Skip to main content
sharethis

การเมือง


 


"พันธมิตร" เชื่อชุมนุมนับหมื่นต้านแก้ไข รธน.


เว็บไซต์คมชัดลึก - นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า เชื่อว่าจะมีคนเข้าร่วมชุมนุมน่าจะหลักหมื่นคน เพราะนี่เป็นการชุมนุมลงถนนครั้งแรก และเชื่อว่าหากไม่มีการสกัดกั้นจากรัฐบาลคนจะมาร่วมหลายหมื่นอย่างแน่นอน ซึ่งการประกาศชุมนุมของพันธมิตรต่อต้านการล้มล้างรัฐธรรมนูญครั้งนี้ได้รับการตอบรับอย่างกว้างขวาง นอกเหนือจากฐานมวลชนเดิมแล้ว ยังมีแนวร่วมใหม่ๆ เพิ่มขึ้น



ส่วนการชุมนุมนั้นจะยืดเยื้อหรือไม่คงประเมินสถานการณ์อีกครั้งหนึ่ง แต่ได้บอกให้มวลชนพันธมิตรเตรียมตัวกันให้พร้อมจะอยู่ยาวหรือยืดเยื้อถ้าจำเป็น การชุมนุมในบ่ายวันอาทิตย์ได้มีการประสานเจ้าหน้าที่ทั้งตำรวจและ กทม.จะมีการตั้งเวทีที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย โดยบนเวทีจะมีการปราศรัยของ 5 แกนนำและตัวแทนองค์กรต่างๆ รวมทั้งจะเชิญนักวิชาการ และชมรม ส.ส.ร.50 มาร่วมปราศรัยให้ข้อมูลแก่สังคม นอกจากนี้ศิลปินเพื่อชีวิตก็มากันคับคั่งเช่นเคย


 


คตส.เล็งฟ้อง "ทักษิณ" สั่งเอ็กซิมแบงก์ให้เงินกู้พม่า มิ.ย.นี้


เว็บไซต์แนวหน้า - นายสัก กอแสงเรือง โฆษกคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการไต่สวนกรณีธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) หรือเอ็กซิมแบงก์ ปล่อยกู้ให้รัฐบาลพม่า เปิดเผยว่า จากการที่คตส.มีมติส่งฟ้องพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กระทำความผิดในคดีดังกล่าวต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเอง พร้อมกับมีมติให้อัยการสูงสุดคืนสำนวนให้กับคตส.นั้น ปรากฎว่าล่าสุดเมื่อวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมาอัยการสูงสุดได้ส่งสำนวนคดีดังกล่าวคืนให้กับคตส.แล้ว โดยทางคตส.จะส่งสำนวนให้กับทีมทนายความจากสภาทนายความที่คตส.มอบหมายให้ดูแลสำนวนและการส่งฟ้องคดีดังกล่าว ไปพิจารณารายละเอียดของสำนวน คาดว่าไม่น่าเกินกลางเดือนมิ.ย. คตส.จะสามารถยื่นฟ้องต่อศาลได้


 


"สมัคร"แจงกกต.ยันไม่เคยรับเงินเดือน


เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ - นางสดศรี สัตยธรรม กกต.ด้านกิจการพรรคการเมือง เปิดเผยว่า นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ทำหนังสือแจ้งให้ กกต.ทราบว่า ยินดีมาชี้แจงข้อกล่าวหากรณีที่ถูกกล่าวหาเป็นลูกจ้างจัดรายการ "ชิมไปบ่นไป" แต่ยังไม่ได้กำหนดวันชัดเจน ทั้งนี้ นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต.ได้แจกสำเนาเอกสารการชี้แจงของนายสมัคร ให้กรรมการแต่ละคนดูเรียบร้อยแล้ว โดยนายสมัครได้ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา พร้อมยืนยันว่า ไม่ได้เป็นลูกจ้างหรือรับจ้างใดๆ ให้กับบริษัทเฟรช มีเดีย แต่เคยเป็นแค่พิธีกรกิตติมศักดิ์ ที่ได้รับการเชิญมาแต่ละครั้ง และยืนยันว่าไม่เคยได้รับเงินเดือนใดๆ ทั้งสิ้น


ส่วนประเด็นที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา ซึ่งเป็นผู้ยื่นเรื่องตรวจสอบ ระบุว่าได้ส่งหลักฐานให้ กกต.เพิ่มเติม เป็นบทสัมภาษณ์ของนายสมัครที่ลงในนิตยสารสกุลไทย โดยยอมรับว่าได้รับเงินเดือน 80,000 บาท ยังไม่เห็นเรื่องนี้ แต่เบื้องต้นนายกฯ ยอมรับว่า ได้รับจัดรายการในช่วงก่อนเป็นผู้ว่าฯ กทม.ทั้งนี้ กระบวนการสอบสวนทั้งหมด จะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของคณะอนุกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงและประสานขอข้อมูลหลักฐานการทำสัญญาไปที่กระทรวงแรงงานและกระทรวงพาณิชย์ด้วย หากพบว่าขาดคุณสมบัติการดำรงตำแหน่งจริงก็ต้องส่งศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัย


"จักรภพ" โผล่งานวันเกิด "วีระ" แย้มรอฟังจันทร์นี้


เว็บมติชน - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางมาร่วมงานวันคล้ายวันเกิดของนายวีระ มุสิกพงศ์ อดีตแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปก.) เมื่อหัวค่ำวันที่ 23 พ.ค.51 ที่อิมแพค เมืองทองธานี หลังจากที่เก็บตัวมาหลายวันในการเตรียมตัวชี้แจงข้อกล่าวหาหมิ่นเบื้องสูง


 


นายจักรภพ กล่าวว่า จะแถลงรายละเอียดวันจันทร์ที่ 26 พ.ค.นี้ เวลา 14.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาลแน่นอน เพราะเรื่องที่ตนถูกกล่าวหานั้น ไม่ชี้แจงไม่ได้ ซึ่งการชี้แจงต้องให้รู้ว่า ใครมีเจตนากล่าวหาตนอย่างไร และวันดังกล่าวอาจมีการตัดสินใจทางการเมืองครั้งสำคัญ ว่าจะออกหรือไม่ออกจากตำแหน่งรัฐมนตรี


 


"เรื่องแบบนี้ไม่ชี้แจงไม่ได้ แต่ขณะเดียวกันการชี้แจงต้องสมบูรณ์ และรู้ทันทีว่า ใครกำลังพยายามทำอะไรอยู่" นายจักรภพ กล่าว และว่า เรื่องนี้ได้ปรึกษานักการเมืองอาวุโสหลายคน และตนอยากเล่นการเมืองอยู่


 


กลุ่มมหาประชาชนฯ ลั่นไม่มีระดมคนขวางพันธมิตรฯ แค่จับตาเฝ้าระวัง


เว็บไซต์แนวหน้า - ที่รัฐสภา นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ ส.ส.นครราชสีมา พรรคพลังประชาชน ในฐานะแกนนำกลุ่มมหาประชาชนพิทักษ์ประชาธิปไตย ภาคอีสานกล่าวถึงกรณีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นัดชุมนุมใหญ่ ต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญวันที่ 25 พ.ค.นี้ว่าทางกลุ่มเพื่อวิเคราะห์สถานการณ์เห็นว่าเป็นสิทธิที่พันธมิตรฯจะกระทำได้ เพียงขอเรียกร้องให้มีการชุมนุมอยู่ภายใต้กรอบกติกาของกฎหมาย ทั้งนี้ ทางกลุ่มจะมีติดตามเฝ้าระวังประเด็นในการเคลื่อนไหว หากมีการบิดเบือนข้อมูลที่ไม่เป็นจริง เราก็พร้อมชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนเพราะไม่ต้องการให้เกิดความเข้าใจที่ผิด


 



โปรดเกล้าฯ เสรีพิศุทธ์พ้นตำแหน่งผบ.ตร.แล้ว


เว็บมติชน - วันที่ 23 พฤษภาคม 2551 ผู้สื่อข่าวรายจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่า มีประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องให้ข้าราชการตำรวจพ้นจากตำแหน่ง ด้วยสำนักนายกรัฐมนตรี มีคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 73/2551 ลงวันที่ 8 เมษายน พ.ศ.2551 ให้พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ข้าราชการตำรวจ ตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ออกจากราชการไว้ก่อนตั้งแต่วันที่ 8 เมษายน พ.ศ.2551 เนื่องจากถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวน และนายกรัฐมนตรีได้เห็นชอบนำความขึ้นกราบบังคมทูลโปรดเกล้าฯ ให้พ้นจากตำแหน่งตั้งแต่เมื่อวันที่ 8 เมษายน พ.ศ.2551 ซึ่งเป็นวันที่มีคำสั่งให้ออกจากตำแหน่ง และนำความขึ้นกราบบังคมทูลโปรดเกล้าฯ ให้พ้นจากตำแหน่งต่อไปแล้ว


 


บัดนี้ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส พ้นจากตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติตั้งแต่วันที่ 8 เมษายน พ.ศ.2551 ประกาศ ณ วันที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ.2551 นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ


 


เศรษฐกิจ


 


"หมัก" ไม่ผูกมัดขายข้าว "ฟิลิปปินส์อยากซื้อให้ผ่านระบบช่องการทูต


เว็บไซต์แนวหน้า - นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงภายหลังเดินทางเยือนประเทศฟิลิปปินส์ ถึงการหารือเรื่องการซื้อข้าวว่าได้มีการชี้แจงถึงความเข้าใจผิดที่ทางฟิลิปปินส์เข้าใจว่า ไทยเอาพื้นที่ปลูกข้าวไปปลูกปาล์มน้ำมัน และได้ยืนยันทางประเทศไทยมีการปลูกข้าวที่เป็นมาตรฐานและจะปลูกกันต่อไป ไม่ประกาศห้ามส่งออก เพราะแน่ใจว่า ผลผลิตของเรามากพอที่จะอุดหนุนคนต่างชาติได้และไม่มากเกินไปจนทำให้ราคาตกต่ำ ทั้งนี้ทางฟิลิปปินส์ต้องการซื้อข้าวราคาถูก เพราะเขาไม่พอ ซึ่งเราได้บอกกับเขาว่าทางมาเลเซียได้ติดต่อขอซื้อข้าวผ่านทางทูต เราก็จัดการให้ และเราก็ใช้ราคาตลาดเป็นหลัก เป็นราคาสำหรับเพื่อนบ้านอาเซี่ยนด้วยกัน เราจะไม่มีการผูกมัดอะไร แต่ถ้าเขาขาดเราจะช่วยได้ทันทีโดยใช้ระบบผ่านการทูตแบบ จีทูจี


 


ฮือต้าน "ทักษิณ" ดึงทุนนอกทำนา


เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ - เครือข่ายเกษตรกรทั่วประเทศลุกฮือต้าน "ทักษิณ" ดึงต่างชาติยึดอาชีพชาวนาไทย ผู้อำนวยการมูลนิธิไบโอไทยหวั่นอีก 2-3 ปีเกิดวิกฤติแย่งที่ดินทำกินรุนแรงทั่วประเทศหากตกไปอยู่ในมือกลุ่มทุนต่างชาติ เผยบริษัทรับจ้างทำนาลุกลามหลายจังหวัดแล้ว ขณะที่รมว.เกษตรฯประกาศคัดค้านถึงที่สุด ชี้เป็นแนวคิดขายชาติ เตือนให้สำนึกแนวคิด "ในหลวง" ปชป.ดักคออดีตนายกฯ อย่าหาประโยชน์บนวิกฤติบ้านเมือง


 


บังคลาเทศดึงไทยลงทุนสารพัดอุตฯเน้นรถ-ถนน-ไฟฟ้า


เว็บไซต์แนวหน้า - นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ รมช.พาณิชย์ กล่าวภายหลังการเข้าพบของกลุ่มนักธุรกิจบังคลาเทศ ว่า นักธุรกิจบังคลาเทศชวนให้ไทยเข้าไปลงทุนในอุตสาหกรรมรถยนต์ การก่อสร้างถนนและทางด่วน น้ำตาลทราย ฟาร์มกุ้ง โรงงานผลิตไฟฟ้าเพราะบังคลาเทศมีแหล่งก๊าซธรรมชาติจำนวนมาก และอุตสาหกรรมสิ่งทอ ซึ่งบังคลาเทศสามารถใช้เป็นประตูการค้าไปสู่อินเดียได้ ซึ่งจะช่วยขยายตลาดสิ่งทอของไทยได้มากเพราะอินเดียเป็นตลาดใหญ่ รวมทั้งจะได้รับสิทธิพิเศษทางการค้าและภาษีจากประเทศในกลุ่มอาหรับด้วย โดยทั้ง 2 ฝ่ายตั้งเป้าว่าจะผลักดันการค้าระหว่างกันให้ขยายตัวสูงขึ้นจาก 500 ล้านเหรียญสหรัฐ ในปัจจุบัน เป็น 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐในอีก 5 ปีข้างหน้า


 


นายวิรุฬ ระบุว่า สำหรับการเข้าไปลงทุนก่อสร้างทางด่วนและทางยกระดับในกรุงธากาของบังคลาเทศ มูลค่า 2.1 พันล้านเหรียญสหรัฐ ขณะนี้มีบริษัทไทย คือ บริษัท ช.การช่าง จำกัด และบริษัท อิตาเลียนไทย จำกัด เข้าร่วมประมูล แข่งกับบริษัทของมาเลเซีย คาดว่าอีก 1-2 เดือนรัฐบาลบังคลาเทศจะประกาศรายชื่อผู้ชนะการประมูล


 


ปตท.สุดอั้น! ประกาศขึ้นเบนซินอีก 50 สตางค์พรุ่งนี้


เว็บไซต์แนวหน้า - ผู้ค้าน้ำมันบริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน) ประกาศปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันเบนซินลิตรละ50 สตางค์ และดีเซลลิตรละ 70 สตางค์ มีผล 05.00 น.พรุ่งนี้ เนื่องมาจากสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ปรับตัวขึ้นสูงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ค่าตลาดติดลบถึงกว่าลิตรละ 3 บาท ทั้งนี้ราคาน้ำมันภายหลังการปรับขึ้นของ ปตท.เป็นดังนี้ เบนซิน ออกเทน95 อยู่ที่ลิตรละ 39.59 บาท เบนซินออกเทน91 อยู่ที่ลิตรละ 38.49 บาท แก็สโซฮอล์95 อยู่ที่ลิตรละ 35.59 บาท เท่าผู้ค้าน้ำมันทุกราย ขณะที่ราคาน้ำมันดีเซลปรับขึ้นไปอยู่ที่ลิตรละ 36.64 บาท ถูกกว่าของบริษัทเชลล์ลิตรละ 1 บาท แต่ยังคงสูงกว่าของบริษัทบางจาก ลิตรละ20 สตางค์



 


คุณภาพชีวิต


 


"บัวแก้ว" โวยดัชนีสงบสุขมั่ว โบ้ยข้อมูลไม่ถูกต้อง


เว็บมติชน - นายธฤต จรุงวัฒน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงการจัดอันดับดัชนีความสงบสุขโลก (จีพีไอ) ซึ่งไทยอยู่รั้งท้ายในอาเซียนยกเว้นพม่า โดยตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับความน่าเชื่อถือและวิธีการที่นำมาใช้ เนื่องจากไม่แน่ใจว่านำข้อมูลใดมาพิจารณาและเป็นข้อมูลที่ถูกต้องหรือไม่ เพราะเป็นไปได้น้อยมากที่จะเป็นข้อมูลล่าสุดจากทั้ง 140 ประเทศ นอกจากนี้ ยังไม่มีการเก็บข้อมูลในพื้นที่โดยตรง รวมทั้งไม่แยกแยะข้อแตกต่างของสถานการณ์ในแต่ละพื้นที่ อาทิ การนำตัวเลขความเสียหายจาก 3 จังหวัดชายแดนใต้ไปใช้ในการวัดความรุนแรงทั้งประเทศทั้งที่จังหวัดอื่นๆ ประชาชนยังใช้ชีวิตอย่างปกติสุข ขณะที่สถาบันอื่นที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากล อาทิ ไอเอ็มดีของสวิตเซอร์แลนด์ ก็เพิ่งปรับอันดับความสามารถในการแข่งขันของไทยให้ดีขึ้นถึง 6 ตำแหน่ง และไทยยังได้รับการจัดอันดับให้เป็นประเทศที่น่าท่องเที่ยวจากสถาบันต่างๆ ในยุโรปอีกด้วย


 


คนจนอ่วม!! ศาลฯเลื่อนตัดสินขึ้นค่ารถโดยสาร


เว็บไซต์สยามรัฐ - วันนี้(23พ.ค.51) นายบุญชัย รุ่งเรืองไพศาลสุข ประธานเครือข่ายคัดค้านขึ้นค่าโดยสารรถสาธารณะ กล่าวว่า ศาลปกครองกลางยังไม่มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวให้ระงับการปรับขึ้นค่ารถโดยสารสาธารณะในวันที่ 25 พ.ค.นี้ตามคำร้องของประธานเครือข่ายคัดค้านขึ้นค่าโดยสารรถสาธารณะ โดยเรียกผู้บริหาร ปตท.และประธานบอร์ดควบคุมการขนส่งทางบกกลางมาให้ปากคำต่อในวันที่ 26 พ.ค.นี้


 



"ศาลฯนัดไต่สวนต่อวันจันทร์ (26 พ.ค.) จะให้นายปิยะพันธ์ จัมปาสุต และผู้บริหาร ปตท.มาชี้แจง" นายบุญชัย กล่าว


 



ทั้งนี้ นายบุญชัย ได้ยื่นฟ้องคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลาง, นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมว.คมนาคม และ นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.คมนาคม ต่อศาลปกครองกลาง เนื่องจากเห็นว่าการอนุมัติให้ปรับขึ้นค่ารถโดยสารสาธารณะเป็นไปโดยไม่ชอบและไม่มีเหตุผล เพราะมีผู้ประกอบการจำนวนมากได้เปลี่ยนเครื่องยนต์มาใช้ก๊าซเอ็นจีวีเป็นเชื้อเพลิง อีกทั้งผู้ที่รับผิดชอบไม่ได้คำนึงถึงความเดือดร้อนของประชาชน


 



นายบุญชัย กล่าวว่า กรมการขนส่งทางบกแจ้งยอดรถโดยสารที่ปรับเปลี่ยนไปใช้ก๊าซเอ็นจีวีเป็นเชื้อเพลิงต่ำกว่าความเป็นจริงมาก โดยรถร่วม ขสมก.ตอนแรกแจ้งว่ามี 100 คัน แล้วมาขอเปลี่ยนเป็น 500 คัน แต่ทาง ปตท.แจ้งว่ามี 1,600 คัน ขณะที่รถร่วม บขส.แจ้งว่ามี 90 คัน แต่ ปตท.แจ้งว่ามี 720 คัน



ขณะที่ ก.คมนาคม เดินหน้าให้ขึ้นค่าโดยสารรถในวันที่ 25 พ.ค.นี้


 


ต่างประเทศ


 


พม่ายอม "ยูเอ็น" เปิด จนท.บรรเทาทุกข์นานาชาติเข้าช่วยเหลือเหยื่อนาร์กีสในทุกพื้นที่


เว็บมติชน - เมื่อวันที่ 23 พ.ค. สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานความคืบหน้าในความพยายามของนายบัน คี มุน เลขาธิการสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ที่จะให้ความช่วยเหลือต่อผู้ประสบภัยไซโคลนนาร์กีส ในพม่า ซึ่งยูเอ็นระบุว่ายังมีอีกเป็นจำนวนมากที่ยังไม่ได้รับความช่วยเหลือ ว่านายบันประสบความสำเร็จอย่างงดงามในการพบหารือกับ พล.อ.อาวุโสตาน ฉ่วย เลขาธิการสภาเพื่อสันติภาพและการพัฒนา (เอสพีดีซี) ผู้นำสูงสุดของพม่า เมื่อได้รับคำสัญญาอย่างชัดเจนจากผู้นำพม่าให้บรรดาผู้เชี่ยวชาญและเจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์เข้าไปปฏิบัติหน้าที่ในพม่าได้ โดยไม่จำกัดว่าจะถือสัญชาติใด และยินยอมให้ใช้ท่าอากาศยานนครย่างกุ้ง เป็นศูนย์กลางในการลำเลียงอาหารและสิ่งของบรรเทาทุกข์ไปยังทุกพื้นที่ที่ประสบภัย รวมทั้งที่ราบลุ่มสามเหลี่ยมปากแม่น้ำอิรวดีที่เสียหายอย่างหนัก


 


ศาลโลกให้สิงคโปร์ชนะคดีแย่งเกาะ


เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ - ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศในกรุงเฮก ตัดสินคดีพิพาทระหว่างมาเลเซียกับสิงคโปร์ที่มีมานานกว่า 28 ปี ในการเป็นเจ้าของเกาะเปดรา บรังกา หรือที่มาเลเซียเรียกว่าปูเลา บาตู ปูเตะห์ ซึ่งมีพื้นที่เพียงแค่ครึ่งสนามฟุตบอลขนาดมาตรฐาน แต่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์และมีผลกระทบต่อการแบ่งเขตน่านน้ำ ศาลตัดสินด้วยคะแนนเสียง 12 ต่อ 4 ให้สิงคโปร์เป็นเจ้าของเกาะดังกล่าว เพราะมีอำนาจอธิปไตยเหนือเกาะนี้มาตั้งแต่ปี 2394 พร้อมตัดสินให้เกาะเล็กๆ 2 เกาะเป็นของมาเลเซีย ด้านมาเลเซียและสิงคโปร์ ระบุว่า ผลการตัดสินของศาลจะไม่ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศ



 


จีนคาดใช้เวลา3ปีฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัย


เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ - ทางการจีนกล่าววานนี้ (23 พ.ค.) ว่า จะต้องใช้เวลาถึง 3 ปีในการฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยแผ่นดินไหว ซึ่งเป็นหายนะภัยร้ายแรงที่สุดในรอบกว่า 30 ปีของประเทศ พื้นที่ที่ได้รับความเสียหายกินบริเวณ 100,000 ตร.กม. และทำลายอาคารบ้านเรือนทั่วพื้นที่ ซึ่งมีขนาดเท่าเกาหลีใต้ โดยเจ้าหน้าที่ระบุว่าอาคารบ้านเรือน 5.46 ล้านหลังพังทลาย ผู้คนกว่า 5.47 ล้านคนไร้ที่อาศัย


 



รัฐบาลตั้งงบ 70,000 ล้านหยวนไว้สำหรับการฟื้นฟู พร้อมระบุว่า จะควบคุมราคาวัสดุก่อสร้างในพื้นที่ประสบภัย ไม่ว่าจะเป็นเหล็ก ปูน แก้ว หรือเต็นท์ ทั้งยังมีข่าวว่าจะมีการออกลอตเตอรีเพื่อระดมเงินไปบรรเทาทุกข์ด้วย


 



นายหลี่ เฉิงหยุน รองผู้ว่าการมณฑลเสฉวน เตือนว่าประชาชนหลายล้านคนที่ไร้ที่อยู่อาศัย เผชิญความเสี่ยงจะเป็นโรค และต้องการเต็นท์ รวมถึงยารักษาโรคอย่างมาก ทั้งนี้ จีนได้ร้องขอเต็นท์ 3.3 ล้านหลัง จากประเทศต่างๆ พร้อมสั่งสร้างบ้านทำด้วยวัสดุขนาดเบาขึ้น 1 ล้านหลัง ภายใน 3 เดือน แต่นายหลี่ชี้ว่าการสร้างชุมชนต้องใช้เวลานานกว่านั้น รวมถึงการเยียวยาบาดแผลทางจิตใจ


 



"แผ่นดินไหวทำให้ภูเขาสั่นคลอน จนเกิดโคลนถล่ม ซึ่งทำให้การก่อสร้างสิ่งต่างๆ ยากลำบากมากขึ้นกว่าก่อนเกิดแผ่นดินไหว" นายหลี่ระบุ


 



ตำรวจ กล่าวว่า สามารถช่วยชีวิตคู่สามีภรรยาวัย 92 และ 84 ที่ติดอยู่ในกระท่อมบนภูเขานาน 11 วันมาได้ ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดอยู่ที่ 55,740 คน สูญหาย 24,949 คน บาดเจ็บ 281,066 คน


 



ส่วนองค์กรเซฟ เดอะ ชิลเดรน ระบุว่า แผ่นดินไหวที่จีนเป็นหายนะครั้งร้ายแรงที่สุดสำหรับเด็กในโลก ในรอบ 7 ปี เพราะทารก เด็ก และวัยรุ่น 3 ล้านคนได้รับผลกระทบอย่างร้ายแรง เด็กกว่า 10,000 คน เสียชีวิตเมื่อโรงเรียนหลายแห่งพังครืนลงมาหรือถูกฝังอยู่ใต้ซาก และเด็กอย่างน้อย 4,727 คน ต้องกำพร้า ทั้งยังมีอีกหลายล้านคนที่สูญเสียบ้าน หรือไม่สามารถไปโรงเรียนได้


 



เซฟ เดอะ ชิลเดรน ซึ่งขอความช่วยเหลือเพื่อนำไปช่วยเหลือเด็กมูลค่า 1-5 ล้านดอลลาร์ กล่าวว่าผลกระทบที่มีต่อเด็กนับว่าเลวร้ายที่สุด ตั้งแต่แผ่นดินไหวที่คุชราฎในปากีสถานเมื่อปี 2544 อย่างไรก็ตาม มีหลายคนที่เสนอขอรับเด็กกำพร้าจากแผ่นดินไหวในจีนไปเลี้ยง

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net