คณะทำงานประชาสัมพันธ์ข้อมูลถ่านหินที่ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม ได้จัดเวทีปรึกษาหารือร่วมกับกลุ่มราษฎรผู้คันค้านการใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิงของ บริษัทเซฟสกิน เมดดิคอล แอนด์ ไซเอนทิฟิก (ประเทศไทย) จำกัด ณ วัดหัวถนน ตำบลปริก อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา โดยมีนายสมชัย ถาวรวิจิตร หัวหน้าคณะทำงานฯ ราษฎรหมู่ที่ 8 ตำบลปริก และตัวแทนบริษัทเซฟสกินฯ เข้าร่วม เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2551

โดยมีข้อสรุปคือ ทางชุมชนควรเลือกตัวแทนชุมชน เพื่อเป็นองค์กรภาคประชาชน ในการเยี่ยมโรงงานอย่างเป็นระบบเพื่อแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนร่วมกัน อีกทั้งต้องมีการจัดทัศนศึกษา ดูงานสถานประกอบการที่ใช้ถ่านหิน ชุมชนจะเลือกโรงงานที่จะไปดู และคัดเลือกตัวแทนในการเข้าร่วมดูงานโดยให้เลขานุการคณะทำงานฯ ประสานกับตัวแทนชุมชน เพื่อดำเนินการเกี่ยวกับการจัดทัศนศึกษาดูงาน

           
แหล่งข่าวจากอุตสาหกรรมจังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า จากข้อสรุปดังกล่าว ทางอุตสาหกรรมฯ พิจารณาแล้วเห็นว่า การนำถ่านหินและทดลองเครื่องจักร ในช่วงนี้อาจจะสร้างความขัดแย้ง ซึ่งเป็นช่วงที่ปัญหาทุกอย่างกำลังคลี่คลายไปในทางที่ดี และใกล้ถึงจุดสิ้นสุดของการแก้ปัญหาของทุกฝ่าย ถ้าหากมีการดำเนินใดๆ ไปก่อน อาจจะไม่เกิดผลดีหรืออาจทวีความขัดแย้งเพิ่มมากขึ้น จนไม่สามารถหาข้อยุติได้

แหล่งข่าวกล่าวว่า ด้วยเหตุดังกล่าว ทางสำนักงานอุตสาหกรรมฯ ได้ทำหนังสือส่งไปเพื่อให้บริษัทเซฟสกินฯ ให้ทบทวนการทดลองเดินเครื่องดังกล่าวไว้ก่อน โดยหนังสือฉบับนี้ลงวันที่ 6 มกราคม 2552 ลงนามโดยนายอุดมเดช นิ่มสกุล อุตสาหกรรมจังหวัดสงขลา โดยขอให้ชะลอการนำเข้าถ่านหินสู่บริเวณโรงงานและทดลองเครื่องจักรในขณะนี้ไว้ก่อนจนกว่าจะได้ข้อยุติ

ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ บริษัท เซฟสกิน เมดดิคอล แอนด์ ไซเอนทิฟิก (ประเทศไทย) จำกัด ได้ทำหนังสือแจ้งความประสงค์จะทดลองเดินเครื่องจักรระบบหม้อน้ำที่ใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิง ลงวันที่ 9 ธันวาคม 2551 พร้อมรายละเอียด โดยมีกำหนดการทดลองเดินเครื่องจักรระหว่างวันที่ 8 มกราคม - 7 กรกฎาคม 2552

โดยในกำหนดการระบุว่า ในวันที่ 8 มกราคม 2551จะนำถ่านหินเข้าสู่บริษัทฯ ประมาณ 30 ตัน ก่อนจากนั้นจะทดสอบความพร้อมของเครื่องจักร อุ่นเตา เริ่มเผาถ่านหินและระบบจะเดินเครื่องเต็มกำลังประมาณวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2552 หลังจากนั้นจะทำการวัดค่าอากาศที่ปลายปล่องประมาณ 6 ครั้ง ถึงประมาณวันที่ 7 กรกฎาคม 2552 ซึ่งจะใช้ปริมาณถ่านหินในการทดลองเครื่องจักวันละ 108 ตัน เป็นเวลา  6 เดือนรวมปริมาณการใช้ถ่านหินประมาณ 19,940 ตัน

แหล่งข่าวเปิดเผยด้วยว่า ในส่วนกรณีของ บริษัท อินโนเวทีฟ โกลฟส์ จำกัด หมู่ที่ 4 ตำบลควนลัง อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ที่ได้ใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิงนั้น เนื่องจากทางบริษัทฯ ไม่ได้ขออนุญาตขยายโรงงานเพิ่ม จึงไม่ต้องขออนุญาตใช้ถ่านหิน แต่ทางสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสงขลา มีหน้าที่แค่ควบคุมการใช้กำลังแรงม้าให้เป็นตามใบอนุญาต และควบคุมกากของเสียจากโรงงานที่ปล่อยออกมาไม่ให้เกินมาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนดและไม่ให้ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

อีกทั้งควบคุมให้บริษัทฯ ปฏิบัติตามประกาศของจังหวัดสงขลาเท่านั้น แต่ทางบริษัทฯ ก็ต้องแจ้งมายังสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสงขลาทราบในเรื่องการใช้ถ่านหินดังกล่าวด้วย

แหล่งข่าวยังกล่าวด้วยว่า ส่วนในเรื่องการอนุญาตการใช้ถ่านหินนั้น น่าจะเป็นหน้าที่ขององการปกครองส่วนท้องถิ่นมากกว่า

น.ส.พิมพ์ใจ รัตนะ ผู้อำนวยการกองสาธารณะสุขและสิ่งแวดล้อม เทศบาลเมืองควนลัง กล่าวว่า การอนุญาตให้ใช้ถ่านหินเป็นหน้าที่ของสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสงขลา ไม่ใช่เทศบาลเมืองควนลัง เพียงแต่ในการอนุญาตนั้นจะต้องมีความเห็นของเทศบาลเมืองควนลังด้วย ซึ่งขณะนี้ทางเทศบาลเมืองควนลังยังไม่มีความเห็นในเรื่องนี้แต่อย่างใด

น.ส.พิมพ์ใจ เปิดเผยด้วยว่า เหตุที่ยังไม่มีความเห็นเนื่องจาก ขณะนี้กำลังประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นักวิชาการมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ที่เชี่ยวชาญในเรื่องถ่านหิน รวมทั้งหน่วยงานตรวจสอบมลพิษจากโรงงาน มาร่วมประชุมเพื่อนำเสนอผลการดำเนินงานของแต่ละฝ่าย รวมทั้งเป็นการสร้างความเข้าใจให้แก่คณะกรรมการพิจารณาและผู้บริหารเทศบาลได้เข้าใจมากขึ้น เนื่องจากทางเทศบาลยังไม่มีความเข้าใจเพียงพอเกี่ยวกับเรื่องถ่านหิน

พร้อมทั้งให้จัดทำรายงานสรุปผลการดำเนินงานจากทุกฝ่าย มายังเทศบาลเมืองควนลัง เพื่อจะนำเข้าที่ประชุมสภาเทศบาลเมืองควนลัง เพื่อให้สภาลงมติเรื่องนี้ว่าสภาจะมีความเห็นควรอนุญาตให้บริษัท อินโนเวทีฟฯ ใช้ถ่านหินหรือไม่ จากนั้นจะส่งความเห็นดังกล่าวไปยัง สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสงขลาต่อไปเพื่อพิจารณาต่อไป