Skip to main content
sharethis

'ก้าวไกล' ยื่นญัตติด่วนตั้ง กมธ. ตรวจสอบใช้งบประมาณแก้ปัญหาโควิด-19 หวังเพื่อถ่วงดุลฝ่ายบริหาร - รักษาผลประโยชน์ประชาชน ขณะที่ 'เทวัญ' ย้ำต้องฟังเสียงส.ส.ส่วนใหญ่

แฟ้มภาพ

6 พ.ค.2563 จากกรณีที่มีความพยายามเรียกร้องทั้งฝ่ายค้านและนักกิจกรรมทางการเมืองให้เปิดประชุมสมัยวิสามัญเพื่อร่วมมือกันหาทางออกให้กับประเทศตั้งแต่ช่วงเดือนที่ผ่านมา โดยวานนี้ (5 พ.ค.63) มีการหยิบยกประเด็นนี้เข้าสู่พื้นที่ทางการเมืองอีกครั้งหลังพรรคก้าวไกล ยื่นหนังสือต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรเสนอญัตติด่วนให้สภาผู้แทนราษฎรตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญติดตามตรวจสอบการใช้งบประมาณและมาตรการแก้ไขปัญหาโควิด-19 ของรัฐบาลนั้น

ล่าสุดวันนี้ เทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคชาติพัฒนา กล่าวถึงกรณีดังกล่าว ว่า ก็เป็นหน้าที่ที่ขอดำเนินการได้ ส่วนรัฐบาลก็โปร่งใสอยู่แล้ว และหากสภาเห็นว่าอย่างไรก็ตามนั้น และต้องฟังเสียงส.ส.ส่วนใหญ่

ขณะที่ สิระ เจนจาคะ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ แสดงความคิดเห็นกรณีนี้ด้วยว่าไม่เห็นด้วยเพราะในสภาที่ กมธ.ปปช. อยู่แล้วและเป็นการสิ้นเปลืองงบประมาณ

อนันต์ ผลอำนวย ส.ส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานกรรมาธิการกิจการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการเปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎร สมัยสามัญ ในวันที่  22 พ.ค.นี้ ว่า ตนมีความเป็นห่วงว่าเมื่อเปิดประชุมสภาแล้ว ทางสภาจะมีมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของ โควิด-19  อย่างไร ตนจึงได้กำชับกับทางเจ้าหน้าที่สภาว่าในวันที่มีการประชุมจะต้องมีการบริหารจัดการที่เหมาะสม เพราะส.ส.มาจากทั่วประเทศ มีผู้ติดตามมาด้วย การกำหนดเส้นทางเข้าออก การจัดพื้นที่ห้องอาหาร การวัดไข้ หรือส่วนที่เกี่ยวข้องต่างๆ จะทำอย่างไร เบื้องต้น ได้ประสานหน่วยงานทางการแพทย์ ให้ช่วยวางแผนให้กับทางสภาแล้ว และได้ให้ส.ส.ที่อยู่ในกมธ.กิจการสภาฯ ช่วยออกความเห็นต่างๆว่าอะไรควรทำหรือไม่อย่างไร

สำหรับการยื่นหนังสือดังกล่าวของ พรรคก้าวไกล พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคฯ กล่าวด้วยว่า  จุดประสงค์ในการขอตั้ง กมธ.ชุดนี้ เพื่อเป็นกลไก ติดตามเรื่องสถานการณ์ความทุขก์ร้อนของประชาชน เรื่องมาตรการเยียวยาประชาชน และเรื่องการใช้งบประมาณของรัฐบาล ทั้งนี้ สถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด -19 อย่างที่ทุกคนทราบคือ ได้ส่งผลกระทบในวงกว้าง ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสุขภาพประชาชน และแม้จะมีการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทำให้นายกรัฐมนตรีมีอำนาจเต็ม โดยบรรดาอำนาจหน้าที่ของรัฐมนตรี และเจ้าหน้าที่ตามกฎหมาย ถูกโอนมาเป็นอำนาจนายกรัฐมนตรีชั่วคราว แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า นายกรัฐมนตรีจะกระทำการใดๆ โดยปราศจากการตรวจสอบของฝ่ายนิติบัญญัติ
.
"อีก 2 สัปดาห์ การประชุมสภาสมัยสามัญจะมีขึ้น ในการช่วยเหลือเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด -19  นอกจาก พ.ร.ก.กู้เงินทั้ง 3 ฉบับที่ต้องพิจารณาแล้วยังมีร่าง พ.ร.บ.โอนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 รวมถึง ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2564 พรรคก้าวไกลจะยื่นญัตติ ตั้ง กมธ.ชุดนี้ด้วย เพื่อ เพื่อทำหน้าทีติดตาม ตรวจสอบ ประเมินผล และให้ข้อเสนอแนะแก่รัฐบาล เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ และกลไกตรวจสอบถ่วงดุลฝ่ายบริหาร และรักษาผลประโยชน์ประชาชนที่ควรได้รับ อันเป็นหน้าที่ของสภาผู้แทนราษฎร" พิธา กล่าว

ทั้งนี้ ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ โฆษกพรรคก้าวไกล ออกมาตอบโต้ สิระ ด้วยว่า ตนขอชี้แจงจุดประสงค์ของพรรคก้าวไกลชัดๆอีกครั้ง การยื่นญัตติให้มีการ ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญติดตามตรวจสอบการใช้งบประมาณและมาตรการแก้ไขปัญหาภายใต้วิกฤติการระบาดของไวรัสโคโรนา2019 เพื่อเป็นกลไก ติดตามเรื่องสถานการณ์ความทุขก์ร้อนของประชาชน เรื่องมาตรการเยียวยาประชาชน และเรื่องการใช้งบประมาณของรัฐบาล ทั้งนี้ สถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด -19 อย่างที่ทุกคนทราบคือ ได้ส่งผลกระทบในวงกว้าง ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสุขภาพประชาชน และแม้จะมีการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทำให้นายกรัฐมนตรีมีอำนาจเต็ม โดยบรรดาอำนาจหน้าที่ของรัฐมนตรี และเจ้าหน้าที่ตามกฎหมาย ถูกโอนมาเป็นอำนาจนายกรัฐมนตรีชั่วคราว แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า นายกรัฐมนตรีจะกระทำการใดๆ โดยปราศจากการตรวจสอบของฝ่ายนิติบัญญัต

ณัฐชา กล่าวว่า เริ่มต้นมาเหมือนจะดีว่าเคารพการทำงานของฝ่ายค้านตามระบอบประชาธิปไตยที่ต้องตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล แต่เมื่อพิจรณาดีๆ ไม่ว่าฝ่ายค้านจะเสนออะไรที่เป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนแค่ไหน ซีกฝั่งรัฐบาลไม่เคยให้ความร่วมมือและตอบสนองเลย แล้วมาอ้างว่าทำงานเพื่อพี่น้องประชาชน จึงอยากให้นายสิระทำอย่างที่พูดจริงๆสักครั้งคือทำงานเพื่อพี่น้องประชาชน ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ สสทุกคนช่วยเหลือประชาชนเบื้องหน้าอย่างเต็มที่คือการแจกของ ซึ่งไม่สามารถแก้ปัญหาที่ต้นน้ำได้ นายสิรน่าจะเข้าใจบทบาทหน้าที่ของสส ตามที่รัฐธรรมนูญได้กำหนดไว้ พวกเรามีหน้าที่นำเสนอปัญหาของพี่น้องประชาชนต่อฝ่ายบริหารเพื่ออนุมัติงบประมาณในการแก้ปัญหาของพี่น้องประชาชน นี่คือการแก้ปัญหาที่ต้นน้ำ การแสดงความคิดเห็นของนายสิระ บ่งบอกว่าไม่มีความเข้าใจใดๆเกี่ยวกับบทบาทหน้าที่ของสส. ที่แท้จริง ความจริงแล้วท่านสิระ เป็นฝ่ายค้านนะครับแต่ไม่ใช่ค้านเพื่อถ่วงดุลแต่เป็นค้านทุกเรื่องที่เป็นประโยชน์ของพี่น้องประชาชน ตนขอถือโอกาสนี้ ให้สิระ ช่วยสนับสนุนในการเปิดประชุมวิสามัญ ในครั้งนี้ละกัน หากท่านเป็นผู้แทนของปวงชน ท่านย่อมรู้ว่าปัญหาของประชาชน คือ สิ่งสำคัญที่พวกเราต้องร่วมกันแก้ไข

เรียบเรียงจาก จดหมายข่าวทีมสื่อพรรคก้าวไกล, TNN และกรุงเทพธุรกิจออนไลน์

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net