Skip to main content
sharethis

การเมือง


 


แขวนป้าย "ราชมังคลาฯ" เขตปลอด "พันธมิตร"
มติชนออนไลน์ - นายกนกพันธุ์ จุลเกษม ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เจ้าของสถานที่ราชมังคลากีฬาสถาน กล่าวเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม ว่าได้หารือกับ พ.ต.อ.วัฒนา ยี่จีน ผู้กำกับ สน.หัวหมาก เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือการชุมนุมวันที่ 1 พฤศจิกายน ซึ่งจะมีการระดมกำลังตำรวจราว 1,000 นาย รวมทั้งฝ่ายรักษาความปลอดภัยของ กกท.มารักษาความสงบเรียบร้อย และจะมีการตรวจรถเข้า-ออก รวมถึงสัมภาระของผู้ชุมนุมอย่างเข้มงวด โดยเน้นไปที่วัตถุระเบิด เชื่อว่าจะไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น เพราะตำรวจมีการดูแลอย่างครอบคลุมอยู่แล้ว



นางวีรวรรณ พจนวรพงษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายสิทธิประโยชน์และมาตรฐานกีฬา กกท. กล่าวว่า ประมาณการกันว่า จะมีผู้มาร่วมชุมนุมประมาณ 60,000 คน เพราะอัฒจันทร์สนามราชมังคลากีฬาสถานจุได้ประมาณ 45,000 คน และวางเก้าอี้บนสนามหญ้ารวมถึงบนลู่วิ่งยางสังเคราะห์ได้อีก 15,000 ตัว



"กกท.ห้ามการขายของทุกประเภทไม่ว่าจากสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการกีฬา หรือประชาชนทั่วไป รวมทั้งงดการเล่นกีฬาภายใน กกท.ตลอดทั้งวัน เพื่อความปลอดภัยของประชาชน ซึ่งผู้ชุมนุมจะอยู่ในสนามราชมังคลากีฬาสถานได้ตั้งแต่ 08.00-22.00 น." นางวีรวรรณกล่าว



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสังเกตการณ์ภายในสนามราชมังคลากีฬาสถาน ฝ่ายรายการ "ความจริงวันนี้" ได้นำผ้าใบมาปิดลู่วิ่งยางสังเคราะห์ไว้หมด และเตรียมนำบล็อคไม้อัดปูบนพื้นสนามฟุตบอลเพื่อป้องกันสนามหญ้าเสียหาย รวมทั้งได้ตั้งเวทีขนาดใหญ่ในสนาม พร้อมทั้งแขวนป้าย "เขตปลอดพันธมิตร" รอบอัฒจันทร์ของสนาม


 


 


นปช.ตั้งโต๊ะล่าชื่อยุบปช.-ถวายฎีกาอภัยโทษ "สมัคร"
มติชนออนไลน์ - ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 31 ต.ค. ถึงบรรยากาศความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ชุมนุมแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ที่ท้องสนามหลวง ตั้งแต่ช่วงเย็นที่ผ่านมาว่า เริ่มคึกคักมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ มีการตั้งโต๊ะร่างรายชื่อประชาชน เพื่อดำเนินการให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์ จากกรณีการบอยคอต ไม่เข้าร่วมการประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 7 ต.ค. นอกจากนี้ ยังเปิดให้ประชาชนเข้าร่วมการชุมนุมลงชื่อถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้ นายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี กรณีถูกศาลรัฐธรรมนูญตัดสินให้พ้นจากตำแหน่ง หลังเป็นผู้ดำเนินรายการชิมไปบ่นไป โดยมีประชาชนกลุ่มผู้ชุมนุมสนใจเข้าร่วมลงชื่อโดยต่อเนื่อง


 


ด้าน นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข แกนนำกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย กล่าวว่า ทางกลุ่ม นปช.จะเคลื่อนขบวนไปยังอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เพื่อทำกิจกรรมรำลึกถึง นายนวมทอง ไพรวัลย์ คนขับรถแท็กซี่ที่เสียชีวิตจากเหตุเรียกร้องประชาธิปไตย ในเวลาประมาณ 20.30 น.แต่ทั้งนี้ ยืนยัน ว่า จะไม่เคลื่อนขบวนกลุ่มผู้ชุมนุมไปยังสะพานมัฆวานรังสรรค์ ซึ่งเป็นสถานที่ชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย อย่างแน่นอน


 


Young PAD รวมพลเวที ยุทธศาสตร์ "Dot-A"1พ.ย.นี้
มติชนออนไลน์ - นายวสันต์ วาณิช ผู้ประสานงานกลุ่มนิสิต นักศึกษาเยาวชนกู้ชาติ 80 สถาบัน หรือยังแพด (Young PAD) แถลงเมื่อวันที่ 31 ต.ค. ที่ห้องผู้สื่อข่าวทำเนียบรัฐบาลว่า วันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ เวลา 15.00 น. จะมีการรวมตัวของนักศึกษาทั่วประเทศกว่า 1,000 คน ที่บริเวณเชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์ เปิดเวทีปราศรัยยุทธศาสตร์ดอตเอ (Dot-A) หรือยุทธศาสตร์ที่มั่นคง และกำหนดการเมืองใหม่ของกลุ่มนักศึกษา จะมีนักศึกษาจากภาคใต้ ภาคอีสาน และนักเรียนช่างกลเข้าร่วม



นายวสันต์กล่าวว่า จะประเมินสถานการณ์เป็นระยะๆ เบื้องต้นตกลงว่าหากสถานการณ์ปกติจะชุมนุมต่อไป แต่หากมีการปาระเบิดและนำมวลชนปะทะกัน นักศึกษาก็พร้อมแปรกำลังเป็นมวลชนรักษาความปลอดภัยให้ประชาชนในทำเนียบรัฐบาล ซึ่งนักศึกษาช่างกลเป็นกำลังหลักร่วมกับการ์ดพันธมิตรด้านนอกรั้วสะพานมัฆวานรังสรรค์ ส่วนนักศึกษาที่เหลือ มีทั้งหน่วยปฐมพยาบาล หน่วยหาข้อมูลข่าวสาร ฯลฯ


 


"ประสงค์"ดึงหนังสือลาออกกลับคืนมาแล้ว ส.ส.เพื่อแผ่นดินบอกเองรัฐบาลสมชายอายุสั้น


เว็บไซต์แนวหน้า - ที่กระทรวงมหาดไทย สองส.ส.พรรคเพื่อแผ่นดินคือนพ.แวมาฮาดี แวดาโอ๊ะ ส.ส.นราธิวาส และนายสมเกียรติ ศรลัมภ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อแผ่นดิน เข้าพบ นายประสงค์ โฆษิตานนท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่ห้องทำงาน เพื่อให้กำลังใจและสนับสนุนไม่ให้ลาออกตามเสียงเรียกร้องของนายสุวิทย์ คุณกิตติ อดีตหัวหน้าพรรคและนายไชยยศ จิรเมธากร รองหัวหน้าพรรค


 



นายสมเกียรติ เปิดเผยภายหลังการหารือว่ามาให้กำลังใจนายประสงค์เพราะเห็นว่ามีความชอบธรรม ในการจะอยู่ในตำแหน่งต่อไป ไม่มีเหตุผลที่ต้องไปทำตามที่นายไชยยศกล่าวอ้าง เรื่องนี้ส.ส.ในพรรคเพื่อแผ่นดินสนับสนุนนายประสงค์ให้เดินหน้าต่อไปไม่ต้องไปลาออก เพราะหากลาออกจะทำให้เกิดแรงกระเพื่อม อีกทั้งดูแล้วก็คิดว่ารัฐบาลคงอยู่ได้อีกไม่นานแล้วก็ไม่เห็นจำเป็นต้องรีบปรับครม.อะไร ปัญหาในพรรคจบแล้ว คนที่เรียกร้องควรต้องยุติ และหนังสือซึ่งแม้จะไม่มีผลทางกฎหมายแต่เมื่อในหนังสือที่นายไชยยศแถลงตอนนี้นายประสงค์ได้มาแล้วและนำมาให้ตนดูก็พบว่ามีผลในเดือนตุลาคม ดังนั้นหลังจากวันที่ 31 ตุลาคม ก็ไม่น่ามีอะไรแล้ว เพราะเท่ากับว่าหนังสือไม่มีความหมายและหนังสือก็ยังไม่ได้ส่งไปให้นายกรัฐมนตรีหลังจากนี้ก็ทำงานได้ตามปกติไม่ต้องกังวลปัญหาข้อกฎหมายอะไร


 


ความมั่นคง


 


ผบ.ตร. หวั่นมีบึ้ม! ประสานผบ.ตร.ขอกำลังทหารเสริม
มติชนออนไลน์ - พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวเมื่อวันที่ 31 ต.ค. ถึงการรักษาความปลอดภัยการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ซึ่งได้จัดขึ้นสนามราชมังคลากีฬาสถาน ในวันที่ 1 พ.ย.ตามที่หลายฝ่ายเกรงว่า จะมีเหตุความรุนแรงปะทะกันระหว่าง ฝ่ายนปช. และพันธมิตรฯ ว่า จากการประเมินน่าจะมีคนมาร่วมชุมนุมมาก ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ มีกำลังรักษาความปลอดภัย 8 กองร้อย ซึ่งคิดว่า ไม่เพียงพอ จึงได้คุยกับ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ขอกำลังทหารมาร่วมรักษาความปลอดภัยในฐานะเจ้าพนักงาน ซึ่งได้สั่งให้ กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ไปประสานในรายละเอียดว่า ต้องใช้กำลังเท่าใด ให้ทหารและตำรวจอยู่จุดไหน อย่างไร ซึ่งผบ.ทบ.ก็ตกลงจะส่งกำลังมาช่วยดูแล ประชาชนจะได้มีความอุ่นใจว่าเหตุการณ์จะไม่มีอะไรบานปลาย เพราะเป็นการชุมนุมโดยปราศจากอาวุธทั้ง 2 กลุ่ม


 


ส่วนกรณีที่ พล.อ.อนุพงษ์ เป็นห่วงการโฟนอินของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผ่านรายการความจริงวันนี้ จะเป็นชนวนเหตุของความรุนแรง นั้น พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า เป็นการคาดการณ์ไปเอง ยังไม่รู้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะพูดอะไร อาจเป็นเชิงบวกก็ได้ อย่าไปประเมินในสิ่งที่ไม่ดีไว้ก่อน ให้ประเมินในสิ่งที่ดีๆ คนไทยด้วยกันไม่น่าจะมีปัญหาอะไร แต่ยอมรับว่า มีความกังวลกับการเกิดเหตุระเบิด เพราะมองได้หลายประเด็น สรุปยาก ในฐานะตำรวจก็ต้องพยายามป้องกันไม่ให้เกิดขึ้น ขณะนี้ใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ถ้ามีเหตุจำเป็นต้องขอความร่วมมือจากทางทหาร โดยเฉพาะการตั้งจุดตรวจในเวลากลางคืน


 


ตร.งัวเงียตั้งกก.ลุยเว็บฯวิทยุชมชนหมิ่นเบื้องสูง


ผู้จัดการ - ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) วานนี้ (31 ต.ค.) พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงนามในคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 723 /2551 เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบและพิจารณาข้อมูลข่าวสาร ที่อาจมีผลกระทบต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยมี พล.ต.ท.ธีระเดช รอดโพธิ์ทอง ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล (ผบช.ส.) เป็นประธานกรรมการ มีอำนาจหน้าที่ตรวจสอบและพิจารณาข่าวสารที่อาจมีผลกระทบต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ที่ปรากฏในเว็บไซต์ และสถานีวิทยุชุมชนหรือที่ได้รับแจ้งจากประชาชนหรือหน่วยงานต่างๆ เพื่อส่งให้หน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ในการสอบสวนดำเนินการตามกฎหมาย


 


นอกจากนี้ ยังมีอำนาจในการเชิญส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานของรัฐหรือผู้ที่เกี่ยวข้องมาร่วมประชุมพิจารณาหารือร่วมกับคณะกรรมการ รวมทั้งขอข้อมูล เอกสาร จากส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานของรัฐ ตลอดจนผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อประกอบการพิจารณาของคณะกรรมการ และดำเนินการตามกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง


 


ทั้งนี้ ประชาชน หรือหน่วยงานต่างๆ สามารถแจ้งข้อมูลหรือเบาะแสการกระทำผิดดังกล่าว ได้ที่เว็บไซต์ www.htcc.ict.police.go.th โดยเข้ากรอกรายละเอียดในหัวข้อ แจ้งเว็บผิดกฎหมายหรือทางศูนย์เอกภพ กองบัญชาการตำรวจสันติบาล หมายเลขโทรศัพท์ 02 -241 -2111


 


 


เศรษฐกิจ


 


โชห่วยบุกพาณิชย์จี้ดันก.ม.ค้าปลีกฯ


เว็บไซต์คมชัด - แหล่งข่าวจากกลุ่มค้าปลีกคนไทยรายย่อย เปิดเผยว่า วันที่ 3 พฤศจิกายนนี้ จะรวมตัวกันกว่า 100 คน เพื่อทวงถาม นายไชยา สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เกี่ยวกับการผลักดันร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง พ.ศ. ...ว่าจะเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 4 พฤศจิกายน นี้หรือไม่ หลังจากเสนอถึง 2 ครั้งและถูกดึงออก เพราะเริ่มไม่มั่นใจว่าจะได้รับการผลักดันอย่างจริงจัง


 



นายธนภณ ตังคณานันท์ ประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทย กล่าวว่า คณะกรรมการสมาคมฯ มีมติเป็นเอกฉันท์ถอนตัวจากการเป็นคณะกรรมการและคณะอนุกรรมการศึกษาและพัฒนาธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง เนื่องจากมีการนำร่างพ.ร.บ.เข้าครม.ทั้งที่ให้เวลาคณะกรรมการฯ ศึกษาข้อมูล 2 เดือนหรือสิ้นสุดกลางเดือนพฤศจิกายนนี้ และไม่มีการแจ้งให้ทราบ


 



นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน (คน.) กล่าวว่าการที่ตัวแทนสมาคมผู้ค้าปลีกไทย ขอถอนตัวออกจากคณะอนุกรรมการทั้ง 4 ชุด แสดงให้เห็นถึงการรักษาผลประโยชน์ของธุรกิจตนเองเพียงอย่างเดียว ไม่ได้คิดถึงการพัฒนาระบบธุรกิจค้าปลีกค้าส่งทั้งระบบและคงไม่กระทบต่อการทำงาน เพราะยังมีตัวแทนจากฝ่ายอื่นๆ พร้อมทั้งยืนยันว่ามีความจำเป็นต้องเร่งผลักดันกฎหมายเข้าครม.ต่อไป เพราะหากรออีก 2 เดือนอาจไม่ทันสถานการณ์ที่ขณะนี้สาขาของค้าปลีกสมัยใหม่ขยายตัวเพิ่มขึ้นจำนวนมาก


 


รัฐอัดเงินเมกะโปรเจกท์ 2 แสนล้าน เร่งเปิดประมูลรถไฟฟ้า 3 โครงการ-เพิ่มจ้างงานสร้างรายได้


เว็บไซต์คมชัดลึก - น.ส.ศุภรัตน์ นาคบุญนำ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ที่มีนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ว่าที่ประชุมพิจารณาเร่งการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ (เมกะโปรเจกท์) เพื่อเร่งรัดการใช้งบประมาณไปสู่ระบบการจ้างงาน สร้างรายได้ จึงให้เร่งเดินหน้าก่อสร้างรถไฟฟ้า 3 เส้นทาง มูลค่าว่า 2.1 แสนล้านบาท ได้แก่ สายสีม่วง บางใหญ่-บางซื่อ, สายสีแดง บางซื่อ-ตลิ่งชัน และบางซื่อ-รังสิต และสายสีน้ำเงิน บางซื่อ-ท่าพระ และหัวลำโพง-บางแค ให้เปิดประมูลหาผู้รับเหมาก่อสร้างเร่งลงนามภายในปลายปีนี้ ซึ่งเม็ดเงินเหล่านี้น่าจะช่วยฟื้นเศรษฐกิจได้


 



ทั้งนี้ ปลัดกระทรวงการคลัง ได้ชี้แจงว่างบลงทุนโครงการเมกะโปรเจกท์ปี 2552-2555 มีวงเงิน 1.8 ล้านล้านบาท โดยงบปี 2552 จำนวน 3.4 แสนล้านบาท เป็นเงินงบประมาณ 2.8 แสนล้านบาท ส่วนอีก 6.3 หมื่นล้านบาทจะใช้เงินกู้ แต่การเสนอตั้งงบกลางปีจำนวน 1 แสนล้านบาท กระทรวงการคลังเสนอที่จะกันงบให้ 4.6 หมื่นล้านบาท เพื่อใช้ในการลงทุนโครงการเมกะโปรเจกท์ ส่วนที่เหลืออีก 1.7 หมื่นล้านบาทจะพิจารณาหาจากแหล่งเงินกู้ ขณะนี้จีนได้ประกาศชัดเจนแล้วว่าจะให้ไทยกู้ 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ


 



ขณะที่นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม รายงานต่อที่ประชุมว่า การดำเนินการก่อสร้างที่ล่าช้า ส่วนใหญ่ติดเงื่อนไขข้อกฎหมายด้านต่างๆ บางหน่วยงานยังไม่เริ่มโครงการ แต่ได้มีหนังสือทักท้วงจากสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีการตรวจสอบเข้มงวดและทุกขั้นตอน ทำให้หัวหน้าส่วนราชการมีความหนักใจ และไม่กล้าเดินหน้าทำงานต่อไป โดยนายกฯ ได้กำชับว่าหากโครงการใดมั่นใจและโปร่งใสก็ให้เร่งดำเนินการ


 



น.ส.ศุภรัตน์กล่าวด้วยว่า ที่ประชุม ครม.เศรษฐกิจมองว่า โครงการเมกะโปรเจกท์ด้านการศึกษา วงเงิน 2.2 หมื่นล้านบาท และด้านสาธารณสุข 7.8 หมื่นล้านบาท ถือว่ายังมีการลงทุนและพัฒนาด้วยการใช้งบน้อยเกินไป จึงให้กระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงสาธารณสุข ปรับแผนพัฒนาอีกครั้ง ส่วนการพัฒนาระบบน้ำก็ให้เร่งดำเนินการพัฒนาและการลงทุนเช่นเดียวกัน


 



ด้านนายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ประธานกรรมการ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กล่าวว่า รฟม.จะเซ็นสัญญาว่าจ้างผู้รับเหมาก่อสร้างงานโยธาโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-บางซื่อได้ภายในปีนี้อย่างแน่นอน ส่วนสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่ และช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ มีแบบก่อสร้างแล้ว พร้อมจะประกวดราคาได้ทันที จะเปิดขายเอกสารประกวดราคาคัดเลือกผู้รับเหมาได้ภายในปีนี้แน่นอน


 


 


คุณภาพชีวิต


 


กทม.จัดระเบียบคนเร่ร่อน  งานพระราชทานเพลิงพระศพ


เว็บไซต์แนวหน้า - นายพงศ์ศักติฐ์ เสมสันต์ ปลัดกรุงเทพมหานครกล่าวว่า กรุงเทพมหานคร โดยสำนักงานเขตพระนครร่วมกับหน่วยงานราชการเกี่ยวข้อง อาทิ สน.ชนะสงคราม สน.สำราญราษฎร์ สน.นางเลิ้ง สน.พระราชวัง กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สำนักพัฒนาสังคม กทม. ร่วมดำเนินการจัดระเบียบคนเร่ร่อนในพื้นที่ท้องสนามหลวง บริเวณใกล้เคียงโดยรอบงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ รวมตลอดเส้นทางเสด็จพระราชดำเนิน และเส้นทางที่ริ้วขบวนพระอิสริยยศเคลื่อนผ่าน โดยให้ทุกอย่างพร้อมเสร็จก่อนวันซ้อมริ้วขบวนพระอิสริยยศ( 2 พฤศจิกายน 2551) รวมถึงวันงานพระราชพิธี ระหว่างวันที่ 14-19 พฤศจิกายน 2551 เพื่อให้พื้นที่จัดงานพระราชพิธีฯ มีความเรียบร้อย สวยงามสมพระเกียรติ


 



ทั้งนี้จะ กำหนดปฏิบัติการเคร่งครัด ระหว่างเวลา 20.00 - 24.00 น. มีการตรวจเช็ดปัสสาวะหาสารเสพติด หากพบจะส่งตัวให้ สน.พื้นที่ดำเนินการ และต้องตรวจสอบบัตรประจำตัวประชาชนเพื่อหาข้อมูลด้วย หากตรวจสอบแล้วเป็นบุคคลเร่ร่อนจะส่งตัวไปยังสถานแรกรับคนไร้ที่พึ่ง จังหวัดนนทบุรี กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สำหรับผู้ค้าหาบเร่ แผงลอย กทม.ขอความร่วมมือช่วย งดจำหน่าย หรืองดตั้งวางแผงค้า ในพื้นที่พระราชพิธี อย่างไรก็ตาม กทม.จะจัดกำลังเจ้าหน้าที่เทศกิจเข้าประจำจุดตรวจทั่วถึง จำนวน 49 จุด เพื่อดูแลและอำนวยความสะดวกให้ประชาชนตลอดแนวที่กำหนดไว้ แต่ถ้าหากผู้ค้ารายใดฝ่าฝืนจะดำเนินการเปรียบเทียบปรับตามพระราชบัญญัติรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. 2535 ปรับไม่เกิน 2,000 บาท


 


อธิบดีขบ.สั่งไล่จับรถตู้ป้ายดำขึ้นค่าโดยสารทั้งที่ดีเซลถูก
มติชนออนไลน์ - นายชัยรัตน์ สงวนชื่อ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เปิดเผยเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม ว่า ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนผ่านสายด่วน 1584 จำนวนมาก กรณีที่รถตู้โดยสารประจำทางบางสายปรับขึ้นราคา 5-10 บาท โดยเฉพาะรถตู้ป้ายทะเบียนดำ และรถตู้ป้ายทะเบียนเหลืองบางสาย ทั้งที่ราคาน้ำมันดีเซลลดลงอย่างต่อเนื่อง ถือว่า เอาเปรียบผู้บริโภคและผิด พ.ร.บ.ขนส่งทางบก มาตรา 31 และ 159 มีโทษปรับไม่เกิน 50,000 บาท และกรณีรถตู้ป้ายทะเบียนดำ จะมีความผิดตาม พ.ร.บ.ดังกล่าว มาตรา 23 มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และมีโทษปรับระหว่าง 20,000-200,000 บาท



"จะกำชับให้องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ที่ดูแลรถตู้ประจำทาง กวดขันให้มากขึ้น หากรถตู้รายใดแอบปรับขึ้นราคา อยากแนะนำให้ประชาชนหันไปใช้บริการรถเมล์ หรือรถทัวร์ดีกว่า และควรใช้บริการรถตู้ป้ายทะเบียนสีเหลือง ซึ่งถูกกฎหมาย จะปลอดภัยมากกว่ารถตู้ป้ายดำ และทาง ขบ.ได้กวดขันออกจับรถตู้ป้ายดำอย่างต่อเนื่อง หากพบเห็นการเอาเปรียบแจ้งมาได้ที่ 1584
" อธิบดีกรมการขนส่งทางบกกล่าว


 


สธ.เผยไข่ไทยปลอดภัยกินได้ตรวจไม่พบปนเปื้อนเมลามีน


เว็บไซต์คมชัด - นายวิชาญ มีนชัยนันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า หลังจากฮ่องกงตรวจพบการปนเปื้อนสารเมลามีนในไข่ไก่ที่นำเข้าจากประเทศจีน สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้เก็บผลิตภัณฑ์ไข่ที่ผลิตภายในประเทศ 7 รายการ จาก 3 บริษัท ได้แก่ 1.บริษัท ควอลิตี้ มีท จำกัด เลขที่ 18/65 หมู่ 8 ถ.รามอินทรา แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม. ตัวอย่างอาหารที่เก็บตรวจคือ ไข่ไก่ ตราดอกเตอร์เฮ็นน์ ชนิดสูตรดอกเตอร์เฮ็นน์, ไข่ไก่บรรจุในกล่องพลาสติกใส ฉลากระบุ Organic Egg Safety Seal& Hy Safe, ไข่ไก่ตราดอกเตอร์เฮ็นน์คิดส์ และไข่ไก่ธรรมชาติ ไข่ไก่ตราดอกเตอร์เฮ็นน์


 



2.บริษัท รุ่งอรุณฟาร์ม เลขที่ 32 หมู่ 4 ถ.มิตรภาพ ต.ตาลเดี่ยว อ.แก่งคอย จ.สระบุรี ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ที่เก็บตรวจคือ ซีเฮิร์บไข่ไก่เบอร์ 2 และ 3.บริษัท กรุงเทพผลิตผลอุตสาหกรรมการเกษตร (ฟาร์มนครหลวง) เลขที่ 566/1 หมู่ 7 ต.หนองอิรุณ อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ที่เก็บตรวจคือ ไข่ไก่สดคัดพิเศษ ซีพีขนาดจัมโบ้ ไข่ไก่เบอร์ 0 และไข่ไก่สด ตราซีพี (โอเมก้าพลัส)


 



"ผลตรวจหาสารเมลามีนในไข่ไก่จากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ทุกรายการไม่พบปนเปื้อนของสารเมลามีน ผู้บริโภคจึงมั่นใจได้ว่าไข่ไก่ที่ผลิตในไทยปลอดจากการปนเปื้อนสารเมลามีน สามารถบริโภคได้ตามปกติ" นายวิชาญกล่าว


 



นพ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการ อย.กล่าวว่า ในเร็วๆ นี้กองอาหารจะเรียกบริษัทที่ผลิตภัณฑ์นมหรืออาหารที่มีนมเป็นส่วนประกอบที่พบว่ามีสารเมลามีน แต่ไม่เกินเกณฑ์มาตรฐานกำหนดมาหารืออีกครั้ง แม้ว่าตามกฎหมาย อย.จะไม่สามารถดำเนินการอะไรได้ แต่จะขอความร่วมมือให้บริษัทเหล่านี้แก้ไขให้อาหารไม่มีเมลามีนเลย โดย อย.จะสุ่มตรวจต่อไป


 



"แม้ว่าพบค่าเมลามีนในปริมาณไม่เกินค่ามาตรฐานที่ อย.กำหนด คือ หากเป็นนมสำหรับทารกห้ามมีสารเมลามีนเกิน 1 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม หรือพีพีเอ็ม ส่วนอาหารอื่นที่มีนมเป็นส่วนประกอบห้ามเกิน 2.5 พีพีเอ็ม ซึ่ง อย.ไม่สามารถอายัดสินค้าเหล่านี้ได้ จึงขึ้นอยู่กับความรับผิดชอบของบริษัทที่มีต่อลูกค้าว่าจะดำเนินการกับสินค้าเหล่านี้อย่างไร จะต้องมาหารือกับบริษัทเพื่อให้สินค้าไม่มีสารเมลามีนเลยจะดีที่สุด และค่ามาตรฐานที่กำหนดนั้นเป็นค่าความปลอดภัยที่มาตรฐานสากลกำหนด และเผื่อความปลอดภัยให้แก่ร่างกายไว้ 20-30 เท่าแล้ว หากไม่เกินก็ไม่เป็นอันตรายใดๆ ต่อร่างกาย"นพ.พิพัฒน์กล่าว


 



นพ.พิพัฒน์กล่าวต่อว่า อย.ได้เก็บตัวอย่างผลิตภัณฑ์อาหารตรวจวิเคราะห์หาสารเมลามีนแล้ว 1,123 ตัวอย่าง ทราบผลแล้ว 962 ตัวอย่าง รอผลอีก 161 ตัวอย่าง ซึ่งมีเพียง 7 ผลิตภัณฑ์ที่พบปนเปื้อนของสารเมลามีนเกินมาตรฐานที่กำหนด จะเฝ้าระวังและตรวจสอบผลิตภัณฑ์อาหารอย่างใกล้ชิด และจะแจ้งผลตรวจสอบให้ผู้บริโภคทราบต่อไป ซึ่งกรณีไข่ไก่ในไทยบริโภคได้ตามปกติ


 


ปลดแอกเกษตรกร กองทุนฟื้นฟูฯควัก 56 ล้านซื้อหนี้


เว็บไซต์แนวหน้า - เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2551พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงการชำระหนี้แทนเกษตรกรระหว่างกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร (กฟก.) และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)


 



พล.ต.สนั่น กล่าวว่า กฟก.ตกลงชำระหนี้แทนลูกหนี้ ธ.ก.ส.ที่ขึ้นบัญชีไว้กับ กฟก. จำนวน 334 ราย ภาระเงินต้นไม่เกินรายละ 1 ล้านบาท วงเงินรวม 56 ล้านบาท จากหนี้จริง 111 ล้านบาท โดยเป็นการชำระเงินต้นคงค้างในอัตรา 50 %ไม่มีดอกเบี้ย หลังจากนั้น ธ.ก.ส.จะดำเนินการไถ่ถอนจำนองหลักประกันที่เกษตรกรได้จำนองไว้กับ ธ.ก.ส. และส่งมอบเอกสารให้ กฟก.ต่อไป ส่วน กฟก.ก็มีโครงการที่จะซื้อลูกหนี้ ธ.ก.ส.อีกในงวดต่อไป เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร


 



นายสังศิต พิริยะรังสรรค์ รักษาการเลขาธิการสำนักงาน กฟก. กล่าวว่า การซื้อลูกหนี้จาก ธ.ก.ส.จะซื้อยกล็อตที่มีการฟ้องบังคับคดี ทั้งนี้ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร โดยจะเดินหน้าซื้อลูกหนี้จาก ธ.ก.ส.ต่อไป


 



นายเอ็นนู ซื่อสุวรรณ รักษาการผู้จัดการ ธ.ก.ส. กล่าวว่า การแก้ไขปัญหาหนี้สินของเกษตรกรจะต้องดำเนินการควบคู่ไปกับการฟื้นฟูและพัฒนาอาชีพ เพื่อยกระดับรายได้และคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืนแก่เกษตรกร ซึ่งได้น้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้ในการดำเนินชีวิต เช่น การปรับวิธีคิด การลดต้นทุนการผลิต การลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน การพัฒนาอาชีพเสริมรายได้ เป็นต้น


 



ทั้งนี้ในปีหน้าพืชผลการเกษตรมีแนวโน้มราคาจะลดต่ำลง การใช้หลักปรัชญาเกษตรกรพอเพียงจะเป็นทางรอดแก่เกษตรกร ทั้งนี้ หากเกษตรกรและหน่วยงานต่าง ๆ ร่วมดำเนินการอย่างจริงจัง จะช่วยแก้ปัญหาความยากจนและสามารถที่จะฝ่าฟันวิกฤติต่างๆ ไปได้อย่างแน่นอน


 


ต่างประเทศ


 


เกิดกระแสแขวนคอหุ่นโอบามา


เว็บไซต์คมชัดลึก - สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันศุกร์ (31 ต.ค.) ว่ายิ่งใกล้วันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 4 พฤศจิกายนนี้เข้าไปเท่าไร ก็ยิ่งเกิดกระแสนำหุ่นของนายบารัก โอบามา ตัวแทนพรรคเดโมแครตผู้เป็นตัวเก็งที่จะได้ครองตำแหน่งผู้นำผิวสีคนแรกของสหรัฐ ออกมาแขวนคอห้อยไว้ตามต้นไม้ต่างๆมากยิ่งขึ้น สะท้อนภาพให้เห็นว่ายังคงมีความรู้สึกเหยียดผิวอยู่ในดินแดนแห่งเสรีภาพแห่งนี้


 



ล่าสุด ชาย 2 คนถูกดำเนินคดีอาญาในข้อหานำหุ่นนายโอบามาไปแขวนคอห้อยไว้กับต้นไม้ที่มหาวิทยาลัยเคนทักกี ซึ่งทำให้หวนนึกถึงยุคที่มีการตั้งศาลเตี้ย แขวนคอคนตามอำเภอใจในรัฐนี้ซึ่งเป็นหนึ่งใน 15 รัฐที่ให้การมีทาสเป็นสิ่งถูกกฎหมายในช่วงก่อนสงครามกลางเมือง


 



นายโจ ฟิชเชอร์ นักศึกษามหาวิทยาลัย วัย 22 ปี และนายฮันเตอร์ บุช ชาวเมืองเล็กซิงตัน วัย 21 ปี ผู้ก่อเหตุกล่าวขณะมอบตัวต่อตำรวจในมหาวิทยาลัยว่าทำไปเพื่อตอบโต้ที่มีการแขวนคอหุ่นนางซาราห์ เพลิน ตัวแทนพรรครีพับลิกันชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีจากหลังคาบ้านหลังหนึ่งในรัฐแคลิฟอร์เนีย


 



ก่อนหน้านี้มีนักศึกษา 4 คนของมหาวิทยาลัยคริสเตียนแห่งหนึ่ง สารภาพว่าแขวนคอหุ่นนายโอบามาไว้กับต้นไม้ในเมืองโอเรกอนเมื่อเดือนก่อน ขณะที่หลายบ้านในรัฐอินเดียนา โอไฮโอ และแคลิฟอร์เนียก็นำหุ่นนายโอบามามาเป็นของตกแต่งช่วงเทศกาลฮัลโลวีนเช่นกัน และเมื่อช่วงต้นสัปดาห์เจ้าหน้าที่รัฐเทนเนสซีเพิ่งจับกุมวัยรุ่น 2 คนที่เตรียมวางแผนก่อเหตุกราดยิงชาวอเมริกันแอฟริกันแบบไม่เลือกหน้าไม่ต่ำกว่า 100 คน ก่อนจะลอบฆ่านายโอบามา


 


ศาลจีนเห็นใจแม่การุณยฆาตลูกสาว


เว็บไซต์คมชัดลึก - สำนักข่าวซินหัวรายงานเมื่อวันศุกร์ (31 ต.ค.) ว่าศาลจีนได้ตัดสินให้นางหลี่ ต้าหง พ้นผิดกรณีฆ่าลูกสาวตัวเองที่พิการขั้นรุนแรงด้วยการให้กินยานอนหลับ 200 เม็ด ก่อนจะใช้ผ้าเช็ดตัวและผ้าห่มอุดปากอุดจมูกทำให้ขาดอากาศหายใจ โดยเห็นว่ากระทำไปเพราะไม่อยากให้ลูกต้องทนทุกข์ทรมานต่อไป ทั้งนี้ นางหลี่ วัย 47 ปี ต้องดูแลลูกสาวที่สมองบางส่วนถูกทำลาย ทำให้ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เลยมานานถึง 20 ปี รายงานข่าวแจ้งว่านางหลี่กล่าวน้ำตานองหน้าในศาลว่า เกรงว่าตัวเองจะไม่สามารถดูแลลูกสาวได้ต่อไปเพราะแก่ตัวลงทุกที


 



เจาะก๊าซธรรมชาติทำภูเขาไฟระเบิด


เว็บไซต์คมชัดลึก - มหาวิทยาลัยเดอร์แฮมในอังกฤษแถลงเมื่อวันศุกร์ (31 ต.ค.) ว่าที่ประชุมนักธรณีวิทยาชั้นนำของโลกสรุปว่าเหตุภูเขาไฟลูซีในอินโดนีเซียระเบิดเมื่อเดือน พ.ค.2549 ทำให้หมู่บ้าน 12 แห่ง ถูกฝังอยู่ใต้โคลนตม และทำให้คน 3 หมื่นคนต้องไร้ที่อยู่อาศัย ทั้งยังพ่นโคลนเดือดในอัตราที่สามารถถมสระว่ายน้ำโอลิมปิกได้ถึง 53 สระต่อวันนั้นมีสาเหตุมาจากการขุดเจาะก๊าซธรรมชาติในบริเวณใกล้เคียงของบริษัทลาพินโด บรานตาส ขณะที่บริษัทแย้งว่าเป็นผลมาจากแผ่นดินไหวในเมืองยอกยาการ์ตาที่อยู่ห่างออกไป 280 กม. ซึ่งเกิดขึ้น 2 วันก่อนภูเขาไฟระเบิด


 



เวียดนามน้ำท่วมใหญ่ตาย 16


เว็บไซต์คมชัดลึก - เอพีรายงานเมื่อวันศุกร์ (31 ต.ค.) ว่าเกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ทางภาคกลางของเวียดนาม ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 16 คน ในจำนวนนี้เป็นเด็กอายุระหว่าง 8-12 ขวบ 5 คน ที่ถูกน้ำซัดหายไปขณะเดินกลับบ้าน ขณะที่ฝนกระหน่ำอย่างหนักในกรุงฮานอยทำให้ถนนหลายสายกลายเป็นคลองเพราะมีน้ำท่วมสูงถึง 1 เมตร การจราจรติดขัดอย่างหนัก


 



ผู้นำโสมแดงพลาดงานสำคัญอีกครั้ง


เว็บไซต์คมชัดลึก - โฆษกกระทรวงรวมชาติของเกาหลีใต้แถลงเมื่อวันศุกร์ (31 ต.ค.) ว่านายคิม จอง อิล ผู้นำเกาหลีเหนือ ไม่ได้ไปร่วมงานศพของนายปัก ซอง ชอล แกนนำระดับสูงของเกาหลีเหนือ ที่จัดขึ้นเมื่อต้นสัปดาห์ ทั้งที่นายคิมเคยไปร่วมงานศพของสมาชิกที่มีตำแหน่งต่ำกว่านี้ ส่งผลให้ข่าวลือว่านายคิม วัย 66 ปี มีอาการทรุดหนักลงไปอีกมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น


 



ความอดอยากเลวร้ายกว่าตาลีบัน


เว็บไซต์คมชัดลึก - รอยัล ยูไนเต็ด เซอร์วิสเซส อินสติติว กลุ่มนักคิดชั้นนำของอังกฤษได้เตือนเมื่อวันศุกร์ (31 ต.ค.) ความอดอยากที่ส่อเค้าลางๆ ว่าจะเกิดขึ้นในอัฟกานิสถานเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อการฟื้นฟูประเทศมากยิ่งกว่ากลุ่มตาลีบันเสียอีก และว่าโลกมัวแต่จับจ้องไปที่ความรุนแรงที่เพิ่มขึ้นในอัฟกานิสถาน แต่มีชาวอัฟกันร่วม 8.4 ล้านคน หรือ 1 ใน 3 ของประเทศกำลังขาดแคลนอาหารเรื้อรัง โดยภาวะอาหารแพงทั่วโลก และความแห้งแล้งในฤดูร้อนเป็นปัจจัยที่จะทำให้เกิดความอดอยากในฤดูหนาวนี้

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net