เมื่อเวลา 18.00 น. วานนี้ (18 ส.ค.) ชาวบ้านหมู่ที่ 1 ตำบลแม่รำพึง อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จำนวนกว่า 150 คน ได้รวมตัวกันที่ทำการผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1 เพื่อยื่นหนังสือคัดค้านการขอเช่าทางสาธารณะ เพื่อใช้ในการก่อสร้างโครงการโรงถลุงเหล็กของเครือสหวิริยา โดยมีนายสมหวัง พิมสอ เป็นตัวแทนยื่นหนังสือ ซึ่งมีผู้ใหญ่ท้วม พิมสอ และ นายสมชาย นพรัตน์ เป็นผู้รับหนังสือ

นายสมหวัง พิมสอ ชาวบ้านในพื้นที่ ได้กล่าวว่า ชาวบ้านทั้งหมดได้ร่วมกันแสดงเจตนารมณ์ไม่เห็นด้วยกับที่กลุ่มทุนของเครือสหวิริยา ที่จะขอเช่าใช้ทางสาธารณะของหมู่ 1 และหมู่ที่ 7 ตำบลแม่รำพึง เพราะทางสาธารณะนี้ชาวบ้านได้ใช้ประโยชน์มาเป็นเวลาช้านานในการพาสัตว์เลี้ยงไปหากิน และใช้เพื่อเป็นทางสัญจรของชาวบ้าน และทุกวันนี้ก็ยังการใช้ประโยชน์อยู่อย่างต่อเนื่อง รวมระยะทางทั้ง 3 เส้นทางเป็นจำนวนกว่า 2 กิโลเมตร โดยบริษัทได้ขอเช่าใช้เพื่อประโยชน์ในการดำเนินธุรกิจส่วนตัวของกลุ่มทุน และเราก็ไม่ขอเปลี่ยนทางเส้นใหม่ตามที่บริษัทเสนอ เพราะไม่มีความสะดวก

"ชาวบ้านทั้งหมดที่ใช้ประโยชน์ในทางสาธารณะไม่เห็นด้วยและไม่ยอมทุกกรณีที่กลุ่มทุนจะขอเช่าใช้ทาง เพราะนอกจากชาวบ้านจะเดือดร้อนแล้วสิ่งที่จะเข้ามาปลูกสร้างคือบ่อขยะพิษของโครงการโรงถลุงฯ ซึ่งจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อชุมชนเรา โดยเฉพาะในอนาคตอาจจะต้องย้ายวัด ย้ายโรงเรียนอีกหลายแห่งในละแวกใกล้เคียง ดังนั้นตนและชาวบ้านทั้งหมดของหลายหมู่บ้านที่เดือดร้อนจะยื่นคัดค้านไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกหน่วยภายในสองวันนี้อย่างแน่นอน" นายสมหวังกล่าว

ต่อกรณีเรื่องการขอใช้ที่สาธารณะของเครือสหวิริยาที่ผ่านมา ได้มีชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์แม่รำพึงยื่นหนังสือคัดค้านต่อหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องมาก่อน เนื่องจากการตรวจสอบของชาวบ้านพบว่าบริษัทในเครือสหวิริยาได้มีการบุกรุกที่สาธารณะในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าคลองแม่รำพึง ในการก่อสร้างโรงรีดร้อน และท่าเรือน้ำลึก เป็นจำนวนกว่า 1,000 ไร่ ซึ่งตอนนี้กำลังถูกกรมที่ดินออกคำสั่งให้ตั้งคณะกรรมการเพิกถอนเอกสารสิทธิ์อยู่เป็นจำนวนมาก นอกจากนั้นยังมีการนำที่ดินของรัฐไปค้ำประกันเงินกู้ต่อธนาคารนครหลวงไทย เป็นจำนวน ๙๗๑ ล้านบาท ดังนั้นการใช้ประโยชน์ในที่ดินของบริษัทที่ผ่านมาจึงเป็นไปอย่างไม่โปร่งใสในการดำเนินโครงการ ซึ่งชาวบ้านได้เรียกร้องให้หน่วยานที่เกี่วข้องเข้ามาทำการตรวจสอบพร้อมทั้งคัดค้านการใช้ประโยชน์ในทางสาธารณะที่อื่นเพื่อก่อสร้างโครงการใหม่ของเครือสหวิริยาด้วย