Skip to main content
sharethis


30 ต.ค.51   เมื่อเวลา 18.00 น. ที่ตึกพีซีซี ถนนเลียบคลองประปา พล.อ. ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี แถลงข่าวว่า การที่ออกมาพูดวันนี้ เพราะจะมีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นในอีก 1-2 วัน โดยเรื่องที่ตนจะพูดมี 3 ประเด็นคือ 1 .สถานการณ์ วันที่ 6-7 ต.ค. 2 . สถาบัน และ 3 .แนวทางการแก้ไขปัญหาของชาติ เพราะประชาชนอึดอัดหาทางออกไม่ได้

 



สำหรับสถานการณ์วันที่ 6-7 ตนอยากจะพูดว่าตนรับผิดชอบในเรื่องนี้ไปแล้วอย่างชัดเจน ตนเรียนนายกฯไปว่าเห็นการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่สร้างความเสียหายและเจ็บปวด ซึ่งตนทราบกันดีกว่าไม่มีใครประสงค์ให้เกิดเหตุนี้ขึ้นมา ทุกคนใช้ความพยายาม ถ้าจะผิดก็ไม่ได้ตั้งใจจริงๆ ตนขอรับผิดชอบในสิ่งนี้ ตนไม่ได้ต้องการจะมาพูดขัดแย้งกับใครแต่ต้องการจะเพิ่มข้อมูล โปรดให้ความเห็นใจกับทุกฝ่ายไม่ว่าจะเป็น พธม.รัฐบาล หรือเจ้าหน้าที่ มีกันแค่นี้ ทุกคนตั้งใจแก้ปัญหาอย่างดีที่สุด


 



พล.อ.ชวลิต กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องสถาบัน ตอนนี้มีข้อมูลในสิ่งที่เกิดความไม่สบายใจ มีการวิเคราะห์ว่าระบอบอำมาตยาธิปไตยขัดแย้งกับนายทุน พยายามจะพาดพิงสถาบันทำให้เราไม่สบายใจ


 



พล.อ.ชวลิต กล่าวต่อว่า การแก้ไขปัญหาในสถานการณ์ของชาติมีมาตลอด ในปี 2477 ก็เกิดปัญหาระดับผู้นำ จากนั้นก็มีปัญหาพรรคคอมมิวนิสต์ ตอนนี้เรามีปัญหาความขัดแย้ง ซึ่งแผ่ไปทั่วแผ่นดิน คนไทยแบ่งเป็น 2 ฝ่าย น่าห่วงใยที่สุด การแก้ไขปัญหามี 3 องค์กรคือ 1. พระมหากษัตริย์ 2. ทหาร 3. พรรคการเมือง หรือรัฐบาล รัฐบาลจึงจะปฏิเสธเรื่องนี้ไม่ได้ต้องเข้ามาแก้ไขปัญหาโดยสร้างรัฐบาลที่สะท้อนออกในการแก้ไขปัญหา


 



"ตอนนี้เราขาดความปรองดอง รัฐบาลต้องสร้างรัฐบาลปรองดอง นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ต้องสร้างรัฐบาลนี้ ไม่ต้องไปฟังใคร เห็นแก่แผ่นดินและสถาบัน เห็นแก่ประชาชน ถ้าทำอย่างนี้ก็ปรับ ครม.สร้างรัฐบาลหาคนดีๆมาก็แก้ไขปัญหาได้ใน 1-2 เดือน ถ้าต้องการเป็นวีรบุรุษมีทางนี้ทางเดียวปัญหาจะจบและแก้ได้ในที่สุด"  พล.อ.ชวลิต กล่าว


 



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการแถลงข่าวของ พล.อ.ชวลิต ครั้งนี้ทีมงานของ พล.อ.ชวลิต ได้นำเอกสารชี้แจงเหตุการณ์วันที่ 7 ต.ค. โดยมีการเล่าถึงสถานการณ์ในวันที่ 6 ต.ค ความว่า "ที่มีประชาชนมาล้อมสภา ซึ่งอาจจะเกิดความเสียหาย แต่ยังไม่มีใครสั่งการอะไรมา จึงเกรงว่าจะเกิดความเสียหาย จึงได้หารือกับนายกรัฐมนตรีว่าควรจะย้ายสถานที่ประชุมสภา เพื่อเลี่ยงการปะทะกัน ท่านก็เห็นด้วยว่าจะไปใช้หอประชุมกานตรัตน์ กองทัพอากาศ ครม.ส่วนใหญ่เห็นด้วย แต่มีบางส่วนต้องการใช้รัฐสภา สุดท้ายเลขานายกฯได้ติดต่อไปที่ประธานสภาในการย้ายสถานที่ แต่ประธานสภาไม่เห็นชอบในการย้ายสถานที่ โดยนายกรัฐมนตรีได้มอบให้ตนเป็นผู้บัญชาการสถานการณ์ มีแนวทางปฏิบัติ 2 แนวทางคือ 1 รักษารัฐสภา 2 หาทางเปิดรัฐสภาให้สมาชิกเข้าไปร่วมงานแถลงนโยบาย ซึ่งทางตำรวจได้ประสานไปที่พันธมิตรขอเปิดทางแต่พันธมิตรไม่ยอม


 



ร่วมถึงการขอรถดับเพลิงจาก กทม.แต่ก็ไม่ได้รับการสนับสนุน ทางตำรวจจึงผลักดันพันธมิตรตรงประตูข้างรัฐสภาออกไป ตนเห็นด้วยกับตำรวจในการเปิดทางให้สมาชิกเข้าไปประชุม แต่ตนให้แนวทางเพิ่มเติมว่าหากเข้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เอาไว้ให้ฝ่ายการเมืองแก้ไขปัญหากันเอง จากนั้นตนก็เดินทางออกจาก บชน.ไป ตอนเช้าวันที่ 7 ต.ค.ตนทราบว่าตำรวจใช้แก๊ซน้ำตาจนประชุมได้ แต่ก็มีผู้บาดเจ็บ ตนจึงต้องแสดงความรับผิดชอบลาออกจากตำแหน่งรอนายกรัฐมนตรี"


 



เมื่อถามว่า ต้องรับผิดชอบหรือไม่การเสียชีวิตในการสลายการชุมนุม พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ความรับผิดชอบของตนแค่เวลา 08.00 น.ของวันที่ 7 ต.ค. 2551 หลังจากนั้นได้โทรศัพท์ถึงนายกรัฐมนตรีของรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ เพราะทำดีที่สุดแล้ว ซึ่งตนได้พูดต่อไปว่าการที่อยู่ร่วมกับรัฐบาล เรื่องต่าง ๆ ที่ตัดสินใจในครั้งแรกเป็นสิ่งที่ถูกต้อง แต่ต่อมาไปเสียงคนอื่นแล้วจะได้ข้อสรุปที่ผิดพลาด จึงขอร้องว่าอย่าทำอย่างนี้ขอให้ยึดการตัดสินใจในครั้งแรกเป็นสิ่งที่ถูกต้อง และได้บอกว่าเสียแขน เสียขา เพื่อให้รัฐบาลอยู่รอด ตนก็ยินดีอย่างนั้น ทั้งนี้ตนยอมรับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น


 



เมื่อถามว่า การลาออกเหมือนเป็นการทิ้งรัฐบาล พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ตนจะออกตั้งแต่วันที่ 1-2 ต.ค.ที่ผ่านมา เพราะนายกรัฐมนตรีเชิญตนมารับผิดชอบงานด้านความมั่นคง และหลังจากนั้นนายกรัฐมนตรีประกาศรับไปดูแลเอง และให้ตนไปดูกระทรวงศึกษาธิการ แต่ตนก็ปฏิเสธไป เพราะมีคนดูอยู่เยอะ แต่มาถึงบานนี้นายกรัฐมนตรีไม่เข้าใจก็ไม่เป็นไรก็กัดฟันอดทนอยู่ ไม่มีปัญหาอะไรยังผูกพัน และยังรักกันอยู่กับนายกรัฐมนตรี


 



เมื่อถามถึงเรื่องการปรับ ครม. เพื่อแก้ไขปัญหาบ้านเมือง พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า คงปรับไม่ได้ในการแก้ไขปัญหาเชิญ แต่จะต้องปรับหมดเลย หาคนดี ๆ จากทุกพรรคการเมืองเข้ามาแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง



เมื่อถามว่า มีการเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออก เนื่องจากถูกมองว่าเป็นนอมินีของอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ถ้าจะทำอย่างนี้แล้วจะเป็นนอมินีได้อย่างไร ดังนั้นตนอยากให้นายกรัฐมนตรีเปลี่ยนใจตั้งแต่คืนนี้แล้วจะเป็นวีรบุรุษของชาติ ทุกคนจะเชิญชม เพราะไม่มีเวลาแล้ว จะมานั่งพูดคุยกันแบบทุกวันนี้คงไม่ได้ เพราะทุกวันนี้คนในชาติจะตีกันตายอยู่แล้ว วันนี้เรามองสถานการณ์อย่างไม่สบายใจ เพราะทุกคนมีความห่วงใย และสถานภาพของประเทศตกต่ำ ขอให้นายกรัฐมนตรีทำตามที่ตนพูดเพราะไม่มีทางอื่น ถ้าไม่ทำแล้วใครจะมาทำ จะให้ประชาชนขึ้นมาทำก็คงวุ่นวายแบบนี้


 



เมื่อถามว่า บุคลิกนายกรัฐมนตรี จะสวนกระแสในการปรับ ครม.ได้หรือไม่ พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ไม่ใช่ลักษณะของนายกรัฐมนตรี แต่อยู่ที่ความคิดที่เป็นหลักการสำคัญ ถ้ามีเจตจำนงทำเพื่อแผ่นดินก็จะจบ ทั้งนี้ตนไม่ทราบว่าจะมีใบสั่งจากต่างประเทศหรือไม่ แต่ถ้าคืนนี้นายกรัฐมนตรีกลับใจ และจัดตั้งรัฐบาลใหม่เพื่อกู้ประเทศชาติ กู้แผ่นดิน โดยจะมาจากบุคคลทุกฝ่ายที่อยากจะมาแก้ไขปัญหาเพราะทุกคนก็มีความรู้


ทั้งนี้ เห็นว่านายกรัฐมนตรีจะต้องอยู่เป็นหลักไว้ก่อน ขอให้ใจเย็น ๆ ทั้งนี้ทุกคนมีหัวใจเพื่อชาติเพื่อแผ่นดิน ที่ผ่านมาสมัยบางระจันก็ยังทำได้ตอนนี้เลือดไทยแบบนั้นหายไปไหนหมด ตอนนี้ไม่ต้องนึกว่าใครจะเป็นฝ่ายค้าน หรือฝ่ายรัฐบาล ขอให้เอาบ้านเมืองอยู่รอดก่อน เอาบ้านเมืองรอดคือหัวใจ ทั้งนี้ยังไม่ได้พูดคุยกับ นายสมชาย ถึงเรื่องดังกล่าว


 



เมื่อถามว่า เป็นห่วงการโฟอินของ พงต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หรือไม่ เพราะเกรงจะเกิดวิกฤตของบ้านเมือง พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า อย่าเป็นอันขาด ใครก็แล้วแต่ทั้งในและนอกประเทศทำการใดเพื่อที่จะทำให้พี่น้องประชาชนเข้าใจผิดในกระบวนการทางด้านการเมือง ที่จะไปกระทบกับสถาบันต่าง ๆ โปรดอย่าทำ


 



เมื่อถามว่า จะบอก พ.ต.ท.ทักษิณ อย่าเข้ามายุ่งกับการเมืองไทยอีก พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ถ้าเข้ามายุ่งก็จะต้องเข้ามายุ่งให้ดีก็ไม่ว่ากันหรอก แต่เรื่องการาโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณอาจจะพูดให้ช่วยกันสร้างรัฐบาลแก้ไขปัญหาบ้านเมืองก็ได้ ใครจะไปรู้ ซึ่งตนคิดว่า พ.ต.ท. ทักษิณ จะพูดอย่างนั้น


 



เมื่อถามว่า จะมีการต่อสายไปถึง พ.ต.ท. ทักษิณ  อย่างไร เพื่อให้ร่วมมือกันช่วยเหลือประเทศชาติ พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ไม่ต้องฝากอะไร เพียงแต่นำเทปที่ตนพูดในวันนี้ไปให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็คงจะคิด และในวันนี้ใครจะมีอะไรเจ็บปวดในหัวใจ ขอให้หยุดก่อน และทำให้บ้านเมืองอยู่รอด คนไทยเป็นคนสามัคคีกันได้ ทั้งนี้ พ.ต.ท. ทักษิณ ต้องทำ เพราะถึงเวลาแล้วที่จะต้องช่วยกันเพื่อบ้านเมือง


 



เมื่อถามว่า ถ้าสองสามวันไม่มีอะไรเปลี่ยนจะเกิดเหตุการณ์อะไรรุนแรงหรือไม่ พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ไม่เห็นหรือว่ารุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งมันมีแนวโน้มแต่ไม่รู้ว่าอะไรที่จะนำไปสู่สิ่งที่ไม่ดี


 


 


 


 


-----------------------------------------


ที่มา: http://www.komchadluek.com

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net