งนี้ได้มอบหมายให้ น.ส.ลัดดา ตั้งสุภาชัย ผู้อำนวยการศูนย์เฝ้าระวังทางวัฒนธรรม ทำหนังสือประสานไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.)  และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อประสานให้ตำรวจท้องที่ดูแลกวดขันเรื่องนี้ด้วย



 


 






ต่างประเทศ


 


จีนเรียกเก็บคืนยารักษาโรคลูคีเมียเนื่องจากปนเปื้อนสารต่อต้านมะเร็งที่ส่งผลข้างเคียงต่อผู้ป่วย


กรมประชาสัมพันธ์ - สำนักข่าวซินหัวรายงานโดยอ้างแถลงการณ์ของเจ้าหน้าที่รัฐบาลท้องถิ่นในนครเซี่ยงไฮ้ว่า มีการเรียกเก็บยาส่วนใหญ่ที่ผลิตโดยบริษัทยาแห่งหนึ่งในนครเซี่ยงไฮ้แล้ว และขณะนี้กำลังเรียกเก็บส่วนที่เหลือ นอกจากนี้ทางการจีนยังสั่งระงับการผลิตและการจำหน่ายยาทั้งสองชนิด ที่มีชื่อว่า "เม็ธโธเทรคเซ็ท" และ"ไซทาราบิน ไฮโดรคลอไรด์" เมื่อได้รับรายงานว่า เด็กที่ป่วยเป็นโรคลูคิเมียหลายคนเดินไม่ได้ หลังจากแพทย์ฉีดยา  2 ชนิดนี้เข้าร่างกาย    ยาดังกล่าวยังเป็นสาเหตุที่ทำให้ปัสสาวะไม่ออกด้วย


 



ทางด้านคณะกรรมการอาหารและยาของรัฐบาลจีนรายงานว่า ยาดังกล่าวปนเปื้อนสารต่อต้านมะเร็งที่ถูกนำไปผสมโดยไม่ตั้งใจในช่วงการผลิต ทั้งนี้โรงงานหลายแห่งที่ผลิตยาชนิดนี้ถูกสั่งปิดแล้ว แต่ยังไม่มีรายงานว่ามีการส่งออกยาดังกล่าวไปยังต่างประเทศหรือไม่ ขณะที่จีนเพิ่มมาตรการควบคุมความปลอดภัยด้านอาหารและยาอย่างเข้มงวด หลังเกิดเรื่องอื้อฉาวหลายครั้งเกี่ยวกับความไม่ปลอดภัยด้านอาหารและยาที่ผลิตในจีนทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ


 


ญี่ปุ่นพัฒนาแบบทดสอบความเป็นพ่อ ให้รู้กันไปว่าเป็นคุณพ่อแบบไหน


ไทยรัฐ - กลุ่มฟาเธอริง เจแปน พัฒนาแบบทดสอบความเป็นพ่อ 50 คำถาม มีตั้งแต่คำถามเบาๆ เช่น ใครแสดงเป็นพ่อในภาพยนตร์ฝรั่งเรื่อง "เครเมอร์ เวอร์ซัส เครเมอร์" คำถามเกี่ยวกับการเลี้ยงเด็ก อย่างการฝึกเด็กนั่งที่นั่งบนโถส้วม อาหารของเด็ก ไปจนถึงเรื่องการเมือง เช่น งบประมาณสนับสนุนการเลี้ยงลูกมีสัดส่วนเท่าไหร่ของจีดีพี


 


นายเท็ตสึยะ อันโดะ ผู้อำนวยการกลุ่ม เผยว่า ทุกวันนี้ไม่ค่อยมีคู่มือการเลี้ยงลูกสำหรับคุณพ่อ แต่หากได้ทำแบบทดสอบนี้ คุณพ่อหลายคนจะได้รู้ตัวว่า ความจริงแล้วไม่รู้เรื่องการเลี้ยงเด็กเลย


 


แบบทดสอบคุณพ่อจะวางจำหน่ายในเดือนมีนาคมปีหน้า ราคาชุดละ 3,900 เยน (ราว 1,170 บาท) ช่วยให้คนเป็นพ่อได้รู้ตัวว่ามีคุณสมบัติเป็น "ยอดคุณพ่อ" หรือต้องพยายามให้มากขึ้นในฐานะ "คุณพ่อขอท้าชิง" ทั้งนี้ แม้คุณพ่อรุ่นใหม่ในญี่ปุ่นจะมีภาพลักษณ์ที่ต่างไปจากรุ่นก่อนโดยใกล้ชิดกับลูกมากขึ้น แต่ก็ยังยากที่จะลดชั่วโมงการทำงานและใช้เวลากับครอบครัวให้มากขึ้น จากสถิติพบว่าพนักงานชายญี่ปุ่นที่ใช้สิทธิลางานเลี้ยงลูกเมื่อปี 2548 มีเพียงร้อยละ 0.5 เทียบกับพนักงานชายในสหรัฐฯและอังกฤษที่ใช้สิทธิลาเลี้ยงลูกเมื่อปี 2543 ร้อยละ 14 และ 12 ตามลำดับ


 


เดินขบวนประท้วงถอดบุช-ยุติสงครามอิรัก


คมชัดลึก - สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันอาทิตย์ (16 ก.ย.) ว่าประชาชนราว 4,000-6,000 คนได้พากันมาเดินขบวนประท้วงในกรุงวอชิงตัน เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลวอชิงตันยุติการทำสงครามในอิรัก นำทหารอเมริกันกลับบ้าน รวมถึงให้มีการถอดถอนประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช ออกจากตำแหน่งที่เรียกกันว่า "อิมพีชเมนต์"


 


กลุ่มผู้ประท้วงที่มีครอบครัวทหารที่เสียชีวิตในอิรักรวมอยู่ด้วย ได้มาชุมนุมกันด้านหน้าทำเนียบขาว ก่อนจะเคลื่อนขบวนต่อไปยังอาคารรัฐสภา โดยมีหลายคนชูแผ่นป้ายที่มีข้อความว่า สนับสนุนกองทัพของเรา หยุดยั้งสงคราม และถอดถอนบุช ขณะที่ผู้ประท้วงกลุ่มหนึ่งได้พากันลงนอนแผ่หราบนพื้นถนนเพื่อแกล้งตาย อันเป็นสัญลักษณ์หมายถึงยอดเสียชีวิตของทหารอเมริกันในอิรักที่นับวันจะมีแต่เพิ่มขึ้น


 


ฟิล อลิฟฟ์ หนุ่มวัย 21 ปี ซึ่งอยู่ในกลุ่มทหารผ่านศึกอิรักต้านสงคราม กล่าวว่า ไปอิรักครั้งแรกในเดือนกรกฎาคม 2549 แล้วประจำการอยู่ที่นั่นหนึ่งปีในเรือนจำอาบู กราอิบ และนอกเมืองฟัลลูจาห์ โดยตอนที่ไปได้รับคำบอกว่ามาที่อิรักเพื่อนำพาความมั่นคงมาสู่ประเทศนี้ แต่ตัวเขากลับเห็นว่าทหารอเมริกันไม่ได้สร้างอะไรขึ้นมาใหม่เลย ส่วนชาวอิรักนั้นมีไฟฟ้าใช้แค่ 2 ชั่วโมง แถมยังได้เห็นความโหดร้ายที่ชาวอเมริกันก่อขึ้นที่นั่นด้วย


 


 


ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net