Skip to main content
sharethis
ชมรมผู้นำเข้าแรงงานต่างด้าวยื่นข้อเสนอถึง รมว.แรงงาน ขอแก้ พ.ร.ก.การนำคนต่างด้าวมาทำงานกับนายจ้างในประเทศ พ.ศ.2559 เสนอให้ “ลดเงินประกัน-ไม่ต้องวางหลักประกันไว้กับทางราชการ-ขยายระยะเวลาบทเฉพาะกาลจาก 60 วันเป็น 1 ปี-ค่าขอวีซ่า ค่าตรวจสุขภาพ ค่าประกันสุขภาพและค่าขอใบอนุญาตทำงาน นายจ้างเรียกคืนจากแรงงานได้”
 
10 ก.ย. 2559 นายอารักษ์ พรหมณี อธิบดีกรมการจัดหางาน ระบุเมื่อวันที่ 9 ก.ย. 2559 ที่ผ่านมาว่าได้มอบหมายให้นายสมบัติ นิเวศรัตน์ ผู้ตรวจราชการกรมการจัดหางาน ต้อนรับตัวแทนจากชมรมผู้นำเข้าแรงงานต่างด้าวที่มายื่นข้อเสนอถึงพลเอก ศิริชัย ดิษฐกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ขอให้แก้ไขพระราชกำหนดการนำคนต่างด้าวมาทำงานกับนายจ้างในประเทศ พ.ศ.2559 เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการบังคับใช้พระราชกำหนดฯ ฉบับดังกล่าว ซึ่งนายศักดิ์ชัย ธรรมปรีชาถาวร ประธานคณะกรรมการรุ่นก่อตั้งชมรมผู้นำเข้าแรงงานต่างด้าวได้เป็นผู้แทนยื่นข้อเสนอเป็นจำนวน 6 ข้อดังนี้ 1.ลดจำนวนเงินหลักประกันที่ผู้รับอนุญาตต้องวางไว้กับอธิบดีกรมการจัดหางานจากไม่น้อยกว่า 5 ล้านบาทเป็นไม่น้อยกว่า 3 แสนบาท 2.ให้เรียกเก็บหลักประกันจากนายจ้างในอัตราเดียวกับที่เรียกเก็บจากบริษัทผู้รับอนุญาตยกเว้นนายจ้าง ที่นำคนต่างด้าวมาทำงานโดยไม่ใช้บริการของผู้รับอนุญาตไม่เกินคราวละ 5 คน ไม่ต้องวางหลักประกันไว้กับทางราชการ 3.ให้ขยายระยะเวลาผ่อนปรนของบทเฉพาะกาลจาก 60 วันเป็น 1 ปี 4.บทนิยามของ คำว่าการนำคนต่างด้าวมาทำงาน 5.ให้กำหนดอัตราสูงสุดของค่าบริการที่บริษัทสามารถเรียกจากนายจ้างไว้ที่ไม่เกินคนละ 40% ในส่วนค่าของค่าขอวีซ่า ค่าตรวจสุขภาพ ค่าประกันสุขภาพ และค่าขอใบอนุญาตทำงานของแรงงานต่างด้าวให้นายจ้างเป็นผู้รับผิดชอบและเรียกคืนจากแรงงานต่างด้าวได้ 6.ให้กำหนดภาระความรับผิดชอบของผู้อนุญาตต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการส่งแรงงานต่างด้าวมาทำงานกับนายจ้างกลับประเทศเฉพาะกรณีที่เป็นความผิดของผู้รับอนุญาตเท่านั้น 
 
อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวในตอนท้ายว่าพระราชกำหนดการนำคนต่างด้าวมาทำงานกับนายจ้างในประเทศ พ.ศ.2559 ได้ร่างขึ้นบนหลักการเพื่อคุ้มครอง และป้องกันปัญหาที่เปราะบางและสุ่มเสี่ยงต่อการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน ซึ่งที่ผ่านมาการนำคนต่างด้าวมาทำงานกับนายจ้างในประเทศไม่มีกฎหมายใช้บังคับ จึงทำใหัเกิดปัญหาหลายประการ เช่น แรงงานบังคับ แรงงานขัดหนี้ เป็นต้น ซึ่งพระราชกำหนดดังกล่าวจะช่วยจัดระเบียบผู้ประกอบกิจการและป้องกันการลักลอบนำคนต่างด้าวมาทำงานโดยผิดกฎหมาย รวมทั้งคุ้มครองผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องตามกฎเกณฑ์และมีมาตรฐาน อย่างไรก็ตาม กรมการจัดหางานจะนำข้อเสนอดังกล่าวไปพิจารณาอย่างเร่งด่วน ตามความเหมาะสมต่อไป

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net