Skip to main content
sharethis


 



อาสาสมัครกรีนพีซร่วมกันสร้างค่ายปกป้องสภาพภูมิอากาศ ด้านหน้าโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินในเมืองอิโลอิโล ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อ 13 มิ.ย. ที่ผ่านมา เพื่อเรียกร้องให้ยกเลิกโครงการดังกล่าว โดยพวกเขาระบุว่าการเผาผลาญถ่านกินเป็นตัวการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และทำให้เกิดภาวะโลกร้อน (ที่มาของภาพ: Greenpeace/Vinai Dithajohn)


 


วันนี้ (16 มิ.ย.) อาสาสมัครกรีนพีซในค่ายปกป้องสภาพภูมิอากาศเทถ่าน 20 กระสอบหน้าเมโทรแบงค์ ซึ่งเป็นธนาคารที่สนับสนุนโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินแห่งใหม่ที่เมืองอิโลอิโล เพื่อต่อต้านข้อเสนอโครงการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินแห่งใหม่นี้ ต่อเนื่องจากกิจกรรมตั้งค่ายปกป้องสภาพภูมิอากาศตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมา และกิจกรรมรวบรวมรายชื่อผลักดันให้เมโทรแบงค์จัดสรรงบประมาณให้กับพลังงานหมุนเวียนและก้าวสู่การปฏิวัติพลังงานที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อวานนี้


 


อาสาสมัครกรีนพีซจากค่ายปกป้องสภาพภูมิอากาศร่วมส่งข้อความ "หยุดถ่านหิน กู้วิกฤตโลกร้อน" หน้าธนาคารเมโทรแบงค์ สาขาลูน่า เพื่อให้ธนาคารล้มเลิกการสนับสนุนงบประมาณเพื่อก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน ทั้งนี้ ธนาคารเมโทรแบงค์เป็นเจ้าของธุรกิจร่วมกับบริษัท Global Business Power Corp (GBPC) และบริษัท Panay Power Corp (PPC) ในการผลักดันพลังงานสกปรกเข้าสู่เมืองอิโลอิโลและเมืองโตเลโดใกล้เกาะเซบู


 


อาสาสมัครกรีนพีซใช้ถ่านไม้ในการประกอบกิจกรรมแทนการใช้ถ่านหิน เนื่องจากมีความปลอดภัยสูงกว่าถ่านหินที่ใช้กันทั่วไปในโรงงานผลิตไฟฟ้า เมื่อถูกเผา ถ่านหินจะปล่อยสารพิษหลายชนิดที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของมนุษย์และชุมชนที่ตั้งอยู่ใต้ลม นอกจากนี้ยังเป็นตัวการหลักที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ปัญหาใหญ่ที่โลกเรากำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบัน


 


"ธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในฟิลิปปินส์อย่างเมโทรแบงค์กำลังกลายเป็นผู้ทำลายสภาพภูมิอากาศรายใหญ่ที่สุดของประเทศด้วยเช่นกัน ถ่านหินเป็นที่ทราบโดยทั่วไปว่าก่อให้เกิดผลกระทบที่ร้ายแรงต่อสุขภาพของมนุษย์ เมโทรแบงค์ควรผนวกข้อเสียนี้ไว้ในการพิจารณาอนุมัติเงินสนับสนุนเทคโนโลยีอันตรายดังกล่าว เนื่องจากจะทำให้อนาคตของโลกตกอยู่ในความเสี่ยง ซึ่งนั่นหมายความว่าการลงทุนดังกล่าวไม่มีประสิทธิภาพ ขาดความรับผิดชอบและไม่คำนึงถึงผลกระทบโดยรวม" นายแจสเปอร์ อินเวนเตอร์ ผู้ประสานงานรณรงค์ด้านพลังงานและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าว


 


อาสาสมัรกรีนพีซตั้งค่ายปกป้องสภาพภูมิอากาศในบาลานเก อินกอร์, ลาปาซ เมืองอิโลอิโล ตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว ค่ายดังกล่าวได้รวมกลุ่มชุมชนใกล้เคียงและกลุ่มผู้ต่อต้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าในพื้นที่ นอกจากนี้ยังเป็นศูนย์กลางในการสร้างการมีส่วนร่วมของชุมชน เผยแพร่ข้อมูลผลกระทบของโรงไฟฟ้าถ่านหินและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รวมทั้งทางออกที่ยั่งยืนอย่างพลังงานหมุนเวียน ขณะนี้อาสาสมัครกรีนพีซยังคงทำกิจกรรมรณรงค์อยู่ในค่ายแม้มีการเผชิญหน้ากับบริษัท PPC และ GBPC และยกระดับการต่อสู้โดยการเรียกร้องแหล่งเงินกู้ที่อยู่เบื้องหลังโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินที่ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากนี้


 


ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากโรงไฟฟ้าถ่านหินเป็นตัวการสำคัญของปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและเป็นสัดส่วนที่มากที่สุดของก๊าซเรือนกระจกที่ถูกปล่อยออกมาจากทั่วโลก 72 เปอร์เซ็นต์ของการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของทั่วโลกมาจากภาคพลังงาน ในประเทศฟิลิปปินส์อย่างเดียวมีโรงไฟฟ้าถ่านหินทั้งหมด 8 แห่ง มีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวมกันทั้งสิ้น 4,177 เมกะวัตต์ หรือคิดเป็น 26.1 เปอร์เซ็นต์ของกำลังผลิตติดตั้งของประเทศ ทั้งนี้ 36 เปอร์เซ็นต์มาจากภาคพลังงาน แต่อย่างไรก็ตามประเทศฟิลิปปินส์ยังมีแผนสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินเพิ่มขึ้นอีก 9 แห่ง ทั้งๆ ที่รัฐบาลฟิลิปปินส์ได้ประกาศว่าฟิลิปปินส์เป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก


 


"ฟิลิปปินส์เป็นประเทศที่มีความเสี่ยงต่อผลกระทบจากภาวะโลกร้อนมาก อย่างเช่น การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศอย่างฉับพลันและการเพิ่มขึ้นของน้ำทะเล เราจึงต้องการการสนับสนุนจากทางบริษัทต่างๆด้วยเช่นกัน นอกเหนือจากการสนับสนุนจากรัฐบาลที่ไม่สนใจข้อมูลทางวิทยาศาสตร์และยืนยันที่จะขยายการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินอีก กรีนพีซเชื่อว่าเมโทรแบงค์สามารถเป็นหนึ่งในตัวแทนของภาคเอกชนในการต่อสู่เพื่อปกป้องสภาพภูมิอากาศโดยการล้มเลิกโครงการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน" นายอินเวนเตอร์ กล่าวเสริม


 


เรือเรนโบว์ วอร์ริเออร์ ซึ่งเป็นเรือธงของกรีนพีซ กำลังอยู่ระหว่างการรณรงค์ "หยุดถ่านหิน กู้วิกฤตโลกร้อน" ในเอเชียแปซิฟิก ที่ประเทศฟิลิปปินส์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อผลักดันให้ภูมิภาคนี้ก้าวสู่การปฏิวัติพลังงานและยุติการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยหยุดการใช้ถ่านหินและสนับสนุนการใช้พลังงานหมุนเวียนให้เป็นทางออกที่ยั่งยืน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net