Skip to main content
sharethis

 


"มาร์ค"ไม่สบายใจ
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ว่า ยอมรับไม่สบายใจกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติให้ดำเนินคดีอาญานายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี และรองนายกรัฐมนตรี กรณีถูกกล่าวหาแจกทุนการศึกษา เข้าข่ายช่วยเหลือนายธานี เทือกสุบรรณ น้องชาย ที่เป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุราษฎร์ฯ โดยกล่าวว่า กรณีนี้เข้าใจว่าเป็นเรื่องที่ไกลพอสมควร ยอมรับว่าไม่ค่อยสบายใจเหมือนกัน เพราะเห็นข่าวบอกว่ายังไม่ถึงที่สุด ซึ่งความจริงยังไม่ได้เริ่มต้นเลย เพราะเป็นคดีเลือกตั้งของตัวผู้สมัครคือนายก อบจ. ต้องสิ้นสุดก่อน ถึงจะย้อนกลับไปที่ กกต. ในส่วนของคดีอาญา เมื่อถึงจุดนั้นก็ค่อยมาว่ากันอีกที



นายกฯกล่าวกรณีฝ่ายค้านประกาศยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจด้วยว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบ ต้องรอให้ฝ่ายค้านยื่นและอภิปรายก่อน เมื่อถามว่า ถ้ามีการปรับ ครม. จะลดกระแสลงได้หรือไม่ นายกฯกล่าวว่า ไม่ทราบ เพราะยังไม่รู้ว่าฝ่ายค้านเตรียมอะไรไว้บ้าง อย่างไรก็ตาม เรื่องการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ถือเป็นสิทธิที่ทำได้ รัฐบาลพร้อมยอมรับการตรวจสอบ ไม่รู้สึกกังวล เพราะใน 1 เดือนที่ผ่านมาได้ทุ่มเททำงานเต็มที่ ซึ่งมีความก้าวหน้าและเปลี่ยนแปลงไปมาก


 


"สุเทพ" ลั่นไม่ได้ทุจริตอะไรเลย


นายสุเทพ เทือกสุบรรณ กล่าวว่า นายวิฑูรย์ไม่ถือว่าเป็นปัญหาของพรรคประชาธิปัตย์ แต่เป็นเรื่องที่ต้องแก้ไข ผู้สื่อข่าวถามหากปรับ ครม.เฉพาะรายของนายวิฑูรย์โดยที่ไม่ปรับนายบุญจง จะทำให้เกิดสองมาตรฐานหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า อย่าคิดไปไกลขนาดนั้น เพราะยังไม่มีการปรับนายวิฑูรย์


 


เมื่อถามว่า แต่คนในพรรคภูมิใจไทยออกมาส่งสัญญาณถึงรัฐบาลไม่ให้มีการปรับนายบุญจง นายสุเทพกล่าวว่า ยังไม่มีสัญญานที่แสดงให้เห็นว่าพรรคภูมิใจไทยมากดดันพรรคประชาธิปัตย์ ขณะนี้กรณีของนายวิฑูรย์กำลังรวบรวมหลักฐาน ซึ่งก็ไม่ถือว่าช้าเท่าไหร่ อีก 1-2 วัน ก็จะมีความชัดเจนมากขึ้น



นายสุเทพย้ำถึงเรื่องที่ กกต.มีมติเอาผิดอาญาด้วยว่า ไม่ได้ไปช่วยน้องชายหาเสียง แต่ไปร่วมงานสงกรานต์ เพื่อทำบุญตักบาตร รดน้ำดำหัวผู้ใหญ่เท่านั้น"ผมไม่ได้มีเรื่องทุจริตอะไรเลย เรามีกระบวนการยุติธรรม เราต้องเชื่อในกระบวนการยุติธรรม แล้วไปพิสูจน์กัน ถ้าศาลบอกว่าผิดผมก็ต้องผิด"นายสุเทพกล่าว


 


"ธานี" อ้างมอบซองเปล่าให้นักเรียน
นายธานี เทือกสุบรรณ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานี (อบจ.) กล่าวว่า ที่นายสุเทพถูกกล่าวหา เป็นเรื่องไม่จริง โดยผู้พูดเรื่องนี้เป็นการเอาเรื่องสองเรื่องมาผสมกัน



"ผมไปมอบวุฒิบัตรให้แก่นักเรียนเป็นโครงการด้านยาเสพติดของ อบจ.ที่ทำมาก่อนเป็นปีแล้ว และยังไม่หมดวาระในตำแหน่ง นายก อบจ. โดยได้รับเชิญให้เป็นประธานปิดโครงการและมอบวุฒิบัตรแก่นักเรียนที่ร่วมโครงการและมอบซองให้นักเรียนภายในไม่ได้มีธนบัตรหรือเงินแต่อย่างใด ผมทำหนังสือชี้แจงต่อ กกต.สุราษฎร์ธานี ยังเชื่อมั่นว่าหากมาถึงศาลอุทธรณ์จะไม่รับฟ้องเรื่องนี้" นายธานีกล่าว



นายธานีกล่าวว่า สำหรับกรณีของนายสุเทพ มอบผ้าห่มแก่ผู้สูงอายุที่ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี นายสุเทพไปในฐานะเป็น ส.ส.เขต 1 สมัยแรกนายสุเทพไม่ได้หาเสียงหรือการปราศรัยใดๆ จึงมั่นใจไม่ได้ทำผิด


 


กกจ.แจงเหตุไม่เรียก "สุเทพ" ชี้แจง


นายสมชัย จึงประเสริฐ กกต.ด้านกิจการสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย กล่าวกรณี กกต.มีมติให้ดำเนินคดีอาญากับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2551 กรณีแจกทุนการศึกษา เข้าข่ายช่วยนายธานี เทือกสุบรรรณ น้องชายหาเสียง ระหว่างลงสมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ.สุราษฎร์ธานี ว่า ยอมรับว่ากรณีดังกล่าว กกต.กลางและ กกต.จว.ไม่ได้เรียกนายสุเทพเข้าชี้แจง แต่เรื่องนี้ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะเป็นกรณีที่เห็นควรเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งหรือแจกใบแดง นายสุริญญา ยืนนาน ผู้สมัคร ส.อบจ.อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี จากพรรคประชาธิปัตย์ โดยนายสุเทพเป็นผู้มีส่วนเข้าไปเกี่ยวข้องและถูกพาดพิง จึงสั่งดำเนินคดีอาญา หากศาลอุทธรณ์วินิจฉัยแล้วไม่เห็นด้วยกับมติ กกต.ในการให้ใบแดง นายสุเทพก็ไม่ถือว่ามีความผิด แต่หากศาลเห็นตาม กกต.ก็ต้องดำเนินคดีกับนายสุเทพต่อไป


 


ทั้งนี้ หากนายสุเทพจะถูกตัดสินว่ามีความผิดจริง ก็ไม่ส่งผลให้พรรคถูกยุบได้ เพราะการยุบพรรคมีกำหนดไว้ใน พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และการได้มาซึ่ง ส.ว.เท่านั้น แต่ไม่มีอยู่ในกฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่น



"กรณีที่ดำเนินคดีอาญานายสุเทพ เราไม่ต้องเรียกสอบก็ได้ เพราะนายสุเทพไม่ได้เป็นผู้ที่เราจะให้ใบเหลือง (สั่งเลือกตั้งใหม่) และใบแดง (เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง) เพราะงานนี้นายสุเทพเข้าไปมีส่วนพัวพันเราก็เลยเป่านกหวีดฟาวล์ และยืนยันว่ากรณีดังกล่าวไม่เป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับพรรคประชาธิปัตย์" นายสมชัยกล่าว



อ้างไม่ให้ใบแดง "บุญจง"เหตุเพราะสอบตก


นายสมชัยยังแถลงว่า การที่ กกต.ไม่เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง (ใบแดง) แต่ให้ดำเนินคดีอาญากับนายบุญจง เพราะเรื่องดังกล่าวเป็นการร้องคัดค้านที่เกิดขึ้นในช่วงที่มีการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2550 ในขณะนั้นนายบุญจงไม่ได้รับการเลือกตั้ง ทำให้ กกต.ยังไม่หยิบยกมาพิจารณาก่อนเป็นลำดับแรก แต่เลือกที่จะพิจารณาสำนวนของนายพลพีร์ สุวรรณฉวี ผู้สมัครจากพรรคเพื่อแผ่นดิน ที่ได้รับการเลือกตั้งก่อน


 


จนต่อมา กกต.ก็พบว่าเป็นการเลือกตั้งที่ไม่เป็นไปโดยสุจริต จึงสั่งให้เลือกตั้งใหม่ (ใบเหลือง) เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2551 ทำให้เรื่องที่มีการร้องคัดค้านนายบุญจงถูกลบล้างไปด้วยเพราะมีการเลือกตั้งใหม่ครั้งนั้น ซึ่ง กกต.ไม่สามารถเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งได้ จึงเหลือแต่เพียงให้ดำเนินคดีอาญาตามมาตรา 53 ของ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่ง ส.ว.พ.ศ.2550 ตามมติของ กกต.เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2550 ดังกล่าว การกระทำผิดคดีอาญานั้นยังคงอยู่ตลอดไป และการดำเนินคดีอาญานั้น หากศาลพิจารณาว่าผิด ก็สามารถเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งนายบุญจงได้เป็นเวลา 5 ปี



ผู้สื่อข่าวถามว่า ทำไมดำเนินคดีอาญาอย่างเดียวไม่เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งทั้งที่ทำผิดตามมาตรา 53 ของกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส. นายสมชัยกล่าวว่า เพราะ กกต.ได้ประกาศให้นายบุญจงได้มีสิทธิเลือกตั้งลงรับสมัครเลือกตั้งในวันที่ 20 มกราคม 2551 ไปแล้ว และการเลือกตั้งครั้งเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม กกต.ก็ยังไม่ได้ประกาศผลเลือกตั้งด้วย จึงยังไม่ได้พิจารณาสำนวนของนายบุญจงก่อน ดังนั้น กกต.จึงพิจารณาสำนวนของนายบุญจงเมื่อวันที่ 3 เมษายน 2551 หลังจากที่ประกาศผลเลือกตั้งแล้ว เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2551 แล้ว และไม่สามารถเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งได้ เพราะข้อกล่าวหาถูกล้างไปแล้วหลังจาก กกต.มีมติให้เลือกตั้งใหม่ 



โต้ดองเรื่อง โวยกลับมีเพียงสิบมือ 5 คน


เมื่อถามว่า กกต.พิจารณาเรื่องล่าช้าหรือไม่จนมีการเลือกตั้งใหม่ทำให้นายบุญจงได้กลับมาเป็น ส.ส. นายสมชัยกล่าวว่า "ไม่ใช่ สมมุติหากมีการร้องเรียนมา 2-3 เรื่อง กกต.ได้พิจารณาเรื่องหนึ่งให้เลือกตั้งใหม่ การเลือกตั้งครั้งก่อนก็ถูกลบไปด้วย เพราะ กกต.ได้สั่งให้เลือกตั้งใหม่จะให้พิจารณาอีกเรื่องหนึ่งได้อย่างไร และสำนวนของนายบุญจงที่เข้ามาสู่ กกต.ก็ยังดำเนินการอยู่เพียงแต่ กกต.สั่งให้มีเลือกตั้งใหม่"



ส่วนสำนวนของนายบุญจงพิจารณา 3 เมษายน 2550 จนจะครบปีแล้วทำไมยังไม่ส่งฟ้องศาล นายสมชัยกล่าวว่า กกต.ได้พิจารณาเสร็จและให้ดำเนินคดีอาญาไปแล้ว เพียงแต่คำวินิจฉัยอาจล่าช้า ซึ่งหากสั่งให้ดำเนินคดีอาญาแต่ไม่มีคำวินิจฉัยยืนยันก็ไม่มีหลักฐานเบื้องต้นจะไปแจ้งความกับเจ้าพนักงานได้
นายสมชัยกล่าวว่า คงไม่มีเจ้าหน้าที่ยุคใหม่ต้องการดึงเรื่องให้ช้า เพียงแต่งานเยอะ และคงเขียนคำวินิจฉัยยาก กกต.ยืนยันตั้งใจทำตามกฎหมายตรงไปตรงไป เพราะ กกต.มีเพียงสองมือ 5 คน มีสิบมือจะทำให้เรื่องที่มีอยู่หนึ่งพันเรื่อง เมื่อถามว่า ตรงนี้จะถือเป็นข้อบกพร่องของ กกต.หรือไม่ที่ดองสำนวนนายบุญจงนานถึง 10 เดือน นายสมชัยกล่าวว่า จะถือเป็นข้อผิดพลาดคงไม่ใช่ เพราะคดีอาญาก็ใช้เวลานานกว่าศาลจะตัดสิน และเรื่องนี้ก็เป็นส่วนของกฎหมายอาญา



"ถ้าเป็นการร้องในการเลือกตั้งครั้งใหม่ กกต.ก็จะให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง (ใบแดง) แต่ที่พูดถึงกรณีนายบุญจงตอนนี้นั้นไม่ใช่ เพราะ กกต.ได้สั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่แล้ว ซึ่งไม่เหมือนกัน" นายสมชัยกล่าว


 


"ณัฐวุฒิ" ใช้เวทีเพื่อไทยแฉรูป "สุเทพ" แจกของ


นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีตโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงที่โรงแรมกรีนเนอรี่ รีสอร์ท อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ระหว่างร่วมงานสัมมนากับ ส.ส.พรรคเพื่อไทย โดยกล่าวหานายสุเทพว่า หลังตกเป็นข่าว นายสุเทพยอมรับว่าเดินทางไปในที่ที่มีการร้องเรียนจริง แต่เป็นการไปทำบุญตามประเพณีในฐานะ ส.ส.และกล่าวอวยพรเนื่องในวันสงกรานต์โดยไม่มีการแจกของนั้น



"ผมมีรูปภาพของนายสุเทพที่กำลังถวายสังฆทานให้แก่พระภิกษุ จากนั้นได้เดินไปพบผู้สูงอายุในพื้น ที่เกาะสมุย และได้มอบสิ่งของตามที่มีการร้องเรียน ดังนั้น การอ้างว่าไปอวยพรจึงเป็นการกล่าวเท็จและข้อกฎหมายไม่ได้บัญญัติไว้ให้มีการยกเว้น ซึ่งหากนายสุเทพประสงค์จะทำบุญ ทำไมต้องไปพร้อมผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์ ข้าวของที่แจก ระบุชัดว่าเป็นของพรรคประชาธิปัตย์  การอ้างว่าไม่ใช่กรณีการทุจริต คอร์รัปชั่นนั้น จะต้องไม่ลืมว่า กฎหมายจะต้องเป็นกฎหมาย ความยุติธรรม จะต้องเป็นความยุติธรรม เพราะกรณีของนายสมัคร สุนทรเวช ที่จัดรายการชิมไปบ่นไป ขณะเป็นนายกฯ ก็ไม่ใช่เป็นการทุจริต คอร์รัปชั่น หรือเอาเปรียบทางการเมืองในสนามเลือกตั้งก็ยังถูกพิพากษาว่าขัดต่อกฎหมาย พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ในกรณีของนายสุเทพจึงไม่สามารถกล่าวอ้างได้"นายณัฐวุฒิกล่าว



ทั้งนี้ นายณัฐวุฒิได้นำภาพถ่ายที่อ้างว่าเป็นของนายสุเทพ นายชุมพล กาญจนะ และนายประพนธ์ นิลวัชรมณี ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ ที่ กกต.มีมติเอาผิดคดีอาญาคราวเดียวกัน มาแสดงประกอบการแถลงข่าวด้วย โดยทั้ง 3 คนสวมเสื้อโลโก้ของพรรคประชาธิปัตย์ ขณะเดินทางไปแจกผ้าห่มให้ประชาชนบนเกาะสมุย


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net