Skip to main content
sharethis

สำนักข่าวเอพีรายงานเมื่อวันจันทร์ (17 ก.ย.) ว่า พระภิกษุสงฆ์ในพม่าที่เคยก่อเหตุประท้วงรัฐบาลทหารด้วยการบุกเข้าทำลายทรัพย์สินในร้านค้าของกลุ่มผู้สนับสนุนรัฐบาล ทั้งยังจับตัวเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเป็นตัวประกันอยู่ช่วงหนึ่งนั้น ได้ออกมาขู่ว่าจะคว่ำบาตรบรรดาผู้นำทหารและบุคคลในครอบครัวในวันอังคาร หากรัฐบาลไม่ยอมออกมาขอโทษ


 


รายงานข่าวแจ้งว่า ประชาชนตามท้องถนนตามเมืองใหญ่ๆ อาทิ ย่างกุ้ง ต่างพากันพูดถึงเรื่องที่พระสงฆ์ขีดเส้นตายให้รัฐบาลออกมาขอโทษเรื่องที่ทุบตีพระหลายร้อยรูปเมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้ว ระหว่างเดินขบวนสวดมนต์อย่างสงบในเมืองพาโกกุ ภาคมัณฑะเลย์ โดยขู่ว่าพระทั่วประเทศจะเดินขบวนออกจากวัดของตน ตัดการติดต่อกับเหล่านายทหารและครอบครัว ไม่ยอมรับบิณฑบาตจากคนเหล่านี้ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่น่าขายหน้ามากสำหรับรัฐบาล


 


นายจิน หลิน รัฐมนตรีข่าวสารของรัฐบาลพม่า ที่ลี้ภัยอยู่ในกรุงวอชิงตัน สหรัฐ กล่าวว่า สิ่งที่รัฐบาลทหารทำในเมืองพาโกกุนั้น เป็นเรื่องที่ให้อภัยไม่ได้   พระไม่พอใจเป็นอย่างมาก การคว่ำบาตรครั้งนี้ถือเป็นสิ่งสำคัญ เพราะองค์กรอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นสหภาพแรงงานใต้ดิน สหภาพนักศึกษาใต้ดิน และบรรดานักเคลื่อนไหวต่างเรียกร้องให้ออกมาร่วมการบอยคอต พร้อมแสดงความหวังว่า การประท้วงจะใหญ่ขึ้นกว่าที่เคยเป็นมา คนทั่วไปอาจจะเข้าร่วมกับพระ ซึ่งอาจจะได้เห็นความโกลาหลวุ่นวายเกิดขึ้น


 


ด้านเจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่งในย่างกุ้ง กล่าวว่า การคว่ำบาตรของพระภิกษุครั้งนี้จะมีความสำคัญในเชิงสัญลักษณ์ต่อการคัดค้านรัฐบาล เพราะว่าในประเทศที่เคร่งศาสนาพุทธนั้น การคว่ำบาตรดังกล่าวถือว่าเป็นการลงโทษในรูปแบบที่รุนแรงสำหรับพุทธศาสนิกชน และจะนำพาความอับอายใหญ่หลวงมาสู่รัฐบาล


 


ทั้งนี้ พระภิกษุได้กลายเป็นมาหัวหอกในการประท้วงต่อต้านรัฐบาลครั้งใหญ่ ที่ดำเนินมาเป็นเวลาเกือบเดือนแล้ว ภายหลังจากที่นักเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตย บ้างถูกจับกุมตัว บ้างต้องหนีไปหลบซ่อนตัว ทำให้คนจำนวนมากพากันหันมาพึ่งพระภิกษุ ซึ่งเป็นที่พึ่งทางใจ และมีบทบาทเกี่ยวข้องกับคนในสังคมทุกแง่มุม ตั้งแต่ตอนเกิดไปจนถึงตอนตาย


 


นายมลา มินต์ ครูวัย 75 ปี กล่าวว่า พระภิกษุเป็นความหวังเดียวของคนพม่าในตอนนี้ เหมือนเช่นที่เป็นมาเสมอในประวัติศาสตร์ทางการเมืองของพม่า ผู้ปกครองทหารสามารถปราบปรามนักศึกษาหรือคนอื่นๆ อย่างรุนแรงได้ แต่การกระทำกับพระอย่างป่าเถื่อนนั้นมักจะก่อให้ผลเสีย และการประท้วงอื่นๆ ตามมา


 


ขณะเดียวกัน มีรายงานว่าพระเถระรูปหนึ่ง เขียนบทความลงในหนังสือพิมพ์นิว ไลท์ ออฟ เมียนมาร์ ของรัฐบาลพม่า ระบุว่า พระสงฆ์ควรจะถอยออกจากการประท้วง ซึ่งเริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 19 ส.ค. ที่ผ่านมา หลังจากรัฐบาลประกาศขึ้นราคาน้ำมันอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย


 


บทความของพระเถระรูปดังกล่าว ที่เขียนลงในหนังสือพิมพ์ บอกว่า ผู้จัดการประท้วงเป็น "ปิศาจร้าย" ซึ่งทำให้จิตใจที่บริสุทธิ์ของพระหนุ่มที่เริ่มเข้าร่วมประท้วงตามท้องถนน ต้องมัวหมอง


 


ในขณะเดียวกัน รัฐบาลทหารได้ตัดสัญญาณโทรศัพท์มือถือของผู้สนับสนุนการเรียกร้องประชาธิปไตยคนสำคัญ และผู้สื่อข่าวบางคนที่เป็นตัวแทนของสื่อต่างชาติ ซึ่งรวมทั้งนักข่าว 2 คน จากสำนักข่าวเอเอฟพี ส่วนฝ่ายบริหารของเอเอฟพีก็ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลพม่า ยอมคืนการให้บริการแก่ผู้สื่อข่าว เพื่อให้พวกเขาได้ปฏิบัติงานต่อไป


 


รัฐบาลพม่าประกาศแถลงการณ์อย่างแข็งกร้าวเมื่อวันอาทิตย์    ที่ผ่านมา เตือนว่า จะใช้มาตรการเด็ดขาดต่อผู้สนับสนุนการเรียกร้องประชาธิปไตย


 


ขณะเดียวกัน กระทรวงต่างประเทศของสหรัฐ เปิดเผยรายงานประจำปี เมื่อวันศุกร์ (14 ก.ย.) ประณามรัฐบาลทหารพม่าที่ยังคงใช้กำลังเข้าปราบปรามกลุ่มเคลื่อนไหวด้านศาสนาและกลุ่มที่วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลอย่างรุนแรง รวมทั้งกรณีที่รัฐบาลทหารพม่าจับกุมตัวนายติน คะยอ ที่ประท้วง เพราะถูกห้ามไม่ให้บวชพระ


 


พม่า ถูกระบุไว้ในบัญชีรายชื่อของกระทรวงต่างประเทศสหรัฐ ในฐานะเป็นประเทศที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยเฉพาะละเมิดสิทธิกลุ่มเคลื่อนไหวด้านศาสนา หรือกลุ่มศาสนา เช่นเดียวกับ จีน อีริเทรีย อิหร่าน เกาหลีเหนือ ซาอุดีอาระเบีย ซูดาน และอุซเบกิสถาน


 


ที่มา: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก กรุงเทพธุรกิจ และเคลินิวส์

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net