Skip to main content
sharethis

'วัฒนา' ข้องใจ 'พานทองแท้' โดนคดีฟอกเงินคนเดียว แต่ 'พล.อ.เปรม' รอด ทั้งที่ได้รับเช็คเหมือนกัน ด้าน พล.อ.สุรยุทธ์ระบุเป็นเรื่องเก่า ไม่จำเป็นต้องตรวจสอบ

3 เม.ย. 2561 จากกรณีที่ พานทองแท้ ชินวัตร ลูกชายของ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟสบุ๊คส่วนตัว พาดพิงถึง พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี โดยภาพเช็คที่สั่งจ่ายเงินให้ พล.อ.เปรม จำนวน 250,000 บาท และพล.ร.ท.พะจุณณ์ ตามประทีป (ยศขณะนั้น) จำนวน 100,000 บาท ต่อมา พล.ท.พิศณุ พุทธวงศ์ นายทหารคนสนิทของ พล.อ.เปรม ออกมายอมรับว่าเช็คจำนวน 250,000 บาท   เรื่องนี้เกิดขึ้นมานานแล้ว ยืนยันเงินดังกล่าวได้ส่งต่อเข้าการกุศลจริงๆ พล.อ.เปรม ไม่ได้นำมาใช้ส่วนตัว นั้น

ล่าสุดวันนี้ (3 เม.ย.61) สำนักข่าวไทย รายงานว่า พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี ในฐานะประธานมูลนิธิรัฐบุรุษ พล.อ.เปรม กล่าวถึงกรณี ดังกล่าวด้วยว่า ช่วงเวลาที่ พานทองแท้ ระบุนั้น ตนยังไม่ได้ทำหน้าที่เป็นประธานมูลนิธิฯ  เรื่องนี้เป็นเรื่องเก่าและเกิดขึ้นนานมากแล้ว 

“ส่วนจะตรวจสอบประเด็นดังกล่าวหรือไม่ คงไม่ใช่เรื่องที่จะต้องตรวจสอบ เพราะเรื่องเกิดขึ้นมาก่อนที่ผมจะเข้ามาทำหน้าที่ประธานมูลนิธิฯ ส่วนที่พาดพิง พล.อ.เปรม ทราบว่าพล.ท.พิศณุ พุทธวงศ์ หัวหน้าสำนักงานมูลนิธิรัฐบุรุษฯ และนายทหารคนสนิทชี้แจงประเด็นนี้แล้ว ซึ่งเป็นไปตามนั้น” พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าว

เมื่อถามย้ำว่าเป็นการนำเรื่องการเมืองมาโจมตีพล.อ.เปรม และจะดำเนินการฟ้องร้องตามกฎหมายหรือไม่ พล.อ.สุรยุทธ์ปฏิเสธที่จะตอบคำถามดังกล่าว

'วัฒนา' ข้องใจ 'พานทองแท้' โดนคดีฟอกเงินคนเดียว ทั้งที่ได้รับเช็คเหมือนกัน

ด้าน วัฒนา เมืองสุข อดีต รมว.พาณิชย์ และแกนนำพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความในเฟสบุ๊ค Watana Muangsook เกี่ยวกับกรณีนี้ด้วยว่า ข้อเท็จจริงในเรื่องนี้คือ วิชัย กฤษดาธานนท์ ผู้บริหารในเครือกฤษดามหานครซึ่งถูกศาลพิพากษาว่าเป็นผู้กระทำความผิดกรณีเงินกู้ธนาคารกรุงไทย ได้สั่งจ่ายเช็คให้กับ พล.อ.เปรม และ พล.ร.ทพะจุณณ์ โดยเช็คทั้งสองฉบับสั่งจ่ายจากบัญชีเดียวกันกับที่จ่ายให้กับ พานทองแท้ เพื่อลงทุนทำธุรกิจร่วมกัน แต่ในที่สุดไม่ได้ทำ พานทองแท้ จึงได้คืนเงินจำนวนดังกล่าวให้กับ วิชัย ไป ประเด็นของ พานทองแท้ คือเหตุใดดีเอสไอจึงดำเนินคดีกับ พานทองแท้ เพียงคนเดียว แต่ละเว้นที่จะดำเนินคดีกับ พล.อ.เปรม และ พล.ร.ท.พะจุณณ์ทั้งที่ได้รับเช็คจาก วิชัย เหมือนกัน

ส่วนที่ พล.ท.พิศณุแถลงว่าเป็นการบริจาคเพื่อการกุศลนั้น วัฒนา ระบุว่า หาได้เป็นข้อยกเว้นความผิดอาญาฐานฟอกเงินไม่ เพราะการนำเช็คเข้าบัญชีคือการรับโอนหรือเปลี่ยนสภาพครบองค์ประกอบความผิดฐานฟอกเงินแล้ว ดังเช่นที่สหกรณ์คลองจั่นได้บริจาคเงินให้กับวัดพระธรรมกาย ที่ทั้งผู้บริจาคและผู้รับบริจาคต่างถูกดำเนินคดีฐานฟอกเงินเช่นกัน ข้อยกเว้นที่จะทำให้ผู้รับเช็คไม่ตกเป็นผู้กระทำความผิดคือไม่ทราบว่าเป็นเงินที่ได้มาจากการกระทำความผิด ซึ่งเป็นข้อต่อสู้ของ พานทองแท้ ต่อดีเอสไอ 

"อธิบดีดีเอสไอออกมาแถลงว่าการสั่งจ่ายเช็ครายที่มีมูลหนี้ต่อกันจริงๆ เช่น ชำระเป็นค่าที่ดิน ดีเอสไอก็ไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหานั้น ช่วยตอบผมหน่อยว่าการบริจาคเงิน 250,000 บาท หรือการจ่ายเช็คให้พลเรือโทพะจุณณ์ 100,000 บาท มีมูลหนี้ต่อกันอย่างไร โดยเฉพาะการบริจาคที่กฎหมายถือเป็นการให้ซึ่งจะสมบูรณ์ได้ด้วยการส่งมอบตาม ปพพ. มาตรา 523 ก่อนการบริจาคจึงไม่อาจมีมูลหนี้ใดๆ ต่อกันได้เลย แก้ตัวให้ดีนะครับทั้งสังคมกำลังจับตา อย่าสองมาตรฐานจนเคยตัว" วัฒนา ระบุตอนท้าย

วอยซ์ ออนไลน์ สรุป ไทม์ไลน์ เงิน 10 ล้าน เอี่ยวฟอกเงิน ไว้ดังนี้

  • จุดเริ่มต้นของคดีนี้ เกิดขึ้นเมื่อปี 2546 หลังจาก รัชดา กฤษดาธานนท์ ได้โอนเงินจำนวน 10 ล้านบาทเข้าบัญชี พานแท้ ระบุวันที่ 30 ธ.ค. 2546 เพื่อร่วมกันทำธุรกิจยานยนต์ ต่อมาชื่อของ พานทองแท้ ได้ถูกรวมในข้อหาฟอกเงิน ที่มีโทษจำคุกสูงสุด10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000-200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
  • หลังจากธนาคารแห่งประเทศไทย ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบถึงการกู้เงินธนาคารกรุงไทยของกลุ่มบริษัทกฤษดามหานคร ในวงเงิน 7,000 ล้านบาท ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับเงิน 10 ล้านบาท แม้ว่าก่อนหน้านี้ พานทองแท้ ได้มีการ 'โอนเงินคืน' รัชฎา ไปแล้ว 
  • ปัจจุบันคดีดังกล่าวอยู่ในความรับผิดชอบของดีเอสไอ ขณะที่ทีมทนายของ พานทองแท้ ได้ส่งหลักฐานที่เป็นเช็คทั้ง 2 ฉบับ และข้อมูลอื่นๆ ไปถึงคณะกรรมการดีเอสไอที่มีหน้าที่พิจารณาคดี เพื่อให้ตรวจสอบแล้ว 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net