ดูอย่างไรไฟใต้ก็ยังไม่สงบเสียที แล้วทหารทำอะไรบ้างในเมื่อทุ่มกำลังมามากมายแล้ว ในขณะที่สถานการณ์ไม่สงบได้เพิ่มสถิตเหยื่อต่อเนื่องเป็นรายวัน วันละหลายๆ คนหรือหลายศพ ทหารซึ่งกุมบทบาทหลักในการแก้ปัญหา ก็ไม่วายถูกกล่าวหาว่ามีส่วนทำให้สถานการณ์ร้อนแรงขึ้นเสียเอง เช่น การซ้อมทรมานผู้ถูกควบคุมตัว หรือสร้างความหวาดระแวงให้ชาวบ้าน
ต่อไปนี้เป็น บทสัมภาษณ์ พล.ต.
ตอนนี้การทำงานของทหารในการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นอย่างไร
การทำงานทหารต่างกับตำรวจ เพราะตำรวจเมื่อจะจับกุมคนร้ายก็ต้องมีหมายจับ ตาม ป.วิอาญา(ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา) ส่วนทหารก็จะใช้กฎอัยการศึก และพรก.ฉุกเฉินฯ (พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 เข้าปิดล้อมตรวจค้น
คนที่ถูกควบคุมตัวได้ ถ้าเป็นตัวจริงเราก็เอามาอยู่กับเรา มีอบรมแล้วก็มีการถอนซุมเปาะ(คำสาบาน) ให้มาอยู่กับเราเลย มีผู้นำศาสนามาสอนศาสนาในทางที่ถูกต้อง เราก็พบว่าบางคนก็อยากเลิก ไม่อยากเข้าร่วมขบวนการก่อความไม่สงบอีกแล้ว เพียงแต่รอจังหวะให้ถูกควบคุมตัว พอถูกควบคุมตัวเขาก็รับสารภาพทันที เราก็เอามาอยู่กับเรา
บางคนที่ควบคุมตัว พอเราเอามาสอบประวัติก็พบว่ามีหมายจับติดตัวอยู่ ก็ต้องส่งไปดำเนินคดีไปตามปกติ ตอนนี้ที่อยู่กับเราก็เหลือ 5 คน บางคนอยู่ไม่นานเราก็ปล่อยกลับ บางคนก็อยู่นานเป็นเดือน มันก็ขึ้นกับเขาเอง เขาจะประเมินได้ว่าถ้ากลับไปแล้วเขาปลอดภัย บางคนกลับไปแล้ว ก็เข้ามาอีก เพราะกลัวไม่ปลอดภัย
ในการปิดล้อมนั้น ไม่ใช่เราไปปิดล้อมเองทั้งหมด ตำรวจเข้าไปด้วย คนที่จะมาอยู่ที่นี้เขาสารภาพผิดก่อน คือเขาไม่อยากอยู่แล้ว อยากถอนตัว ที่ถามมาก็มีหลายคน แล้วที่ถูกปิดล้อมจับกุมนี่ก็ต่างหาก มันมาหลายวิธี
ตรงนี้สื่อต้องเข้าใจว่าเราไม่ได้ใช้กฎหมายในทางดำเนินคดีเพื่อกล่าวหาหรือลงโทษ เราใช้กฎหมายเพื่อทำให้มันเบาลง
เริ่มต้นสมัครใจก็มี ถูกปิดล้อมก็มี แต่ที่ถูกปิดล้อมมีไม่เยอะ เพราะเราเคลียร์ตั้งแต่กองพันทหารแล้ว ถ้าเขาส่งคืนตรงโน้นได้ บางคนเขามีโอกาสไม่ถูกควบคุมอีก แต่ถ้าเขาถูกจับก็เอามา
ถ้ามาถึงนี่แล้วจะสมัครใจ เป็นส่วนใหญ่ คือสารภาพแล้วว่าอยากจะเลิก ถึงจะมานี่แต่ถ้าไม่สารภาพก็มี เพราะบางทีเราคัดกรองไม่เจอหลุดไป สมมุติจับมา 15 คน มีมาได้คนเดียว เพราะอยากจะเลิก
ถ้าตรงนี้ถอนซุมเปาะได้ ก็ทำให้เขาเกิดความมั่นใจ เพราะมีบุคลากร มีครูช่วย เพราะเรากลัวว่า ถ้าไม่ได้อยู่มือเรา มันจะมีความรุนแรงขึ้น แต่ทางนี้ห้ามเด็ดขาด ไม่มีซ้อม
กรณีคน 2 คนยิงครูโรงเรียนบ้านเกาะตา จังหวัดปัตตานี แล้วถูกจับได้ทันที เขารับสารภาพว่า ถูกสั่งก่อเหตุครั้งสุดท้ายให้เลิก ถามว่ามีกรณีอื่นหรือไม่ที่รับสารภาพเช่นนี้ ถ้ามีมันบกบอกอะไรได้บ้าง
ยังไม่มี อันนั้นต้องระวัง เพราะเขากลัว เพราะถูกจับได้คาหนังคาเขา เขาอาจบอกว่าเขาอยากจะเลิก อย่าลืมว่า ถึงจะสารภาพอย่างไรถูกดำเนินคดีแน่ ทำผิดซึ่งหน้า จะมีกฎหมายที่ไหนมายกโทษไม่มีหรอก
แล้วสื่อที่ออกไปบอกว่าทหารจับ ตามประมวลกฎหมาย ป.วิอาญา ที่จริงไม่ใช่ เราต้องการแค่ลดความรุนแรง ที่เราควบคุมมานี่ ทำให้องค์กรเขาสลาย ถ้าปล่อยพวกนี้ก็จะถูกยิงตายอีกถ้าถึงวันที่มีการปะทะกันแล้ว แต่ถ้าเรากันไว้ก่อนโอกาสที่จะปะทะไม่มี
การรวมตัวเพื่อก่อเหตุ ถ้ามีการทลายก่อนมันก็ไปรวมกันหลายๆ ที่ เหมือนในเมืองยะลา มันมา 12 คน ถ้าไม่จับได้ก่อนก็ยุ่งตายแน่ กลุ่มของคนที่ซักทอดไปที่นักศึกษามีทั้งหมด 12 คน เตรียมจะก่อเหตุช่วงเทศกาลตรุษจีนโดยการเผาเมืองโชคดีจับได้เสียก่อน แผนนี้จึงถูกสกัดได้ก่อน
ถามว่าเป็นตัวจริงไม่จริง ไม่เป็นไร ถึงเขาจะโกหกว่าจะเผาเมือง มันก็ยังดีกว่าไม่มีข่าวเลย เขาอาจจะแหกตาเราก็ได้ แต่ถามว่างานทางทหาร เราต้องการอย่างนี้ เพราะมันมีทั้งรับ มีทั้งพราง มีทั้งลวง
สิ่งที่เขาพูดอาจไม่จริง ก็ไม่เป็นไร แต่อย่างน้อยเราได้ข้อมูลใหม่ว่า แทนที่เขาจะเอามอเตอร์ไซด์มาจอดวางระเบิด แต่นี่เอาน้ำมันราดเลย แล้วเอาขวดจุดไฟโยนใส่ ซึ่งมันง่าย แค่ขับรถผ่านแล้วมาเดินดูว่ารถยนต์หรือมอเตอร์ไซด์จอดตรงไหนเยอะ เอาน้ำมันเกลอนเดียวหิ้วราดแล้วจุดได้ทั้งเมือง ซึ่งมันน่าเชื่อถือตามที่เขารับสารภาพเราถึงต้องจับ แล้วก็ชี้ไปที่คนอื่นอีก
ถึงบอกว่ายะลางานนี้น่าเป็นห่วงถ้าไม่รู้ก่อน มันเหมือนกับโชค ถ้าเขาทำได้ดังไปทั่วโลก เพราะเป็นเรื่องใหม่ เพราะระเบิดพร้อมกันหลายจุดคนมันชินแล้ว แล้วการเผารถนี่คนเดือดร้อนหมดทุกคน
ตอนนี้เราประชาสัมพันธ์บอกให้ประชาชนรู้แล้ว แล้วก็วิทยุแจ้งให้ป้องกัน เราบังคับให้รถจอดเป็นที่ ตรงไหนคนเยอะจะไม่ให้จอดแล้ว จะให้ตำรวจกำหนดโซนให้จอด เวลาระเบิดจะได้ไม่มีคนเจ็บ
เราก็จะให้ทำอย่างนั้น แต่ตำรวจที่นี่ขี้เกรงใจ ถามว่า ถ้ามีคนเจ็บ 30 - 40 คนแล้วไม่อายบ้างหรือ ขณะนี้เราพยายามพูดให้ทางผู้กำกับสถานีตำรวจว่าใจอ่อนไม่ได้ เพราะคนอื่นเดือดร้อน ของเสียหายไม่เป็นไรหาใหม่ได้ แต่คนตายไม่รู้จะทำอย่างไร เยียวยาไม่ได้
กลุ่มก่อความไม่สงบเขากำหนดอัตราการก่อเหตุหรือไม่ว่า ให้แต่ละคนก่อเหตุกี่ครั้งแล้วเลิก
ที่แล้วมาเขาจ่ายเป็นเงิน ครั้งละ 500 บาทก็ยังเอาเลย บางเคสเหมือนเรื่องตลก พวกขี้ยาก็เอาแล้วราคาถูกเกินไป อย่างที่ไปยิงเขาต่ำสุด 3,000 บาท เอาของต้องสงสัยมาวาง 500 บาท เขาไม่ได้คิดว่าใครจะเดือดร้อนเลย แล้วเด็กพวกนี้ส่วนใหญ่ โดนกินใบกระท่อม คือ 4 คูณร้อย เมายา
ในแนวทางการต่อสู้ของเขาตอนนี้ เราอยากให้เปลี่ยน ในส่วนของกำลังอาร์เคเคของกลุ่มก่อความไม่สงบ ผมได้บรรยายกับผู้บัญชาการทหารบกไปว่า กำลังรุกที่มันทยอยหามาได้นั้น เอามาฝึกทบทวน เหมือนคนที่ถูกฝึกมาแล้วจากไหนก็แล้วแต่ แต่ที่ฝึกตามบ้านนั้น เป็นการทบทวนร่างกายให้แข็งแรง ที่เขาเตรียมหลังบ้านมีที่โหน สายเชือก คือเขามา ดูจากพฤติกรรมแล้วไม่ใช่การฝึกใหม่ ไม่มีใครมาฝึกใหม่
พอมีคนเสียชีวิต มันจะโยกมาแทนทันที ก่อนที่เด็กใหม่จะฝึกจบ สมมุติที่ยะลาแกนนำชื่อฟาเดลตาย เขาจะส่งคนมาควบคุมแทน ชุดสุดท้ายที่ถูกควบคุมได้มันรับสารภาพแล้ว บอกว่าเข้ามาแทนทีมที่มีหมายจับล่าสุด แล้วดันไปชี้ที่นักศึกษา มันเริ่มมาแทน แต่ยังไม่คุ้นเคยพื้นที่ แผนที่จะเผาเมืองนั้น มันเดินในเมือง หน้าตลาดบ้างแล้วถูกจับได้ คนนี้ชี้นั่งอยู่ในรถ มันชี้ไป เพราะมันว่าจำหน้าได้
ผมเอง บอกนายไปว่า ถึงอย่างไรสถานการณ์มันก็จะกระเพื่อมอยู่อย่างนี้ แต่เราอยากชักชวนแกนนำทางจิตวิญญาณทางการเมือง ระดับสูงกว่าพวกอาร์เคเค ซึ่งขณะนี้ เขาไม่ได้เดือดร้อน ที่เขาบอกอุสตาซประชุมลับ หรือไม่ได้ประชุมลับแต่เขามีอำนาจในการสั่งการ
เราอยากให้เขาเปลี่ยนแนวทางการต่อสู้มาเป็นสันติวิธี เลือกวิธีอื่น เชิงแนวความคิดอะไรก็แล้วแต่ แต่ให้ใช้สันติวิธี อย่าให้ชาวบ้านเขาเดือดร้อน อยากแบ่งแยก จะไปอย่างไร ก็ว่ากันไป ตามแนวทางสันติ อย่ามาฆ่าคน
อยากมีวิธีไหนก็เสนอมา จะปกครองพิเศษแล้วก็ต้องเสนอมา ส่งผู้นำมาคุยกัน ไม่ใช่ใช้อาร์เคเคไปก่อกวน ซึ่งมันไม่มีผลดีอะไรกับประชาชนทั่วไป แต่คนที่ได้ประโยชน์กลายเป็นพวกพ่อค้ายาเสพติด พวกผู้มีอิทธิพล พวกอื่นๆ ที่ไม่ต้องการอำนาจรัฐ ได้ประโยชน์หมด ฉวยโอกาส แต่คนดีแย่เลย
ธุรกิจผิดกฎหมายพวกนี้ พอเหตุการณ์ไม่ดี ตำรวจก็ไม่ต้องจับแล้ว ลองไปดูบ่อนในยะลา มีเท่าไหร่ เคยจับมั้ย
ตอนนี้มาถึงจุดเปลี่ยนหรือยัง
จุดเปลี่ยนหรือจุดผกผันยังไม่มี แต่พล.ท.
ตรงหัวนี่ รู้ว่าอยู่ตรงนั้นตรงนี้ แต่เขาไม่ได้ทำผิด เพียงแต่เราต้องไปชักจูงเขา เราต้องเรียกมาคุย เราไม่รู้หรอกว่าเขาเคยทำผิด เพราะคำพูดของเขาไม่ได้อัดเทป ไม่มีหลักฐาน เช่น บอกว่าช่วงนี้เพิ่มการยิงครูหน่อย เพิ่มการก่อการร้ายหน่อย อะไรอย่างนี้
เขาไม่ได้บอกจุดนี้ แต่อาร์เคเคมันอยู่ตามกลุ่มของมันอยู่แล้ว มันก็ต้องทำตามนโยบาย
เราอยากให้เขาเปลี่ยนแต่เราก็คุยตรงไม่ได้ ถ้ามานั่งกับแล้วคุยตรง เขาจะพูดกับเราไหมล่ะ เขาไม่พูด เราก็ต้องพูดเรื่องอื่น แต่เขาก็ทำเป็นไม่ได้ยิน บางทีเรานั่งคุยไปว่า นี่ เราได้ข่าวว่าพวกที่มาจากอาเจะห์ กลับหมดแล้วใช่ไหม เขาก็ทำเป็นไม่ได้ยิน
เราก็พยายามโยนว่า ข่าวนี่เราได้มาแล้วนะว่า พวกที่มาฝึกให้มันกลับประเทศไปหมดแล้วใช่ไหม เขาก็ไม่พูดกับเรา เขาก็ทำเป็นไม่ได้ยิน ไม่ได้ตอบว่าใช่หรือไม่ใช่ เขานั่งเฉยๆ ถ้าตอบไม่ ก็แสดงว่าเขารู้ ถ้าเขาบอกอยู่ก็แสดงว่าเขารู้ เขาก็ไม่พูด ส่วนใหญ่จะไม่พูด
เพราะฉะนั้นตรงนั้นยังไม่มีจุดผกผัน ยังหาไม่ได้ แต่เราจะพยายามทำ แต่เราก็พยายามคุยเป็นคนๆ ชวนเขาว่า ให้บอกผู้นำของเขา แต่การที่เราพาไปอบรมไปจัดอะไรนี่ ตรงนั้นมันเป็นภาพกว้าง เขาก็เขียนสมานฉันท์ทั้งนั้น แต่เวลาทำจริงก็ไม่รู้ใครสั่ง สมานฉันท์ทุกคน พูดดีทุกคน แต่เราไม่รู้ใครคนสั่ง
แล้วนอกพื้นที่หรือในต่างประเทศได้ดำเนินการอะไรหรือไม่ เพื่อให้มีผลถึงข้างใน
มี แต่ระดับสูงกว่าเรา ทั้งในมาเลย์ สิงคโปร์ ผมมีข้อมูลไม่เยอะ เรื่องเงินก็มีคนไปดู เพราะจริงๆแล้ว เงินที่ใช้ในการก่อการร้ายมันไม่ใช่น้อยๆ เพราะคนจะทำงานขนาดนี้ถามว่า เอาประโยชน์เข้าตัวนี่เกินครึ่งอยู่แล้ว สมมุติได้มาร้อยล้าน ทำให้ห้าสิบล้านก็คุ้มแล้ว
แสดงว่าค่าจ้างก่อเหตุสามพันบาทนั้นที่จริงอาจสูงกว่านั้น
เขาก็อ้างว่าต้องเอาเงินไปซื้อกระสุน ไหนต้องไปซื้อดินระเบิด มีหัวคิว ก็ต้องอ้างว่าระเบิดแพง ต้องใช้เงินหลายล้านว่าจะหามาได้ ถ้าจะทำเอ็งต้องช่วยกัน ไม่อย่างนั้นแบ่งแยกดินแดนไม่ได้ ที่จริงไอ้นั่นไม่รู้ว่าแบ่งแยกแล้วได้อะไรบ้าง แต่บางคนได้แต่ผลคือไม่ต้องรอแยก
ขณะนี้ยาบ้าในสามจังหวัดค่อนข้างรุนแรง แต่จับไม่ได้เลย เพราะเราไปห่วงต่อเรื่องความมั่นคง พอห่วงเรื่องความมั่นคงมันก็จะเป็นอย่างนี้ ทุกคนได้ประโยชน์หมด เพราะฉะนั้นทุกองค์กรมันจะมีคนร้ายหมด มันถึงน่ากลัว เหมือนแก็งค์ ตชด.(ตำรวจตระเวนชายแดน) ที่ถูกจับได้
ถ้าใน 3 จังหวัดภาคใต้ มีคนอย่างนี้แทรกอยู่ทุกวงการ แล้วเหตุการณ์เป็นอย่างนี้ มันจะรีดง่ายเลย แล้วก็อ้างสถานการณ์ แต่ยังดีว่ามันไม่กล้าเข้ามาที่นี่ มันอาจกลัวเจออาร์เคเคตัวจริง
แล้วเรื่องอาวุธสงครามในพื้นที่ได้มีการตรวจยึดมากน้อยแค่ไหน
ขณะนี้เราทำงานไม่ครอบคลุมตรงนั้น กองทัพภาคที่ 4 ทำงานมานานแล้ว แต่ ตอบปัญหาชายแดนไม่ได้ว่าการขนเข้าขนออกเป็นอย่างไร ไม่มีใครพูด ดินระเบิดที่เราจับมาได้ 70 แท่ง ก็มาจากมาเลย์ทั้งนั้น แต่ช่องทางเข้าทางไหน สกัดกั้นอย่างไร เราไม่เคยพูดเลย
กลายเป็นว่า ให้มาคุ้มครองประชาชน เราจะพูดเรื่องนั้นก็ไม่ได้ อย่างหน่วยเฉพาะกิจยะลา ดูตั้งแต่ในเมือง รอบเมือง ในเขตจังหวัด พอพื้นที่ชายแดนเป็นอีกหน่วยงานหนึ่ง ทั้ง ตชด. ชุดป้องกันชายแดน มีทหารอยู่ที่ด่านชุดเดียว เพราะฉะนั้นข้อมูลตรงนี้ พยายามให้หา ยังคุยไม่ได้ ผมมาสามเดือนยังไม่รู้เรื่องเลย เราต้องได้หน่วยงานนั้นมา แล้วมาถามอีกทีว่าช่องทาง สกัดกั้นเป็นอย่างไร
เห็นปัญหาอย่างนี้แล้วจะทำอย่างไร
ขณะนี้เราเน้นไปที่การคุ้มครองประชาชนตามนโยบาย แต่พวกนี้เป็นเรื่องของผู้ใหญ่แล้ว สูงกว่าเรา เรามีภารกิจคุ้มครองประชาชนเป็นส่วนใหญ่ เพราะฉะนั้นการป้องกันชายแดนก็ต้องกองทัพ ถ้านอกออกไป ก็ต้องกองบัญชาการกองทัพบก, สมช.(สภาความมั่นคงแห่งชาติ) ส่งคนไปดู ประสานเขาอย่างไร
แล้วได้สะท้อนปัญหาเหล่านี้ให้ทางผู้ใหญ่ได้ทราบหรือไม่
รู้ว่าเขากำลังทำกันอยู่ แต่ทีนี้งานภายในมันยังยุ่งมาก เขาก็เลยไม่ได้เอาเรื่องพวกนี้มาพูด อย่างที่ พล.อ.
อย่างประเทศตะวันออกกลางเขาให้มาเยอะนะ ให้มาอย่างถูกต้อง เช่น 200 ล้าน แต่เราไม่ได้ไปดูว่า เงินนั้นถูกนำไปใช้ในการศึกษาจริงหรือไม่ เอาไปใช้อย่างอื่นหรือเปล่า ยังไม่มีการตรวจสอบพวกนี้ ต่อไปอาจต้องขอดูบ้างก็ได้ นี่เป็นเรื่องของหน่วยอื่นที่จะทำ ดังนั้นภาคใต้ยังมีปัญหาสลับซับซ้อนอีกเยอะ ยังไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะผลประโยชน์ยังมีอีกแยะ
เชื่อว่าถ้าเงินถูกใช้ในการศึกษาจริง คุณภาพเด็กในพื้นที่จะดีกว่านี้
ใช่ เพราะศาสนาไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไร แต่ครูที่มาสอนต้องเก่ง ครูภาษาอังกฤษต้องเยี่ยมเหมือนที่ประกวดในทีวี ครูวิทยาศาสตร์ต้องจ้างมาแพง เลือกครูที่มีคุณภาพ คนไปสอบเข้ามหาวิยาลัยอะไรได้หมด แต่ตรงนี้อาจจ้างครูไม่มีคุณภาพ อาจมีการกินหัวคิวด้วย ครูที่มีคุณภาพจึงไม่ค่อยมี
แต่เรื่องศาสนานี่ไม่เกี่ยว เพราะใครก็สอนได้ คนมีศาสนาเขาก็ดีอยู่แล้ว แต่ครูที่สอนวิชาสามัญอาจไม่มีคุณภาพมันถึงไปแข่งกับเขาไม่ได้ ที่แข่งไม่ได้ หนึ่งโดยภาพรวมเด็กเก่งๆ ไปเข้าโรงเรียนหลักเยอะแล้ว แล้วยิ่งถ้าโรงเรียนไม่ดังพอคนก็ไม่เข้า เด็กเหลือเดนมันก็มาเข้าโรงเรียนอย่างนี้ มันก็เกเร แต่ก็มีคนที่ดีๆหลงผสมอยู่ เป็นธรรมชาติ พอมีคนดีเหลือคนสองคนมันจะเป็นผู้นำโดยปริยายไปเลย เพราะเด็กพวกนี้จะเกาะเขา เพราะคนไม่เก่งเยอะ ถ้ามีคนเก่งซักคนสองคน มันจะเป็นหัวหน้าทีมไปเลย
เรื่องนักศึกษาถูกจับ พอมีข่าวว่าเกี่ยวข้องกับการก่อความไม่สงบ มักจะมีเสียงสะท้อนมาจากองค์กรต่างๆ ทางทหารจะทำอย่างไร จะเชิญมาพูดคุย เหมือนที่เคยเชิญเอ็นจีโอ(องค์กรพัฒนาเอกชน) มาแล้วหรือไม่
เราอยากให้เขาสะท้อน แต่สะท้อนแค่ขอความเป็นธรรมนะ แต่ไม่ใช่สะท้อนแบบให้ร้ายหรือทะเละกัน หมายถึงเขาไม่ได้รับความเป็นธรรม เราก็ยอมไม่ได้
ในแถลงการณ์ล่าสุดของสนนท. เรื่องขอความเป็นธรรมนั้น ถ้าไม่มีอะไรก็ไม่เป็นไร ตอนนี้กลับไปหมดแล้ว ตอนนี้เหลือแต่ว่า ถ้าไม่ได้รับความเป็นธรรมก็ว่าไป แต่ต้นเหตุที่ถูกควบคุมตัวมันมาจากอย่างนี้ เราชี้แจงได้ ไม่ใช่อยู่ๆ เราไปจับมาเลย แต่มีคนไปชี้
แต่ถึงจะซัดทอดอย่างนี้ เราก็ไม่ใช้กฎหมาย ป.วิอาญา เข้าไปจับ เราหวังผลทางการทหาร เราจึงใช้กฎอัยการศึก เอามาถามว่าจริงหรือเปล่าที่เขาชี้มาอย่างนี้ ก็มีคนหนึ่งรับสารภาพ เราก็ปล่อยให้เขากลับโดยเร็ว พร้อมกับให้เงินค่ารถเล็กๆ น้อยๆ ไป
เรื่องระเบียบ 72 ชั่วโมงแรกห้ามเยี่ยมคนที่ถูกควบคุมตัว
ที่จริงไม่จำเป็น เราบอกให้ไปเยี่ยมได้เลย เพราะเราก็กลัวว่าอาจจะมีบางหน่วยห้ามเยี่ยม อาจจะมีการซ้อม ยิ่งไม่โปร่งใส เรายิ่งไม่เห็นด้วย ถ้าเป็นผมจะไม่เอามาอ้างเพราะมันจะเป็นเงื่อนไข กฎหมายมันอยู่ในกระดาษอยู่แล้ว ถ้าเราให้มาส่งที่เราทันทีตั้งแต่วันแรก มันก็เยี่ยมได้ตั้งแต่วันแรกแล้ว
บางทีคนที่ถูกจับไปสอบ เขาหิวน้ำแต่กลับไปเตะเขาอีก มันมีเทคนิคในการสอบเยอะแยะ ไม่ต้องใช้กำลัง ญาติเขามาเดี๋ยวเดียว เทคนิคการสอบนี่ ที่บางคนไม่รู้วิธีแล้วบางทีไปทุบไปตีเขา พวกนี้แย่ คนของเราบางคนไม่ได้เรียนมา บางคนมันซาดิสต์ ชอบใช้ความรุนแรง เราอยากให้มันมาทำงาน แต่บางคนติดนิสัยมาจากที่อื่น จริงๆ เขาไปกันไกลแล้ว อยู่ในสภาพไหนๆ เขาก็คุยกันได้
แล้วทางคนที่ถูกควบคุมไม่ได้ถูกฝึกให้มาเป็นทหาร มันไม่ใช่กองโจร ยกเว้นคนที่ถูกฝึกมาจากประเทศจอร์แดน เก่งๆ จริง ก็ว่าไปอย่าง แต่ถ้าเป็นชาวบ้านธรรมดาสอบสวนไม่เกินหนึ่งคืนก็รับแล้ว ส่งคนเข้าไปนั่งคุยเรื่อยๆ เดี๋ยวก็รับสารภาพจนได้
ดังนั้น ข้อห้าม 72 ชั่วโมง ผมไม่เห็นด้วย หมายความว่าจับไปแล้วให้ญาติเขารู้ได้เลย แล้วก็ต้องรู้ตั้งแต่ตอนจับเลย เพราะเรารับปากเขาแล้ว
มันต้องบอกตั้งแต่วันนี้แล้ว ให้เขาตามไปด้วยเลย อย่าไปทำอย่างอื่น เพราะเขากลัว พอจับปุ๊บบอกญาติเขาไม่ต้องกลัวให้เขาตามไปเลย แล้วที่ควบคุมทางทหารก็ไม่ใช่คุก มันก็เป็นอาคาร เพราะทหารไม่มีคุกแบบเรือนจำแบบลูกกรง ส่วนใหญ่ก็เอามาไว้ในอาคารแล้วมีคนคุม
กรณีทหารพรานยิงชาวบ้านตำบลบาเจาะ อำเภอบันนังสตา บาดเจ็บแล้วถูกโต้กลับจนเสียชีวิต เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2551 ที่ผ่านมา
จากปัญหาที่เกิดขึ้นก็ต้องมีการปรับเปลี่ยนกำลัง โดยย้ายออกไปแล้วเอาหน่วยอื่นเข้าไป ไม่ใช่มาอ้างว่าย้ายไม่ได้ อ้างเรื่องความไม่คุ้นเคยไม่ได้ ต้องดูผลงาน งานของเราก็มีการบันทึก แล้วก็หมุนกองร้อย แลกที่กัน แล้วกำจัดคนชั่วออกไป เอาคนใหม่มา ถ้าไม่มีเหตุร้ายก็เบาขึ้น อย่างน้อยคนใหม่ ก็ยังไม่มีความบาดหมางใจกับคนในท้องถิ่น
ยืนยันว่าเปลี่ยนตลอด เราสั่งให้ถอน แล้วให้กองร้อยใหม่เข้าไป เอาคนที่ชาวบ้านไว้ใจเข้าไป มันก็ไม่ได้ไปไหนไกล ก็ไปโน่นบ้างมานี่บ้าง
บางคนพอจะสับเปลี่ยนกำลังก็อ้างว่าจะกระเพื่อมอีก จริงๆ มันไม่เกี่ยว มันกระเพื่อมได้ทุกวัน ถ้าเรามัวแต่คิดว่ามันจะกระเพื่อม ก็ไม่ต้องทำอะไร กลับบ้านนอนดีกว่า ก็อย่างที่บอก ตอนนี้มันไม่ถูกกับใครก็ขับรถไปยิงหน้าบ้านเลย พวกนี้รู้ดีกว่าเราอีก เรายังไม่รู้เลย
ปัญหาที่เกิดขึ้น มันกระทบกับเจ้าหน้าที่ทุกหน่วย อันตรายกับผมด้วย ถ้ามีคนยิงผม อาจได้ล้านหนึ่งเลย บอกว่าโจรยิง เพราะเขาก็ตั้งค่าหัวให้ ขึ้นถึงล้านหรือยังไม่รู้ เรารู้เพราะเรารบกับคอมมิวนิสต์มาก่อน พอเขาตั้งค่าหัวมามันก็เอาด้วย
พื้นที่บันนังสตายังลึกลับอยู่มาก ทหารพราน ตำรวจเข้าไม่ได้หรอก ไม่กล้า แต่ชาวบ้านที่อยู่บ้านคนเดียวเขาวิ่งหนีได้ ให้โจรมาสองร้อย เขาหนีได้ ถ้าเขาไม่สู้ พอไปแล้ว ก็เช็คกลับกับลูกเมีย เพราะฉะนั้นอย่าไปคิดว่าชาวบ้านกลัว เขาไม่กลัวคนเยอะหรอก เขาหลบได้ บ้านเขาเขารู้ที่หลบอยู่แล้ว เขาไม่กลัวโจรที่มาจากที่อื่นจริง ยกเว้นโจรที่ฝังตัวอยู่ในหมู่บ้าน เขาถึงจะกลัว
หมายความว่าชาวบ้านไม่ได้กลัวโจรที่มาจากข้างนอก แต่กลัวคนที่อยู่ข้างด้วยกันเอง
ส่วนใหญ่กลัวคนข้างในหมด ในหมู่บ้านทั้งหมดจะเป็นอย่างนี้ คือ มีแกนนอยู่ในหมู่บ้าน สมมุติมีสองคนเป็นอยู่ เขาก็จะคุมคนได้ทั้งหมู่บ้านเลย แล้วโจรที่จะมายิงเป็นคนข้างนอก ส่วนสองคนนั้นไม่ต้องยิง นี่มันถึงลำบาก
หมู่บ้านลักษณะอย่างนี้เราได้เจาะเข้าไปได้มาน้อยแค่ไหน
ได้เยอะแล้ว ก็เหลือบันนังสตา อำเภอเมืองนี่ก็ได้เยอะแล้ว เราไปวางไว้ทั้งหมด หมายถึงหมู่บ้านไหนเข้าไปได้ก็เอาทหารไปวางไว้หนึ่งหมวดแล้วก็ช่วยเขา สถานการณ์ก็จะดีขึ้นเรื่อยๆ เราก็บีบเขา แต่เขาก็หนีเข้าป่า เขาก็ต้องนัดเจอ เราก็ต้องบล็อกให้เขาอยู่ป่า เขาก็ต้องนัดเอาข้าว เอาอาหารอย่างนี้ สองวันสามวันครั้ง
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)