Skip to main content
sharethis

 


นายวิทวัส ศรีวิหค อธิบดีกรมอาเซียน กระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า รัฐบาลเตรียมแต่งตั้งผู้แทนในการเดินทางไปประชุมระดับรัฐมนตรีอาเซียนสมัยพิเศษ ที่สำนักงานเลขาธิการอาเซียน ณ กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย ในวันที่ 15 ธ.ค. ซึ่งในการประชุมครั้งนี้จะมี 2 วาระคือ การเฉลิมฉลองกฎบัตรอาเซียนซึ่งมีผลใช้บังคับใช้โดยอัตโนมัติ ในวันที่ 15 ธ.ค. โดยไม่ต้องมีการลงนามใดๆ อีก  และวาระที่ 2 คือการประชุมระดับรัฐมนตรี  โดยประธานาธิบดีอินโดนีเซียจะร่วมกล่าวสุนทรพจน์ ร่วมกับผู้แทนไทย  โดยมีทูตานุทูต สมาชิกรัฐสภา เอกชน นักวิชาการกว่า 200 คน เข้าร่วมงาน อย่างไรก็ตาม ช่วงเวลาในการประชุม ณ กรุงจาการ์ตา ดังกล่าว ก็เป็นช่วงวันและเวลาเดียวกับที่รัฐสภาไทยจะประชุมเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรี


 


"เนื้อหาที่จะต้องส่งไปในที่ประชุมคือสร้างความเชื่อมั่นว่าเราสามารถเป็นประธานอาเซียนได้แน่นอนจนครบวาระ ปลายปี 2552 และการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนครั้งที่ 14 จะต้องเกิดขึ้นในประเทศไทยเท่านั้น เราจะไม่รับพิจารณาในชั้นนี้เรื่องการย้ายสถานที่ไปตามที่ต่างๆ ส่วนการมอบตำแหน่งประธานอาเซียนไปให้คนอื่นนั้น ไม่ต้องพูดถึงเลย ไม่ได้อยู่ในความคิดของเรา ที่อยู่ๆ จะไปมอบตำแหน่งประธานให้ใคร ซึ่งยกเว้นเหตุเดียว ตามที่ผมเคยบอกไปว่า การมอบตำแหน่งประธานมีเหตุเดียวคือ มีการยึดอำนาจปฏิวัติ จะทำให้เราไม่สามารถรักษาตำแหน่งประธานฯ ไว้ได้ เพราะขัดกับหลักการที่อยู่ในกฎบัตรฯ ซึ่งเราไม่อยากจะทำ" นายวิทวัสกล่าว


 


นายวิทวัส กล่าวถึง การประชุมระดับรัฐมนตรีอาเซียนสมัยพิเศษ ที่สำนักงานเลขาธิการอาเซียน ณ กรุงจาการ์ตาประเทศอินโดนีเซีย ในวันที่ 15 ธ.ค. ว่า คาดว่าหลายประเทศต้องการรับฟังสถานการณ์และความเชื่อมั่นจากไทยในการจัดประชุมฯ และเชื่อว่าหลายประเทศคงจะสอบถามว่าการจัดประชุมอาเซียนซัมมิท จะมีขึ้นในเดือนมี.ค.หรือเร็วกว่านั้นได้หรือไม่ รวมถึงตำแหน่งประธานอาเซียน อย่างไรก็ตาม ไม่ว่ารัฐบาลไทยจะเป็นใคร ตำแหน่งประธานอาเซียนก็ยังเป็นของประเทศไทย การจะยกตำแหน่ง ประธานอาเซียนให้ประเทศอื่นนั้น เป็นไปได้ยาก


 


"เรายอมรับว่าประชุม (สุดยอดผู้นำอาเซียน) ได้ไวขึ้นเท่าไหร่ได้ก็น่าจะเป็นผลดี แต่ไม่ได้หมายความว่าถ้าประชุมช้า จะเป็นผลร้าย" นายวิทวัสกล่าว


 


นายวิทวัส กล่าวด้วยว่า ต้องขอขอบคุณประเทศสมาชิกอาเซียนหลายประเทศที่เข้าใจสถานการณ์ในไทย และโทรมาให้กำลังใจโดยไม่ได้พูดผ่านทางสื่อ ขณะที่บางประเทศเลือกพูดบางอย่างผ่านสื่อด้วยวัตถุประสงค์อะไรก็ไม่ทราบ


 


"หลายประเทศทีเดียวบอกว่า ต้องการให้การเฉลิมฉลองเกิดขึ้นในไทยทั้งหมดเลยด้วยซ้ำ เพราะไทยเป็นประเทศสำคัญและเราไม่ได้มีปัญหาอะไรถึงขั้นควรโดนประณาม นี่เป็นปัญหาการเมืองภายในของเรา ถ้าจะว่าไปแล้วก็อยู่ในกระบวนการประชาธิปไตยของเรา แต่อาจจะสร้างความกังวลให้กับบางประเทศที่อยากจะเห็นทุกอย่างราบรื่นตามที่เขาคิดเอาไว้ อันนี้ก็อาจจะทำให้เขาผิดหวังเหมือนกัน เพราะตอนที่เขามอบตำแหน่งให้เรา เขาก็คงคิดว่าประเทศไทยเหมาะมาก เรียบร้อยแน่นอนไม่มีปัญหาอะไร


 


เราก็คิดอย่างนั้นมาโดยตลอด คิดอย่างงั้นจนกระทั่ง 1 วันก่อนยึดสนามบิน แต่หลังจากยึดสนามบินปั๊บมันดับฝันมากเลยนะครับ เราเคยคิดขนาดว่า บางรายการของเราจะไปพบกันที่สนามบินด้วยซ้ำ โชคดีนะครับที่ไม่ไปยึดสนามบินวันที่เราเดินทางไปสนามบิน" นายวิทวัสกล่าว      


 


นายวิทวัส กล่าวอีกว่า ตนได้พบกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่พรรคประชาธิปัตย์ ในช่วงเช้าที่ผ่านมา โดยไปบรรยายสรุปในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน ซึ่งการบรรยายสรุปนั้นทำเป็นประจำอยู่แล้วกับทั้งฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล และสภาฯ เพราะวาระเรื่องอาเซียนเป็นวาระแห่งชาติ ไม่ว่าอยู่ฝ่ายไหนทุกคนก็ให้การสนับสนุนเต็มที่รวมทั้ง นายอภิสิทธิ์ ก็ได้ให้การสนับสนุนเต็มที่ และเห็นสอดคล้องกับกระทรวงการต่างประเทศว่าควรต้องจัดการประชุมฯ ที่ประเทศไทย และถ้าเป็นไปได้ก็เห็นควรจะจัดให้เร็วขึ้น


 


อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เหลือเพียงการพิจารณาเอกสารข้อตกลงของการประชุมอาเซียนที่จะต้องนำเข้าที่ประชุมสภาฯ โดยเอกสารได้ผ่าน ครม.เมื่ออังคารที่ผ่านมา หลังจากขอให้ครม.มีมตินำเอกสารทั้ง 30 ฉบับ เข้าผ่านการพิจารณาในที่ประชุมสภาฯ อีกครั้ง ในโอกาสแรก โดยนายอภิสิทธิ์ เห็นว่า น่าจะมีการประชุมสภาฯสมัยวิสามัญขึ้นมาพิจารณาเอกสารข้อตกลงที่ประชุมอาเซียนขึ้นมาเป็นการเฉพาะสัก 2-3 วัน อย่างไรก็ตามหวังว่าเหตุการณ์การเมืองจะคลี่คลาย เพราะกระทบต่อการเป็นประธานอาเซียน


 


"แทนที่จะเป็นเรื่องแค่ภายในประเทศ แต่กลับถูกประเทศในภูมิภาคจับตาอย่างใกล้ชิด รวมทั้งกระทบต่อการประชุมที่เราจะมีกับองค์การระหว่างประเทศ ทางด้านการเงินการคลัง รวมทั้งองค์การสหประชาชาติ ซึ่งแต่เดิมก็อยู่ในกำหนดการ เนื่องจากอาเซียนซัมมิท ที่ถูกเลื่อนไปมีทั้ง 4 ลักษณะของซัมมิทที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ประกอบด้วย ซัมมิทด้วยกันเอง 10ประเทศ ซัมมิท+3 ซัมมิท+6 และซัมมิทกับยูเอ็น แถมยังมีไซด์ไลน์ของท่านเลขาฯ สุรินทร์ (พิศสุวรรณ) เรื่องอาเซียนโกลเบิลฟอรั่ม ที่จะมีเฮดของ WTO IMF เวิล์ดแบงค์ ADB อังค์ถัด UN มานั่งถกแถลงการเงินของโลกและวิกฤตเศรษฐกิจ ซึ่งก็จะเป็นที่จับตามองของทั่วโลกถ้ามีฟอรั่มนั้นเกิดขึ้นเพราะนานๆ ทีจะเฮดอย่างนี้มาพร้อมกัน 5-6 คน ซึ่งก็ถูกเลื่อนไป ซึ่งครั้งหน้าก็คงจะต้องพยายามเชิญท่านเหล่านี้มาให้ได้" นายวิทวัสกล่าว


 


นายวิทวัส กล่าวว่า เท่าที่ซาวเสียงขณะนี้มีหลายประเทศที่เห็นว่าควรจัดประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่กรุงเทพฯ เพราะไม่อยากให้ผู้นำของเขาเดินทางหลายขั้นตอน เนื่องจากมีเครื่องบินส่วนตัว โดยมีสื่อมวลชนของประเทศนั้นๆ เดินทางมาด้วย เขาก็ไม่อยากไป จ.เชียงใหม่ ถึงแม้จะชอบ จ.เชียงใหม่ เพราะ เมื่อเครื่องบินแตะที่เชียงใหม่ก็ต้องนำกลับมาจอดที่สนามบินสุวรรณภูมิ ดังนั้นถ้าเราพิจารณาว่าเป็นกรุงเทพฯ ได้ก็จะสะดวกสำหรับหลายประเทศ


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net